ชื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ "ลาออก" มาแล้วจากทุกตำแหน่ง
ทั้ง ผบ.สส. ผบ.ทบ. นายกรัฐมนตรี
ส.ว.-ส.ส. รองนายกฯ รมว. กลาโหม รมว.มหาดไทย หัวหน‰าพรรคความหวังใหมˆ และประธานพรรคเพื่อไทย
ครั้งล่าสุดแม้เขาจะยังไม่ปรากฏตัว แต่ปรากฏ "ลายเซ็น" ในจดหมาย "ลาออก" ด้วยเหตุผล "ความจงรักภักดี"
บิ๊กจิ๋ว-คนเคยอยู่ในวังบูรพาภิรมย์ของสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศา ภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ในฐานะหลานของ "ป้า" ผู้ซึ่ง เป็น "หม่อมห้าม" คนสุดท้ายขององค์เจ้าของวัง
"หม่อมเล็ก ภาณุพันธุ์" ผู้ปลูกฝังแนวคิด "สถาบัน" ให้ "บิ๊กจิ๋ว" นั้น เป็นบุตรสาวของ นายทองดำ ยงใจยุทธ ข้าหลวงในรัชกาลที่ 5 เป็นตระกูลชาวสวนแถบตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม มีพี่สาวคนโตชื่อ แจ่ม ยงใจยุทธ และมีน้องชายชื่อ ร้อยเอกชั้น ยงใจยุทธ ผู้เป็นบิดาของ "บิ๊กจิ๋ว"
กล่าวกันในวังบูรพาภิรมย์ว่า ป้าของ "บิ๊กจิ๋ว" ถึงแก่กรรม สมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ทรงโทมนัสเป็นอย่างมาก จนถึงกับทรงขังพระองค์เองอยู่ ในวังบูรพาภิรมย์เพียงพระองค์เดียวถึง 7 วัน 7 คืน
เมื่อทั้งองคาพยพของ "ทักษิณและพวก" ดิ้นรนให้พ้นข้อครหา "ไม่จงรักภักดี"
จึงแต่งตั้ง "บิ๊กจิ๋ว" หลานของ "หม่อมห้าม" เป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ก็เพื่อตอบโจทย์-แก้ข้อหา "ไม่จงรักภักดี"
จากนั้น "ข่าวปล่อย" ออกจากปาก "บิ๊กจิ๋ว" ว่า จะมีหม่อมเจ้ารุ่นสุดท้าย ที่ชื่อ พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เข้าร่วมงานการเมืองในพรรคเพื่อไทย
แต่ราชนิกูล "ม.จ.จุลเจิม" เปิดเผยต่อสาธารณะว่า ไม่เคยคุยเรื่องการเมืองกับ พล.อ.ชวลิต
ข้อครหาอันศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งพยายามแก้ คล้ายยิ่งพยายามมัด เมื่อเวที เสื้อแดง นปช. 10 เม.ย. 54 ปราศรัยพาดพิง "สถาบัน"
เป็นคำปราศรัย-ที่ไม่มีใครกล้าเผยแพร่ กระเทือนไปถึงข้าราชบริพารราชสำนัก
ทุกเสียง-ทุกสัญญาณยังทำให้บริวารพรรคเพื่อไทยจมอยู่ในพงศาวดารกระซิบ ที่ถูกส่งต่อมาจากชนชั้นสูงถึงหูของทหาร ผ่านการตีความของนักการเมือง และการสร้าง "ข่าวลือ"
"บิ๊กจิ๋ว" จึงปฏิบัติบูชา ด้วยการ "ลาออก" ที่เป็นปริศนา-มืดดำ
ความคลุมเครือของ "บิ๊กจิ๋ว" ทำให้ถูกเข้าใจไปว่าเขากำลังเอาหลังพิงวัง ในวันที่เพื่อไทยใช้เขาเป็น "หนังหน้าไฟ"
................