โดย ฐากูร บุนปาน
(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 19 เมษายน 2554)
ถ้าเป็นคติโบราณของไทย ผู้หลักผู้ใหญ่ก็สอนไว้ว่าอะไรที่มีคุณอนันต์ ก็มีโทษมหันต์อยู่ในตัว
หรือถ้าเป็นหลักเศรษฐศาสตร์ เขาก็สอนไว้แทบทุกตำราว่า "There is no such thing as a free lunch." หรือ โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี
แปลไทยเป็นไทยอีกทีก็คือ ทุกอย่างในโลกนี้มีต้นทุนทั้งนั้น มีรายรับก็ต้องมีรายจ่าย มีได้ก็ต้องมีเสีย
จะได้อยู่ข้างเดียวฝั่งเดียวได้อย่างไร
สถานการณ์ก็คงจะคล้ายๆ กับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังประสบอยู่ในเวลานี้
นั่นคือหลังจากสิ้นอำนาจ ต้องหนีคดีออกไปอยู่ในต่างประเทศ แม้จะยังไม่พ่ายแพ้ชนิดเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แต่อาการก็หนักหนาสาหัสเต็มที
ที่ช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ (และอำนาจต่อรองทางการเมือง) ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นมีสามสี่ปัจจัยด้วยกัน
อำนาจเงินและผลงานเก่าๆ ที่ยังติดตรึงใจประชาชนจำนวนไม่น้อยนั้นก็ส่วนหนึ่ง
แต่ที่ออกแรงและมีบทบาทมากก็คือสององค์กรการเมืองที่ทำงานคู่ขนานกันอย่าง พรรคเพื่อไทย และ กลุ่มคนเสื้อแดง
ในภาวะที่ผลประโยชน์ยังสอดคล้องต้องตรงกัน คืออยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำ จะต้องร่วมแรง ร่วมใจ และร่วมมือกันป้องกันตัว (และตอบโต้)
ความผิดแผกแตกต่างระหว่างสองส่วนนี้อาจจะยังไม่มากเท่าไหร่
แต่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป คือเห็นโอกาสที่จะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะอยู่ข้างหน้าไม่ไกล
ความต่างระหว่างสองส่วน คือขบวนการประชาชน (และนักการเมืองที่เกาะอยู่กับซีกนี้) กับนักการเมืองประเภทนักเลือกตั้งอาชีพ ก็เห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
เพราะไม่ว่าข่าวเรื่อง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายเสนาะ เทียนทอง หรือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กำลังเกาะกลุ่มกันบ้าง หรือจะลาออกไปตั้งพรรคใหม่บ้าง จะเป็นจริงหรือไม่
แต่การออกมาเขย่ากันบ่อยๆ ว่าไม่พอใจหรือไม่สบายใจที่อีกฝ่าย ′ล้ำเส้น′ นั้นสะท้อนปรากฏการณ์นี้ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว
ส่วนการออกมาเขย่ากัน จะเป็นแค่กลยุทธ์เพื่อเรียกค่าตัวเพิ่มหรือไม่ ต้องให้ข้อเท็จจริงในระยะต่อไปเป็นเครื่องพิสูจน์
สถานการณ์แบบนี้แหละที่จะเป็นเครื่องทดสอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นนักบริหารอยู่หรือไม่
จะจัดการกับความแตกต่างที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะหน้า แต่ว่าจะผูกพันไปถึงหลังการเลือกตั้งแล้วอย่างไร
มีข้อมูลเต็มมือจนกระทั่งตัดสินใจได้แน่นอนว่าจะเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
หรือจะสามารถประสานจัดการกับความแตกต่างนี้ให้ทุเลาลงชั่วคราว เพื่อซื้อเวลาไปจนกว่ามีอำนาจรัฐในมือ แล้วค่อยว่ากันอีกที
หรือมีทางออกทางอื่นที่ ′เซอร์ไพรส์′ กว่านี้
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ไม่ง่าย
เพราะทุกทางล้วนแต่มีเดิมพันสูงลิบลิ่ว
ทั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณเองและคนอื่นๆ