หลังจากที่กองทัพต้องพบกับความสูญเสีย เนื่องมาจากเฮลิคอปเตอร์ตกติดต่อกันถึง 3 ครั้ง 3 ลำ ต้องสูญเสียกำลังพลไปถึง 17 นาย โศกนาฎกรรมและความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทำให้ถูกมองว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ และอากาศยานของกองทัพเก่าและล้าสมัย ร่วมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่ไม่พอใจกับการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน
วันนี้ (29 กรกฎาคม 2554) รายการ Hot Topic ร่วมพูดคุยกับตัวแทนนักวิชาการด้านความมั่นคง รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ.สุรชาติ ยอมรับว่า ประเด็นการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควรในสังคมไทย แต่ก็ขึ้นอยู่กับในช่วงเวลานั้นๆ สิ่งที่กองทัพและผบ.ทบ.จะต้องทำความเข้าใจ คือ ในสังคมของสหรัฐหรือสังคมในยุโรปการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้เป็นเรื่อง ปกติ ดังนั้นกองทัพควรจะเปิดกว้างในเรื่องดังกล่าว
ส่วนเรื่องของสื่อที่คิดว่าจะเป็นตัวปัญหาระหว่างกองทัพกับประชาชน และอาจจะทำให้กลายเป็นศัตรูกันนั้น อ.สุรชาติ กล่าวว่า สื่อไม่ใช่เป็นตัวปัญหา หากสื่อไม่นำเสนอหรือวิจารณ์ออกมา อาจจะมีคนบางกลุ่มที่เปิดเวทีวิจารณ์กองทัพขึ้นมาก็ได้ ดังนั้นสื่อก็เป็นเพียงมุมมองของเวทีวิจารณ์เหมือนกัน
ทั้งนี้การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์นั้น ประเทศเรามักจะมองกันแค่การจัดซื้อ แต่ไม่ได้มองเรื่องของการบำรุงรักษาและซ่อมยุทโธปกรณ์ เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องมาตรวจสอบหาสาเหตุกันเช่นเดิม และอ.สุรชาติ เชื่อว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรงกลาโหมนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มี ความสามารถมากกว่าคนเก่าอย่างแน่นอน และที่สำคัญสามารถพากองทัพก้าวไปสู่อนาคตได้