บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประพันธ์ลั่นไม่เอา “เลือกตั้ง” แต่ขอระบอบอะไรก็ได้ให้ “คนดีๆ” ปกครองบ้านเมือง

ที่มา ประชาไท

“ประพันธ์ คูณมี” ปราศรัยเวที พธม. ชี้วิธีไหนก็เอาทั้งนั้น ขอให้ได้คนดีปกครองบ้านเมือง ย้ำเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ต้องการระบอบการปกครองที่ดีกว่าทุกวันนี้ พร้อมไล่อภิสิทธิ์และนักการเมืองไปลงนรก ลั่นในวันที่ พธม. ระดมพลขอให้ทุกคนออกมาเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ให้ออกมาช่วยเหลือตัวเองก่อน แล้ว “เทวดา พระเจ้า จะช่วยพวกเรา”

ประพันธ์ชี้ประเทศเสียหายจากนายกฯ เลือกตั้ง มากกว่านายกฯ ปฏิวัติ

ระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เวลาประมาณ 20.50 น. วานนี้ (21 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี แกนนำพันธมิตรฯ ได้ปราศรัยว่า ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปีพุทธศักราช 2475 เราเดินมาถึงวันนี้ 79 ปี ของระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะช่วงหลังจากที่มีการเลือกตั้งระบอบตัวแทน ประเทศไทยฉิบหายมากกว่าระบอบที่นายกฯ มาจากการแต่งตั้งและการปฏิวัติ

ตนดูหมดแล้วนายกฯที่มาจากการปฏิวัติ รัฐประหาร ไม่ต้องเลือกตั้ง ได้แก่ พลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา จอมพล ป. พิบูลสงคราม ดร.ปรีดี พนมยงค์ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายอานันท์ ปันยารชุน หรือแม้กระทั่งพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ก็ต้องถือว่าเป็นนายกฯที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ทั้งหมดนี้รวมกันทำความเสียหายให้บ้านเมือง โกงทุจริต ยังน้อยกว่านายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งคนเดียว นี่คือความระยำบัดซบของการเมืองระบอบเลือกตั้ง

