โดย ชายเหวง
"ไอ้ห่า กรูว่าแมร่งเป็นโรคไฮเปอร์" ผมสบถ...กับน้อง+เพื่อน ร่วมงาน ในแผนก
บนโต๊ะอาหารกลางวัน ณ สโมสรแห่งหนึ่ง กลางใจเมืองหลวง
ตกกะใจปนระคนทุกข์ เมื่อ แม้วสั่งซ้ายหันขวาหัน ให้เหล่าข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ขับเคลื่อนด้วยระบบ เอกชน
"แมร่งสั่งนับหน่วยผลิตด้วยเว้ย...แบบว่าถ้าคนเยอะแต่เนื้องานน้อยกว่าหละเมิง โดนตัดงบแถมโดนลดคนด้วยนะเมิง..." เพื่อนซี้พูดพลางพร้อมกระดก..ไฮเนเกนท์
"แถมวัดผลงานข้ามกรมฯ ด้วยหละ" มันย้ำ ๆ
"กรูจะฟ้องศาลปกครอง" ผมคำรามในใจ ในฐานะที่ร้อนวิชากฏหมายมหาชน ที่เพิ่งจะได้รับอบรมเสร็จหมาด ๆ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
"แมร่งจะวัดกันยังงัยว๊ะในแต่ละหน่วย ลองเอาผลงานของกรมป่าไม้ ไปเทียบกับกรมประชาสงเคราะห์สิ วัตถุประสงค์มันคนละอย่าง"
"นี่มันเล่นอัดกันแบบลูกจ้างโรงงานมือถือ ...มันไม่แฟร์ มันต้องดูจอบดิสคริปชั่นของแต่ละหน่วยเว้ย "(กระแดะใช้ภาษาปะกิตเพราะเริ่มเมานิด ๆ)
------------------------------------------------------------------------
นั่นเป็นครั้งแรก ที่ผมรู้สึกกับอัศวินควายดำ ของใครหว่า ผมจำไม่ได้ที่ให้ฉายาไว้ ว่าเขาคนนี้นี่แหละที่จะกอบกู้...เศรษฐกิจประเทศไทย
ในขณะนั้นทักษิณเนื้อหอม ในสังคม แต่ด้วยศรศิลปอาจไม่กินกันแน่ ๆ ผมจึงไม่ค่อยชอบเศรษฐี ขี้ใจร้อน เอาแต่ใจ...แ5มติดดูถูกนิด ๆ ด้วยว่า
คอยดูเหอะ "สัญญาประชาคม" ไอ้โน่น ไอ้นี่ไอ้นั่น ไม่มีทางทำได้ นักการเมืองมีแต่โม้...
-----------------------------------------------------------------------------
แต่ วันหนึ่งผมต้องไปประชุมร่วม...เผอิญแม้วมันเป็นประธาน...
เอาคำพูดที่จำได้มั่งไม่ได้มั่งมาประติดประต่อให้ฟัง
"ในตอนนี้..ประเทศเราไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ เรากำลังจนเพราะเป็นหนี้ IMF และการเป็นหนี้ทำให้เราต้องทำตามเงื่อนไขที่เจ้าหนี้กำหนดให้เราทำอะไรหลายอย่างที่ขมขื่น"
"ผมต้องการให้ทุกคน (ในที่ประชุม) คิดนอกกรอบ หาทางเอารายได้เข้าประเทศให้ได้มากที่สุด ผมอยากบอกว่า พวกเราทุกคนต้องทำงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าราชการ ต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมหลายเท่า หน่วยไหน ยังอืด ล่าช้า ผมจะลงไปรีดไขมันด้วยตัวเอง (ขู่) แต่ผมสัญญาว่าหากเราทำงานหนักแล้วรายได้เข้าประเทศ...ผมจะหาเงินมาเพิ่มให้พวกเรา แม้จะได้ครั้งละไม่มาก แต่พยายามหามาเติมให้ได้มากที่สุด"
"จงจำไว้ว่าขณะนี้ประเทศของเรา อยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ"
------------------------------------------------------------------
1 อาทิตย์ให้หลัง ผมเห็นหนังสือตั้งคณะำงาน ให้หาเงินจากนักท่องเที่ยว ที่ผ่านสนามบินดอนเืมือง (Transit) ไอ้ 3 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง 9 ชั่วโมง 12 ชั่วโมง..ไปหาทางให้เขาแวะมาใช้เงินให้ได้ (ซึ่งไม่เึคยมีรัฐบาลไหนคิด เพราะส่วนมากจะสิ้นคิด ในวิธีหาเงินเข้าประเทศ)
