คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ตามที่นายกฯ อภิสิทธิ์ ประกาศล่วงหน้าว่าจะ "ยุบสภา" ในสัปดาห์แรกเดือนพ.ค.
ส่วนยุบสภาแล้วจะมีเลือกตั้งหรือไม่คือช็อตต่อไป ที่ต้องลุ้นกัน
ฝ่ายที่คิดว่าไม่น่าจะมีเลือกตั้งอ้างว่า มีสัญญาณหลายอย่างบ่งชี้ไปทางนั้น
เช่น การที่ทหารออกมารวมพล "ตบเท้า" ถี่ยิบ
การไล่จับวิทยุชุมชนของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งถูก นำไปขยายว่าเป็นความต้องการปิดหูปิดตาประชาชน เพื่อเตรียมทำอะไรบางอย่างไม่ดีไม่งาม
หรือกรณีโพลหลายแห่งฟันธงตรงกันว่าพรรค การเมืองที่กุมอำนาจขณะนี้อาจเป็นฝ่ายแพ้เลือกตั้ง เปิดโอกาสให้พรรคตรงข้ามเข้ามาเถลิงอำนาจแทน ซึ่ง "มือที่มองไม่เห็น" ยากจะยอมรับได้
รวมถึงกรณีศึกชายแดนไทย-กัมพูชา
ด้วยปัจจัยภายนอกภายในต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด จนกว่ากระแสความนิยมของรัฐบาลจะดีขึ้นกว่านี้
หรือสามารถขุดรากถอนโคนฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซากเสียก่อน
อย่างไรก็ตามฝ่ายที่มีความเห็นไปในทางที่ว่าน่าจะมีการเลือกตั้งตามกำหนด
เพราะดูจากความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคการเมืองไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก เก่าหรือใหม่ ที่ทยอย จับขั้ว จัดทัพผู้สมัคร แถลงเปิดนโยบายหาเสียงกันคึกคัก
ร่างกฎหมายลูก 3 ฉบับก็ผ่านวุฒิสภาเรียบร้อย เหลือแค่กระบวนการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่น่ามีปัญหา ทันก่อนยุบสภาแน่นอน
เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้เชื่อว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นจริง
ก็คือข้อมูลจากศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้งของกกต.ที่พบว่า
ขณะนี้บางจังหวัดภาคอีสานและภาคตะวันออกเริ่มขนเงินลงพื้นที่ มีพฤติการณ์จ่ายเงิน เรียกประชุม ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ
แสดงเจตจำนงว่าจะมีการซื้อขายเสียงกันแล้ว
ตรงนี้เองคือข้อยืนยันอย่างดีเรื่องเลือกตั้ง
เพราะการเมืองแบบไทยๆ การ "เลือกตั้ง" กับการ "ซื้อเสียง" เป็นของคู่กันมาแต่ดึกดำบรรพ์
ดังนั้น เมื่อนักการเมืองเริ่มขยับซื้อเสียงเมื่อไหร่ แสดงว่ามั่นใจแล้วกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ จะต้องมีเลือกตั้งแน่นอน
แต่ถ้าหวยดันไปออกใน 1 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ
ก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน