พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวพร้อมชี้นิ้ว
โดย สลึมสลือ
ที่มา เว็บบอร์ด Internet Freedom
30 กรกฏาคม 2554
อาการ นิ่ง ไม่ช่างเจรจา ไม่ตอบโต้หรือแสดงอาการดีใจออกนอกหน้าหลังจากที่ได้รับชัยชนะ และการไม่ออกหน้าสื่อบ่อยๆเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของฝ่ายต่างๆ ถือเป็นความยอดเยี่ยมของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่าที่นายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย
มันได้ทำให้สถานการณ์ ทางการเมืองในส่วนของพรรคเพื่อไทยพลอยดีขึ้นอย่างทันตาเห็น...นิ่งสงบ กลับกลายเป็นว่า “ฝ่ายตรงข้าม”เองที่คอยโหมกระหน่ำโจมตีอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีต่างๆ ต้องหมดเรี่ยวแรง และกลายเป็นฝ่าย บ้าไปเอง โดยพรรคเพื่อไทยและคุณยิ่งลักษณ์ยังไม่ได้ทำอะไรเลย...สะดุดปากตัวเองล้มทับ กันระนาว
ดังเช่นทหารกล้าแห่งกองทัพบกไทย นามว่าประยุทธ(เหล่)จอมว๊ากกก ขี้โมโห..เจ้าอารมณ์..วันก่อนคุณปู ขอเข้าพบ กลับถูกปฎิเสธอย่างไม่เหลือเยื่อใย อาจเพราะไม่ว่างจริงๆเพราะต้องไปคอยบีบสิวให้แม่..หรืออาจปวดไข่ดัน..หรือ แดกงบลับมากไปเลยเป็นพิษ..ฯลฯแต่กระนั้นท่านว่าที่นายกฯหญิง..ก็ไม่ได้ว่า กระไรเพราะคิดเสมอว่าตัวเองบุญน้อย
แต่กาลกลับตาลปัตรเมื่อผลการ เลือกตั้งจบผลคะแนนชนะแบบถล่มทลาย ท่านนายก ญ..ก็ไม่รีบร้อนที่จะไปขอคุยกับไอ้เหล่ตาหวานให้มันเมื่อยก้นอันสวยๆ เพราะตนเองได้กลายเป็นว่าที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของไอ้เหล่ตาหวานไปแล้ว... “จอมว๊ากกก”จึงเริ่มกระสับกระส่าย
ยังๆๆ ไม่วายส่งเสียงเอะอะโวยวาย..อยู่ตลอดเวลา คงหวังเรียกร้องความสนใจจากนายกฯหญิง..เพียงหวังเผื่อจะได้ขอเข้าพบอีกจะได้ รีบทำข้อตกลงกัน..แต่ขอโทษตอนนี้ว่าที่นายก ญ..ของเราก็ทำตัวไม่ค่อยว่างเหมือนกัน อาจต้องรีบไปเสริมสวย..ทำโน่นทำนี่เพราะช่วงหาเสียงเดินมากไม่มีเวลาสวย... ไม่ว่างจริงๆนะเหล่..โทษทีๆ
ตาม มาติดๆเมื่อบรรดาทูตานุฑูตทั้งหลาย..ต่างดาหน้ามาขอเข้าพบโดยไม่เว้นแต่ละ วัน..ทั้งฑูตเล็ก..ฑูตน้อย..ฑูตปานกลาง..ฑูตเป็นหย่อมหย่อม..สารพัดฑูต ได้มาขอเข้าพบเช้าสายบ่ายเย็น จะมีก็แต่พวกขี้ฑูต กับยมฑูตที่วิ่งเข้าหาไอ้พรรคเปรตเนี่ยทุกวัน และต่างก็ออกมาสำทับดังๆว่า..ประเทศไทยอย่าได้มีปฎิวัติอีกนะ ..ถ้ามีอีกจะโดนมิใช่น้อย
เหล่านี้ ถือได้ว่าเป็นการ ติดเบรก ไอ้จอมว๊ากกก..อย่างประยุทธ์ให้หยุด และหันมาค้อนปะหลับปะเหลือก...ทำปากขมุบขมิบ..อาจคิดอยู่ในใจว่า พ่อมึงเป็นเหี้ยไรวะ...แต่ในใจอาจร้อนรน นั่งรอโทรศัพท์จากยิ่งลักษณ์..ไม่เป็นอันหลับอันนอน..ตาอาจเหล่มากขึ้นไปอีก ออกอาการงุ่นง่าน พาลน้ำลายยืดตาเริ่มขวาง
แต่ เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด..ขณะกำลังรอโทรศัพท์(หวังลมแล้งๆ) ฮ.ทบ.ทะลึ่งตกไป3ลำรวด ไอ้จอมว๊ากกก แทบช็อค ลูกน้องตายไป17 ตัว ฉิบหายละสิ ทุกฝ่ายต่างจับจ้องมองมาที่ ผบ.ทบ.ตัวเดียว โดยมีคำถามตามมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเป็นอย่างนี้ มันเกิดทุจริตกันภายในกองทัพหรือเปล่า ใครจะรับผิดชอบ ผบ.ทบ.ต้องรับผิดชอบมั๊ย..คราวนี้ “จอมว๊าก”เริ่มตาขวาง พร้อมเดินตูดบิดๆ
เมื่อ ถูกรุกเข้าหนักๆ เพราะเจอแต่คำถามยากๆ หรือถามแล้วตอบไม่ได้ไม่รู้จะตอบยังไง หรือทำไมไมไม่ถามไอ้ที่กูอยากตอบวะ พอเจอแบบนี้เข้า ฟิวส์ขาดสิ กลายเป็นองค์ลง ว๊ากกกเหมือนเดิม ชี้หน้าด่ากราดไปทั่ว ทั้งนักข่าว นักวิจารณ์ นักวิชาการ เว็ปไซท์ วิทยุ ทีวี ..มียกเว้นหน่อยก็ เมียที่บ้าน กับเมียที่เหล่ชอบเลีย
วาทะสวย ปนเลือดที่ว่า “อยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องอยู่” หากดูตามบริบทและวิแคะ กันแล้ว มันก็ไม่ได้มีความหมายไรหรอก เพราะดูจากคนพูดแล้ว พูดไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ประเภทปากหมาพาไป ปากโป้ง ปากหมาพูดไม่ทันคิด อารมณ์ติดพัน...แต่ในใจคงไม่ได้คิดอะไรมากหรอก
แต่ วาทะกรรม นี้ทำให้ประยุทธ ย่ำแย่หนักขึ้นไปกว่าเดิม จากนักเลง กลับกลายเป็นอันธพาล หากดูตามสายตา ตอนนี้ “จอมว๊าก”อย่างไอ้เหล่ได้ถูกกุมสภาพไว้หมดแล้ว โดยมาดามปูไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลย จะสู้ก็สู้ไม่ได้ จะหนีก็หนีไม่ออก แดรกไม่เข้า สำรอกไม่ออก เสือกทำตัวเอง ...นี่แหละความเป็นคนเจ้าอารมณ์
จะ ปฎิวัติ ก็ทำไม่ได้เพราะสายตาของชาวโลก ที่ล้อมประเทศอยู่เฝ้ามองอยู่อย่างรู้เท่าทัน จึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ความชอบธรรมของพรรคเพื่อไทยที่มาตามครรลองประชาธิปไตย บุคลิกของผู้นำกองทัพที่อาจไม่เอื้อต่อการบริหารประเทศในภาวะเช่นนี้...“จอม ว๊ากกก” กำลังตกเป็นรอง อย่ากระพริบตา