บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข้อเสนอรูปธรรม ในการรณรงค์ให้ยกเลิก 112

ที่มา Thai E-News


โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

กฏหมายมาตรา 112 เป็นกฏหมายที่ขัดกับประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกในทุกรูปแบบ และเป็นกฏหมายที่เป็นอุปสรรคในการสร้างความโปรงใสและการตรวจสอบอำนาจรัฐ

ตรงนี้ผู้รักประชาธิปไตยจำนวนมากเข้าใจดี และถ้าเราดูประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจริง ที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โดยเฉพาะในยุโรป เราจะพบว่า หลายประเทศยกเลิกกฏหมายนี้นานแล้ว

หรือประเทศที่ยังมี ไม่มีการใช้กฏหมายในรูปธรรมในปัจจุบัน และที่สำคัญคือไม่มีการใช้เพื่อปิดปากคนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง อันนี้คือความจริง ไม่ว่านักวิชาการเสื้อเหลืองจะแอบอ้างมาอย่างไร

ดังนั้นการรณรงค์ให้ยกเลิกกฏหมาย 112 เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายทำได้ ทั้งคนที่สนับสนุนให้มีประมุขเป็นกษัตริย์ หรือคนที่ต้องการระบบสาธารณรัฐ

ปัญหาที่เราต้องมาร่วมกันคิดคือ เราจะรณรงค์ให้ยกเลิกกฏหมายนี้อย่างไร ผมในฐานะผู้หนึ่งที่โดนกฏหมาย 112 ในปี 2551 มีข้อเสนอดังนี้

กฏหมาย 112 เป็นกฏหมายที่ใช้ปกป้องเผด็จการ โดยเฉพาะทหาร และลูกน้องของทหาร เช่นนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ หรือศาลเป็นต้น การรณรงค์ให้ยกเลิก 112 จึงแยกไม่ออกจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ในเมื่อการยกเลิกกฏหมาย 112 เป็นเรื่องเดียวกับการสร้างประชาธิปไตย เราควรจะมองเห็นชัดเจนว่า ผู้ที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มวลชนคนเสื้อแดงนั้นเอง เป็นผู้ที่สามารถรณรงค์ให้ยกเลิก 112 ได้ ถ้าเขาตัดสินใจร่วมกันที่จะสู้ตรงนี้ ซึ่งแปลว่าถ้าเราต้องการรณรงค์ให้ยกเลิกกฏหมาย 112

เป้าหมายหลักคือการชักชวนมวลชนเสื้อแดงของ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ให้หันมาร่วมรณรงค์กับเรา เราไม่ต้องไปหวังพึ่งนักวิชาการที่ไม่ใช่เสื้อแดง เพราะพวกนี้ประกาศนานแล้วในงานเสวนาต่างๆ ว่าไม่อยากให้ยกเลิก 112 ไปหมด อย่างมากก็พูดว่าควร “ปฏิรูป” หรือ “ลดโทษ” ซึ่งเท่ากับปกป้องคงไว้กฏหมายที่กีดกันสิทธิเสรีภาพ

แต่ในขณะเดียวกัน เราต้อง “เข้าใจ” มวลชนเสื้อแดงส่วนใหญ่ เพราะเรื่อง 112 ล้อมรอบด้วยความกลัว หลายคนอาจคิดว่า เป็นการยกระดับการต่อสู้ และเขาอาจไม่แน่ใจว่าเขาพร้อมหรือไม่

ส่วนแกนนำ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งประกาศตัวอย่างซื่อสัตย์ว่าเป็นแนวปฏิรูปในโครงสร้าง อาจยังไม่พร้อม และอาจกลัวว่าจะโดนป้ายสีว่าเป็นพวก “ล้มเจ้า” ซึ่งเป็นข้ออ้างของอำมาตย์ไทยเพื่อเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนมาตั้งแต่ ๖ ตุลาจนถึงวันนี้


สรุปแล้วเวลาเรารณรงค์เพื่อให้ยกเลิก 112 ในขบวนการเสื้อแดง เราต้องเป็นมิตรกับมวลชนที่อาจยังไม่เห็นด้วยกับเรา เราต้องใจเย็นในการอธิบายและชักชวน แต่เราต้องชักชวนอย่างต่อเนื่องให้มวลชนรากหญ้าของ นปช. แดงทั้งแผ่นดินหันมาต่อต้านกฏหมาย 112 ซึ่งเป็นวิธีสำคัญที่จะกดดันแกนนำให้เปลี่ยนใจด้วย

และไม่แน่... เราอาจกดดันต่อไปสู่พรรคเพื่อไทยในอนาคตก็ได้ แต่เราหวังพึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้อยู่ดี

ผู้ที่สนใจ แต่จะชี้หน้าด่าคนที่คิดต่างในแกนนำ นปช. หรือกล่าวหาคนเหล่านั้นว่า “ไม่แน่จริง (เหมือนกู)” หรือป้ายร้ายว่า “ถูกซื้อตัว” หรือ “มีสัญญาลับเรื่องการปรองดอง” เป็นผู้ที่สนใจแต่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง และสนใจแต่จะแยกตัวปลีกตัวออกจากมวลชนผู้มีพลังจริงในการสร้างประชาธิปไตย เพื่อไปสร้าง “กองกำลังปฏิวัติแท้” ซึ่งไม่มีวันบรรลุอะไรได้


นักปฏิวัติอย่างเลนินกับมาร์คซ์ พูดเสมอว่า ต้องทำงานกับมวลชนที่ยังไม่พร้อม เพื่อถกเถียงชักชวนให้เขาขยายความคิด และเปลี่ยนความคิด และเขาพูดอีกว่า เราไม่ควรโกหกมวลชนด้วยนิยายเท็จ

หลายคนทราบดีว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา มีการ์ด นปช. จับสาวคนหนึ่งที่แจกใบปลิว แล้วส่งคนนี้ให้ตำรวจ ในด้านหนึ่งเราเข้าใจความหวาดกลัวของการ์ดหรือคนบนเวที แต่ไม่ว่าจะอย่างไรมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และไม่ควรเกิดขึ้นอีก แต่มีใครสักกี่คนในแวดวงไซเบอร์ที่ยอมรับว่า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาพูดตรงๆ ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น?