ยกตัวอย่างสารพัดผู้นำแต่งตั้ง ชี้สมัยเปรมไม่มีการเลือกตั้ง แต่บ้านเมืองมีความสุข
บรรดาเหล่านี้ ปรากฏว่ายุคที่นายกฯ มาจากการแต่งตั้งบ้านเมืองกลับเจริญมากกว่าการเลือกตั้ง โดยนักการเมืองโสโครกสกปรกพวกนี้ พระยาพหลพลพยุหเสนา ท่านปรีดี พนมยงค์ เป็นยุควางรากฐานการเมือง และระบอบเศรษฐกิจ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็มีการสร้างกองทัพ พัฒนาบ้านเมือง เปลี่ยนแปลงประเพณีหลายสิ่ง แม้บางสิ่งไม่ดีแต่ก็ฝ่าฟันมา ความเสียหายที่เกิดขึ้น โกงทุจริต เสียชาติเสียแผ่นดิน ไม่มี มาถึงยุคจอมพลสฤษดิ์ ยุคนั้นมีการพัฒนาประเทศอย่างมาก เรียกว่าน้ำไหล ไฟสว่าง มีการตั้งสภาพัฒนาเศรษฐกิจ
นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ก็มีการแก้ไขปฏิรูปกฎหมายมากมาย มีกฎหมายแรงงาน ค่าแรงขั้นต่ำเกิดในยุคนี้ มีการคุ้มครองแรงงาน ส่วนชาวไร่ชาวนา ก็มีปฏิรูปที่ดิน สปก. 4-01 ก็เกิดในยุคนี้ นายอานันท์ มาจากปฏิวัติโดย พล.อ.สุจินดา ก็มีการปรับปรุงภาษี พัฒนาการคมนาคม ประมูลระบบโทรศัพท์ มีการวางพื้นฐานให้ประชาชนสะดวกสบาย ส่วน พล.อ.เปรม ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ตอนนั้นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง แต่กลัวอำนาจทหาร จึงตั้ง พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ ยุคนี้จากการบริหารประเทศ 8 ปี พล.อ.เปรม ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง เงินคลัง ทุนสำรอง เหลือมากมาย ขุดพบแหล่งพลังงาน เป็นยุคที่โชติช่วงชัชวาล ข้าราชการไปดูงานเงินเหลือต้องคืนคลัง จัดเลี้ยงที่ทำเนียบก็ประหยัดให้ดื่มน้ำ ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การโกงทุจริตไม่มี มีจับได้ก็ไล่ออก และแม้จะเต็มไปด้วยคอมมิวนิสต์ โจรแบ่งแยกดินแดน ท่านก็ใช้ความรู้ความสามารถแก้ไขปัญหาได้หมด บ้านเมืองมีแต่ความสุข โดยไม่ต้องมาจากเลือกตั้ง
ชี้ยึดทรัพย์ทหารได้น้อยกว่านักการเมืองปัจจุบันโกง
ทีนี้มาดูตลอดยุครัฐประหารมีการยึดทรัพย์ 2 ครั้ง ครั้งแรกจอมพลสฤษดิ์ ถูกกล่าวหาว่าทุจริต ก็ยึดทรัพย์กว่า 604 ล้านบาท หนที่ 2 จอมพลถนอมและพวกก็ยึดไม่ถึง 100 ล้านบาท น้อยมากถ้าเทียบกับการโกงในยุคปัจจุบัน
หลังจากยุคพลเอกเปรม นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเริงร่าเลย พล.อ.ชาติชาย ยุคนี้เรียกว่าบุฟเฟ่ต์คาบิเนต แดกด่วน มือใครยาวสาวได้สาวเอา โกงมโหฬาร จากนั้นพล.อ.สุจินดาก็ทำการปฏิวัติ ยึดทรัพย์พล.อ.ชาติชายถึง 1,600 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมคณะรัฐมนตรียุคนั้นที่ร่วมกันโกง รวมกันแล้วเป็นหมื่นล้านบาท
มายุค พล.อ.ชวลิต มีการลดค่าเงินบาท เศรษฐกิจล่มสลาย เงินคงคลังเกลี้ยง เหตุการณ์นี้คนที่รวยที่สุดก็คือคนที่ไปอยู่มอนเตรเนโกร เพราะแบบนี้นักเลือกตั้งมันถึงอยากเลือกตั้ง มาถึงยุคนายชวนรอบแรก การทุจริตไม่มาก แต่พอมาเป็นนายกฯรอบ 2 มีการเซ็นกฎหมาย 11 ฉบับ กู้ไอเอ็มเอฟ เซ็นเอ็มโอยู 2543 การออกกฎหมาย 11 ฉบับ ทำให้บริษัทต่างชาติเข้ามาประมูลหนี้สินคนไทยถูกๆ ทำกำไรอย่างมหาศาล เป็นยุคแรกของการขายชาติ ประชาธิปัตย์ถูกตราหน้าว่าขายชาติ
อัดโกงทั้งทักษิณ-อภิสิทธิ์ ส่วนพวกแต่งตั้งหน้าบางกว่าพวกมาจากการเลือกตั้ง
ต่อมานายบรรหาร การทุจริตก็ฉาวโฉ่ อยู่แค่ปีเดียวก็ลงจากอำนาจ ต่อมาเลวร้ายสุดคือยุคนายทักษิณ ศาลฟ้องว่าร่ำรวยผิดปกติ 7.6 หมื่นล้าน ผลงานวิจัยของอาจารย์สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ก็ชี้ว่าสามารถทำธุรกิจตัวเองร่ำรวยขึ้น 6 หมื่นล้าน ถึงเกือบแสนล้านบาท คตส.ก็พบการทุจริตเฉพาะ 13 โครงการเกือบ 3 แสนล้าน นี่ไงระบอบเลือกตั้ง ประชาธิปไตยจอมปลอม ที่สำคัญยุคทักษิณ ได้สร้างวัฒนธรรมการโกงแบบใหม่ คือโกงคำโต เป็นมรดกตกทอดมายังไอห้อย ไอ้โหน ไอเตี้ย ไอหน้าดำ แดกทีเป็นหมื่นๆล้าน
มาดูนายอภิสิทธิ์ ไม่น้อยหน้า ไม่ว่าเมล์เอ็นจีวี ฟิลลิป มอร์ริส ไทยเข้มแข็ง ถนนปลอดฝุ่น รถไฟความเร็วสูง ฯลฯ นี่อยู่ไม่ถึง 5 ปี รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านแล้ว เจาะไปกระทรวงไหนก็โกงทั้งนั้น เห็นหรือยังมาจากการเลือกตั้งกับการรัฐประหารแต่งตั้ง อันไหนชั่ว อันไหนเลวกว่า มาดูเรื่องสปิริต และความรับผิดชอบทางการเมือง พวกแต่งตั้งก็หน้าบางกว่าพวกเลือกตั้งมาก อีกทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม การคุกคามเสรีภาพประชาชน ก็ปรากฏให้เห็นแล้วว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งสร้างปัญหามากกว่า
ลั่นถ้าไม่เอาการเลือกตั้ง ก็เอาระบอบอะไรก็ได้ให้คนดีๆ มาปกครองบ้านเมืองวิธีไหนก็เอา
นายประพันธ์ ยังกล่าวอีกว่า พวกแม่ยกชอบถามว่าถ้าไม่เอานายอภิสิทธิ์ แล้วจะเอาใคร คำตอบคือเอาใครก็ได้ที่ไม่ใช่พวกนักการเมืองที่มีอยู่ทุกวันนี้ แล้วถ้าถามว่าไม่เอาเลือกตั้งจะเอาระบอบอะไร ก็เอาระบอบอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องมีพวกโจรห้าร้อยมามาปกครองบ้านเมือง ให้คนดีๆ มาปกครองบ้านเมืองมาวิธีไหนก็เอาทั้งนั้น
"เราไม่ได้แสวงหาระบอบการปกครองที่จะเป็นอันตรายต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่เป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่เราต้องการระบอบการปกครองที่ดีกว่าทุกวันนี้" นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวว่า ขอบอกเลยวันนี้นายอภิสิทธิ์ และโจร 500 ไปลงนรกได้แล้ว เราไม่รับอำนาจการปกครองของพวกนี้อีกต่อไป เราต้องลุกขึ้นมาสามัคคีกันให้มากที่สุด ขอเพียงถึงวันที่เราระดมกำลังเราต้องมากันให้เต็มแผ่นดิน ฝากถึง ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ควรมีจุดยืนที่เห็นแก่บ้านเมือง ถึงวันนั้นต้องบอกทุกคนให้ออกมาช่วยเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองด้วยตัวของเราเอง ขอแค่ร่วมมือกันออกมาช่วยตัวเองก่อน เทวดา พระเจ้า จะช่วยพวกเรา
ที่มา: เรียบเรียงจาก เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker