ที่มา
Thai E-News
25 กรกฎาคม 2555
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เฟซบุ๊ค
Thavatchai Tangsirivanich
บันทึกที่จบด้วยคำว่า "ขอโทษที่ร่ายยาว
มันอัดอั้น ก็เท่านั้นเอง" ของคุณธวัชชัย ตั้งศิริวานิช
ช่วยให้เราเห็นเบื้องหลังและคุณค่าของการทำงานวิชาการเพื่อความจริง
และมันยังช่วยยืนยันให้สังคมเห็นกันอีกครั้งว่า
ทุกก้าวย่างแห่งประวัติศาสตร์ "ชาติพินาศ" เพราะ "คนเห็นแก่ตัว" และ
"ชาติหลุดพ้นวิกฤต" เพราะ "มีคนมากมายที่เสียสละ"
ผมเสียเงินไปสองแสนนิดๆ เพื่อแลกกับหนังสือเล่มนี้ แต่งโดยโวล็อง เดซ์ แวร์แก็ง (Vollant des Verquains) นายทหารฝรั่งเศสที่เข้ามาประจำการ ณ ป้อมบางกอกช่วงปลายแผ่นดินพระนารายณ์ หนังสือพรรณนาถึงการปฏิวัติผลัดแผ่นดินในสยาม ปี พ.ศ. ๒๒๓๑ เป็นจดหมายเหตุสำคัญและหายากที่สุดชิ้นหนึ่งในปัจจุบัน
ช่วงเกือบ ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา ผมได้พยายามรวบรวมหลักฐานต่างๆ ว่าด้วยสยามประเทศที่เขียนหรือพิมพ์ขึ้นในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ จดหมาย แผนที่ หรือภาพพิมพ์ แน่นอนกว่าจะได้สิ่งเหล่านี้มา ผมต้องทุ่มเงินมหาศาลเพราะพ่อค้าฝรั่งมักขูดราคาแพงๆ แต่ผมก็จำเป็นต้องซื้อเพราะผมอยากให้หลักฐานเหล่านี้เก็บรักษาไว้ในสยามประเทศไทย
นักสะสมหนังสือเก่าที่ผมถือเป็นต้น
แบบคือ ม.ล.มานิจ ชุมสาย ท่านเร่ิมสะสมตั้งแต่ปี ๒๔๙๓ ตอนนั้นท่านอายุ ๔๒
ปี ส่วนผมเร่ิมสะสมตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ ตอนอายุ ๓๒ ปี
ท่านใช้เวลาชั่วชีวิตสร้างคลังเก็บหลักฐานประวัติศาสตร์สยามที่พิมพ์ขึ้นในต่างประเทศ ผมเชื่อว่าห้องสมุดส่วนตัวของท่านน่าจะเป็นคลังความรู้เกี่ยวกับสยามประเทศที่สมบูรณ์ที่สุด ยากจะหาห้องสมุดใดเทียบทันได้
ผมได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะรวบรวมหนังสือฝรั่งว่าด้วยสยามประเทศให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่เล่มแรกสุดที่ตีพิมพ์ (Ambassades du Roy de Siam envoyé à l'Excellence du Prince Maurice) ค.ศ. ๑๖๐๘/พ.ศ. ๒๑๕๑ จนถึงปี ๒๔๗๕
ผมไม่รู้ว่าในช่วงเกือบ ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา ผมเสียเงินไปแล้วเท่าไหร่ บอกตามตรงว่าผมเองก็ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร นาฬิกาสักเรือนก็ไม่มี ไอโฟนไอแพดก็ไม่มี รถก็ไม่มี แม้แต่บ้านสักหลังก็ยังไม่มี ต้องอาศัยอยู่คอนโดร่วมกับคนแปลกหน้านับร้อยพัน อนึ่ง เช้านี้ผมอ่านข่าวว่า ป.ป.ช. มีมติยึดทรัพย์ ๖๔ ล้านบาทจากข้าราชการระดับบิ๊กคนหนึ่ง ผมลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าสามารถยึดทรัพย์ทั้งหมดนี้ให้ตกเป็นของแผ่นดิน หากเจียดเงินสักครึ่งหนึ่งมาซื้อหนังสือ แผนที่ ภาพพิมพ์ รวบรวมหลักฐานสยามที่กระจัดกระจายอยู่ในต่างแดน เงินก้อนนี้คงจะสามารถสร้างคลังประวัติศาสตร์ ต่อยอดองค์ความรู้ให้กับแผ่นดิน
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลทุ่มงบประมาณนับหมื่นนับแสนล้านซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อการประหัตประหาร แต่ไม่พร้อมจะเจียดเงินแค่ไม่กี่สิบล้านเพื่อติดอาวุธทางปัญญา ให้คนไทยได้เข้าใจถึงรากเหง้าความเป็นมาของแผ่นดิน
ขอโทษที่ร่ายยาว มันอัดอั้น ก็เท่านั้นเอง
* * * * ** * * *