โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 14 ตุลาคม 2554)
ไม่มีเรื่องอะไร ในลมหายใจประชาชนคนไทยเวลานี้ที่ใหญ่ไปกว่าภัยน้ำท่วมอีกแล้ว เพราะเป็นอุทกภัยครั้งรุนแรงอย่างมาก หลังจากหลายจังหวัดใหญ่ๆ จมหายไปทั้งเมือง ความหวาดผวาจึงปกคลุมไปทั่วเมืองหลวงซึ่งกำลังจะถึงคิวต้องรับกับปริมาณน้ำ มหึมาที่เคลื่อนตัวลงมาจากภาคเหนือในวันสองวันนี้
ห้างและร้านค้าทั่วเมืองกรุง เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มุ่งกักตุนน้ำดื่ม อาหาร ไปจนถึงถุงทราย และการแสวงหาสถานที่จอดรถปลอดพ้นน้ำ
เป็นเรื่องเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะภาพข่าวบ้านเรือนรถราเหลือแค่หลังคา จากหลายๆ จังหวัด ทำให้คน กทม.นอนไม่หลับ
แม้วันนี้รัฐบาลและ กทม.จะพยายามปลอบว่า น่าจะป้องกันเอาไว้ได้ แต่คงหาคนเชื่อได้ยาก
เพราะบ้านเราไม่เคยมีระบบบริหารจัดการกับมหันตภัยน้ำท่วมอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
แล้ว ต้องยอมรับว่า ที่ทำอยู่ในเวลานี้ไม่ค่อยถูกจุดนัก เป็นระบบที่ผิดพลาดมายาวนาน รัฐบาลนี้เข้ามารับหน้าที่ก็ทำไปตามแผนปฏิบัติอันผิดๆ นั้นไป
ระบบที่มุ่งเข้าไปควบคุมปริมาณและทิศทางน้ำ โดยไม่อิงกับธรรมชาติ ไม่อาศัยความเป็นจริงตามธรรมชาติ ลงเอยจึงพังครืน
กระนั้นก็ตาม เชื่อว่าโอกาสที่พื้นที่เศรษฐกิจของ กทม.หรือจะเรียกว่าเขตชั้นในของกรุงเทพฯ จะรอดพ้นวิกฤตไปได้มีอยู่สูง
เพราะได้รับการวางแนวปกป้องอย่างเต็มกำลัง
ในวันสองวันนี้คงได้รู้ชัดถึงประสิทธิภาพนั้น
แม้ภัยน้ำท่วมจะครอบครองอารมณ์ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่เอาไว้ แต่ใช่ว่าความเคลื่อนไหวในภาคอื่นๆ จะหยุดนิ่งไปด้วย
การเมืองในท่ามกลางน้ำท่วมก็ยังดำเนินไป โดยอาศัยน้ำนี่แหละเป็นเครื่องมือ
ภายหลังนายกฯเงาเดินทางไป ศปภ.เพื่อแสดงความจริงใจในการร่วมมือกับนายกฯจริง
เกิดเสียงชื่นชมตามมามากมาย แต่ไปไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็กลับ เกิดอะไรตามมาหรือไม่
ฝ่าย ค้านตั้งกระทู้ในสภาให้นายกฯมาตอบ ก็โดนสวนจากฝ่ายรัฐบาล ว่านายกฯกำลังใช้เวลาลงพื้นที่ช่วยประชาชน จะเดือดร้อนอะไรนักหนากับเรื่องกระทู้
ในทางกลับกัน พรรครัฐบาลเคลื่อนไหวแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม ก็โดนอีกพรรคหยิบมาโจมตีว่า มัวแต่วุ่นวายกับเรื่องอำนาจ ไม่ได้สนใจช่วยประชาชนที่ทุกข์ร้อน
ทหารก็กำลังช่วยน้ำท่วมอยู่แท้ๆ แต่จะมาแก้กฎหมายการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร อะไรทำนองนั้น
แม้แต่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความ นปช. บินมาจากต่างประเทศเพื่อเร่งคดี 91 ศพ ก็ไม่วายโดนประชาธิปัตย์งัดวิกฤตน้ำท่วมขึ้นมาสาดใส่
ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะสิ่งที่ทนายความคนนี้กำลังดำเนินการก็คือ เอาผิดกับผู้นำของประชาธิปัตย์
แต่ ที่น่าสนใจคือข้อเสนอจากประชาธิปัตย์ให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างว่านี่เป็นสถานการณ์ถึงขั้นต้องประกาศสงครามกับภัยธรรมชาติแล้ว
คำตอบจากรัฐบาลคือไม่จำเป็น
หลายเสียงมองว่า ถ้ารัฐบาลนี้ยอมใช้ ก็จะทำให้มีภาพใกล้เคียงกับยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ชอบเหลือเกินกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้
ใช้เสียจนทนายโรเบิร์ตต้องบินเข้ามาเร่งคดีในเวลานี้ไง