นอกจากการรณรงค์ให้ยกเลิก 112 จะแยกไม่ออกจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแล้ว เราควรเข้าใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ผู้ที่ใช้และปกป้องกฏหมายนี้สุดหัวใจคือทหาร ทหารต้องการปกป้องกฏหมายนี้ เพราะมันให้ความชอบธรรมในการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งปกติแล้วทหารไม่มีความชอบธรรมตรงนี้

การที่คดี 112 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังรัฐประหาร ๑๙ กันยา เป็นเพราะนายทหารชั้นผู้ใหญ่สั่งมา และสั่งลูกน้องอย่างอภิสิทธิ์หรือนักการเมืองประชาธิปัตย์อื่นๆ อีกด้วย

ลองย้อนกลับไปพิจารณาพระราชดำรัสเดือนธันวาคมปี 2548 มีการตรัสว่าการที่คนบอกว่า...
“กษัตริย์ทำอะไรไม่ผิดนั้นเป็นการดูถูกกษัตริย์ เพราะทำไมกษัตริย์จึงจะทำผิดไม่ได้ เพราะแสดงให้เห็นว่าพวกเขามองกษัตริย์ไม่ใช่มนุษย์” .... “สมมติว่าเราพูดอะไรผิด เพราะไม่ตระหนัก นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ทำผิดโดยไม่ตระหนัก และมาตระหนักว่ามันผิด มันไม่ดีที่จะทำผิดโดยตระหนักว่าทำผิด แต่บางครั้งก็ไม่ได้ตระหนัก ก็ต้องขอโทษ ถ้าพูดโดยไม่ตระหนัก การไม่ตระหนักคือการไม่ระวัง ภายหลังก็จะเสียใจ” ... “ถ้าถือคำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมดว่าเป็นการหมิ่น พระเจ้าอยู่หัวก็จะเสียหาย”


เราอาจตีความพระราชดำรัสนี้ได้หลายด้าน แต่สำหรับผม พออ่านแล้วชวนให้ผมเชื่อว่าคนที่ยังผลักดันการใช้กฏหมาย 112 คือทหาร เพื่อปกป้องทหารและพรรคพวกเอง

ด้วยเหตุนี้เราควรมองว่าอุปสรรค์สำคัญในการยกเลิกกฏหมาย 112 และการสร้างประชาธิปไตย คือกองทัพ ซึ่งแปลว่าเราต้องมีข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพอย่างถอนรากถอนโคนด้วย และเราต้องชักชวนให้มวลชนเสื้อแดงมาร่วมรณรงค์เรื่องกองทัพกับเรา

ในระยะสั้น

1.เราควรแจกใบปลิว และเก็บลายเซ็นในจดหมายเปิดผนึกเพื่อยกเลิกกฏหมาย 112 ในมวลชนเสื้อแดง นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ในทุกโอกาส ทุกชุมชน

2. เราควรเปิดโปงและกดดันองค์กรต่างๆ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ Amnesty International ที่เผิกเฉยกับนักโทษ 112 หรือถึงกับสนับสนุนการใช้กฏหมายนี้ เราควรไปยื่นหนังสือและยืนประท้วง

3. เราควรรณรงค์สนับสนุนและไม่ลืมนักโทษ 112 ทุกคน อย่างที่มีการทำมาหลายปีแล้วแต่ควรขยายไปสู่มวลชนจำนวนมากกว่านี้


********

เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์:บันทึกเข้าเยี่ยมหนุ่ม เรดนนท์ 1 วันหลังคำตัดสินคุก 13 ปี

-รวมพลังจม.หมื่นฉบับปล่อยสุรชัยเหยื่อคดีหมิ่น แดงล้านนามติต้าน112 ฮือร่วมทั่วไทยเลิกกม.เผด็จการ

-สาวิตรี สุขศรี นิติราษฎร์:ข้อสังเกตบางประการ คำพิพากษาจำคุก 13 ปี ผู้ออกแบบเว็บ นปช.ยูเอสเอ

-วรเจตน์ นิติราษฎร์:ปัญหาของกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์

-เจ้ย-อภิชาติพงศ์เจ้าของรางวัลหนังเมืองคานส์ และ5ผู้กำกับมือระดับนานาชาติโดดร่วมรณรงค์ตื่นรู้ม.112

-สมศักดิ์ เจียมฯ:การอภิปรายประเด็นสถาบันกษัตริย์ (รวมทั้ง ม.112) ไมใช่เรื่อง "ปากสว่าง"

-วรรคทองของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตอบโจทก์คาใจ:ตาสว่าง ปากกระซิบ อียิปต์ ตูนิเซีย ลิเบีย อียิปต์ๆๆๆ..

-ปากคำสาวเสื้อแดงที่โดนการ์ดนปช.คุมตัวส่งตำรวจกรณีแจกเอกสารม.112ในที่ชุมนุมใหญ่12มีนาคม

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker