คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ถ้า ไม่ใช่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เป็นรัฐบาลอีกชุด ป่านนี้ประชาชนทั้งผู้ประสบภัยและไม่ประสบภัยคงต้องดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเรียบร้อย
เผลอๆ ยังจะมีรัฐมนตรีขนาดกะทัดรัดบางคนออกมากล่าวโจมตีสื่อมวลชนที่ลงไปทำข่าวทุกวันนี้ว่า
"ทำเพื่อโปรโมตบริษัทตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อชาติ พยายามทำเหมือนรัฐบาลไม่ทำอะไร"
หรือมี "ผู้นำ" บางคนที่จิตใจคับแคบ พูดจาแดกดันพิธีกรข่าวชื่อดังว่าเมื่อไหร่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบัน บางคนในซีกฝ่ายค้านไม่ได้ทำตัวให้เป็นประโยชน์ในยามประเทศชาติอยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน
ยังมุ่งแต่จะเล่นการเมือง ฉวยเอาวิกฤตประชาชนกำลังประสบปัญหาทุกข์ยากมาเป็นโอกาสในการโค่นล้มรัฐบาล
อย่างการเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินสู้ภัยน้ำท่วมนั้น
ว่า กันตามจริงคงมองเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นเรื่องของการขุดกับดักหลุมพรางทางการเมือง พร้อมกับสร้างความแตกแยกระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ
โทรโข่งแมลงสาบอ้างว่า มีภาคเอกชนถึงกับออกมาคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องให้รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขสถานการณ์ขณะนี้
อยากรู้จริงๆ ว่าภาคเอกชนที่ว่าคือใคร
ทำไมถึงกระเหี้ยนกระหือรืออยากให้บ้านเมืองอยู่ภายใต้กฎหมายกึ่งเผด็จการ
ถ้าบอกว่าเพื่อให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งการเด็ดขาด ถามว่าจะให้เด็ดขาดอย่างไร
เวลาประกาศให้ประชาชนอพยพแล้วเขาไม่อพยพ บางคนก่อม็อบฮือไปพังคันกั้นน้ำ หรือยกพวกไปขัดขวางการปิด-เปิดประตูน้ำ
ถาม ว่าใจคอจะให้ใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา หรือสั่งให้ทหารใช้กำลังลากตัวไปกักขังในข้อหาพยายามปกป้องบ้านเรือน ทรัพย์สินของตัวเองให้อยู่รอดหรืออย่างไร
น่าเห็นใจฝ่ายค้านที่ต้องกระเสือกกระสนแย่งชิงพื้นที่สื่อ ไม่ปล่อยให้รัฐบาลทำงานได้ง่ายๆ
เพราะรัฐบาลทำงานมากเท่าไหร่
ก็จะยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้วมากเท่านั้น