เอากะมันดิ สั่งมาด้วยว่าให้ใครทำหน้าที่อะไร ผมงานเข้า ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ศุลกากร การท่าอากาศยาน การท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม สมาคมไกด์ ฯลฯ
ประชุมกันหัวแทบแตก
ในที่สุดก็ฝ่าด่านทำตามที่แม้วสั่งได้
แม้บริษัทท่องเที่ยว แมร่งจะพาผู้โดยสารไปซื้อเพชรที่ร้านมัน แต่ก็ถือว่าส่วนน้อย ส่วนมากได้จับจ่ายใช้สอยระยะสั้น ๆ เพื่อหาเงินเข้าประเทศ
----------------------------------------------------------------------
จากนั้นแม้วได้กระชับพื้นที่ ระบบที่เช้าชามเย็นชาม เป็นนิวลุค...ทุกหน่วยงาน จากสามโมงเย็นนั่งเด็ดผักบุ้ง เตรียมตัวกลับบ้าน สี่โมงจะครึ่งแล้วยังหัวฟูกันอยู่เลย (ฮา)
------------------------------------------------------------------
มุมมองผมเริ่มเปลี่ยน เริ่มอืมม เริ่มเออ เริ่มดีหวะ เออใช้ได้ กับการปฏิบัติการไฮเปอร์ของแม้ว....แถมสัญญาประชาคม ที่บอกตอนเลือกตั้งมันทำทุกโครงการ
'เออ...นี่แหละ นายกที่คนไทยต้องการ"
นโยบายเราเริ่มปรับเปลี่ยนจากตามก้นสิงคโปร์ เป็นหายใจรดต้นคอ ตามมาติด ๆ
พวกคุณคงไม่อยากเชื่อว่า...รัฐมนตรี ป้ายแดงเคยเรียกพวกผมไปพบในห้องแล้วบอกว่า
"พวกคุณไปเอาผลงานเด่น ๆ ของคุณมา 1 ชิ้น เพราะเมื่อครบสามเดือน รัฐมนตรีทุกคนต้องแสดงผลงาน ไม่เช่นนั้นอาจโดนปลด ท่านเคยบอกกับรัฐมนตรีทุกคนไว้ว่า อย่าอยากเป็นเพราะเป็นเกียรติประวัติ ถ้าอยากเป็นต้องทำงานเป็นคิดเป็น ถ้าทำงานไม่เป็นก็ไม่ควรที่จะเสนอตัวเอง"
"ผมเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ ๆ ยังไม่ทราบว่างานมีอะไรบ้างขอเวลาผมหน่อย แล้วผมจะคิดโครงการเอง" (ฮา)
----------------------------------------------------------------------------
นี่แหละไอ้แม้ว ที่พวกเราเกลียดนักเกลียดหนาที่เขาว่าเลว
ผมโชคดีที่มีประสบการณ์ได้ทำงานในยุคที่คนคนนี้เป็นนายกรัฐมนตรี
เปล่า...ผมไม่ได้ว่าเขาดีเลิศประเสริฐศรี เหนือมนุษย์ ถ้าจำไม่ผิดแม้วเคยขอโทษประชาชนออกทีวี ฐานะพูดเร็วกว่าคิดไปสองครั้ง
แต่โดยรวม เขาทำงานได้ดีี่ที่สุดที่เราเคยมีมา
------------------------------------------------------------
เหลียวมองพรรคที่เคยชอบ ชวน หลีกภัย คนนี้ผมเคยเชียร์ (ฮา)
ไอ้ห่า นั่งเซ็นต์งานเรื่องเพื่อทราบถึงสองทุ่ม ไม่รู้จะเซ็นต์ทำห่าอะไร มันไม่ใช่หน้าที่นายกฯ นั่งเป็นปลัดประเทศ จนสื่อเรียกว่า
บริหารแบบนี้ ไม่ต้องมีนายกก็ได้ หรือที่ดังในขณะนั้น เขาเรียกว่า บริหารแบบไม่บริหาร
พอมาเจอมาร์ค ม. 7 ยิ่งหนักกว่าชวน
เล่นการเมืองโดยอาศัยระบบรัฐประหารยังไม่พอ
นโยบายแรกของเราคือกู้ มากินมาใช้กันก่อนืเดี๋ยวพอประเทศอื่นเขาดีขึ้นเราก็จะดีเอง (ฮา)
นักข่าวถามว่า กู้แบบนี้มันจะได้ผลหรือ
นายกตอบว่า ไม่ต้องห่วงประเทศอื่นเขาก็กู้ ถ้าผิดก็ผิดเหมือนกันหมด
โอ้โห..แมร่งตอบได้สุดยอด....................
---------------------------------------------------------------
ประเทศเรามีกรรม มีเวร มีอะไรก็ไม่รู้คอยฉุดรั้งไว้...
อยู่กันไปแบบนี้แหละ สามโมงเย็นแต่งหน้ารอผัวมารับกันแล้ว....
อยู่กันแบบเจ้าคนนายคน อยู่กันไปแบบนี้แหละ
ประเทศไทยโชคดี ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ และมีนายกชื่ออภิสิทธิ...
เราโชคดีจริง ๆ ครับพี่น้อง
บนโต๊ะอาหารกลางวัน ณ สโมสรแห่งหนึ่ง กลางใจเมืองหลวง
ตกกะใจปนระคนทุกข์ เมื่อ แม้วสั่งซ้ายหันขวาหัน ให้เหล่าข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ขับเคลื่อนด้วยระบบ เอกชน
"แมร่งสั่งนับหน่วยผลิตด้วยเว้ย...แบบว่าถ้าคนเยอะแต่เนื้องานน้อยกว่าหละเมิง โดนตัดงบแถมโดนลดคนด้วยนะเมิง..." เพื่อนซี้พูดพลางพร้อมกระดก..ไฮเนเกนท์
"แถมวัดผลงานข้ามกรมฯ ด้วยหละ" มันย้ำ ๆ
"กรูจะฟ้องศาลปกครอง" ผมคำรามในใจ ในฐานะที่ร้อนวิชากฏหมายมหาชน ที่เพิ่งจะได้รับอบรมเสร็จหมาด ๆ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
"แมร่งจะวัดกันยังงัยว๊ะในแต่ละหน่วย ลองเอาผลงานของกรมป่าไม้ ไปเทียบกับกรมประชาสงเคราะห์สิ วัตถุประสงค์มันคนละอย่าง"
"นี่มันเล่นอัดกันแบบลูกจ้างโรงงานมือถือ ...มันไม่แฟร์ มันต้องดูจอบดิสคริปชั่นของแต่ละหน่วยเว้ย "(กระแดะใช้ภาษาปะกิตเพราะเริ่มเมานิด ๆ)
------------------------------------------------------------------------
นั่นเป็นครั้งแรก ที่ผมรู้สึกกับอัศวินควายดำ ของใครหว่า ผมจำไม่ได้ที่ให้ฉายาไว้ ว่าเขาคนนี้นี่แหละที่จะกอบกู้...เศรษฐกิจประเทศไทย
ในขณะนั้นทักษิณเนื้อหอม ในสังคม แต่ด้วยศรศิลปอาจไม่กินกันแน่ ๆ ผมจึงไม่ค่อยชอบเศรษฐี ขี้ใจร้อน เอาแต่ใจ...แ5มติดดูถูกนิด ๆ ด้วยว่า
คอยดูเหอะ "สัญญาประชาคม" ไอ้โน่น ไอ้นี่ไอ้นั่น ไม่มีทางทำได้ นักการเมืองมีแต่โม้...
-----------------------------------------------------------------------------
แต่ วันหนึ่งผมต้องไปประชุมร่วม...เผอิญแม้วมันเป็นประธาน...
เอาคำพูดที่จำได้มั่งไม่ได้มั่งมาประติดประต่อให้ฟัง
"ในตอนนี้..ประเทศเราไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ เรากำลังจนเพราะเป็นหนี้ IMF และการเป็นหนี้ทำให้เราต้องทำตามเงื่อนไขที่เจ้าหนี้กำหนดให้เราทำอะไรหลายอย่างที่ขมขื่น"
"ผมต้องการให้ทุกคน (ในที่ประชุม) คิดนอกกรอบ หาทางเอารายได้เข้าประเทศให้ได้มากที่สุด ผมอยากบอกว่า พวกเราทุกคนต้องทำงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าราชการ ต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมหลายเท่า หน่วยไหน ยังอืด ล่าช้า ผมจะลงไปรีดไขมันด้วยตัวเอง (ขู่) แต่ผมสัญญาว่าหากเราทำงานหนักแล้วรายได้เข้าประเทศ...ผมจะหาเงินมาเพิ่มให้พวกเรา แม้จะได้ครั้งละไม่มาก แต่พยายามหามาเติมให้ได้มากที่สุด"
"จงจำไว้ว่าขณะนี้ประเทศของเรา อยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ"
------------------------------------------------------------------
1 อาทิตย์ให้หลัง ผมเห็นหนังสือตั้งคณะำงาน ให้หาเงินจากนักท่องเที่ยว ที่ผ่านสนามบินดอนเืมือง (Transit) ไอ้ 3 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง 9 ชั่วโมง 12 ชั่วโมง..ไปหาทางให้เขาแวะมาใช้เงินให้ได้ (ซึ่งไม่เึคยมีรัฐบาลไหนคิด เพราะส่วนมากจะสิ้นคิด ในวิธีหาเงินเข้าประเทศ)
เอากะมันดิ สั่งมาด้วยว่าให้ใครทำหน้าที่อะไร ผมงานเข้า ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ศุลกากร การท่าอากาศยาน การท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม สมาคมไกด์ ฯลฯ
ประชุมกันหัวแทบแตก
ในที่สุดก็ฝ่าด่านทำตามที่แม้วสั่งได้
แม้บริษัทท่องเที่ยว แมร่งจะพาผู้โดยสารไปซื้อเพชรที่ร้านมัน แต่ก็ถือว่าส่วนน้อย ส่วนมากได้จับจ่ายใช้สอยระยะสั้น ๆ เพื่อหาเงินเข้าประเทศ
----------------------------------------------------------------------
จากนั้นแม้วได้กระชับพื้นที่ ระบบที่เช้าชามเย็นชาม เป็นนิวลุค...ทุกหน่วยงาน จากสามโมงเย็นนั่งเด็ดผักบุ้ง เตรียมตัวกลับบ้าน สี่โมงจะครึ่งแล้วยังหัวฟูกันอยู่เลย (ฮา)
------------------------------------------------------------------
มุมมองผมเริ่มเปลี่ยน เริ่มอืมม เริ่มเออ เริ่มดีหวะ เออใช้ได้ กับการปฏิบัติการไฮเปอร์ของแม้ว....แถมสัญญาประชาคม ที่บอกตอนเลือกตั้งมันทำทุกโครงการ
'เออ...นี่แหละ นายกที่คนไทยต้องการ"
นโยบายเราเริ่มปรับเปลี่ยนจากตามก้นสิงคโปร์ เป็นหายใจรดต้นคอ ตามมาติด ๆ
พวกคุณคงไม่อยากเชื่อว่า...รัฐมนตรี ป้ายแดงเคยเรียกพวกผมไปพบในห้องแล้วบอกว่า
"พวกคุณไปเอาผลงานเด่น ๆ ของคุณมา 1 ชิ้น เพราะเมื่อครบสามเดือน รัฐมนตรีทุกคนต้องแสดงผลงาน ไม่เช่นนั้นอาจโดนปลด ท่านเคยบอกกับรัฐมนตรีทุกคนไว้ว่า อย่าอยากเป็นเพราะเป็นเกียรติประวัติ ถ้าอยากเป็นต้องทำงานเป็นคิดเป็น ถ้าทำงานไม่เป็นก็ไม่ควรที่จะเสนอตัวเอง"
"ผมเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ ๆ ยังไม่ทราบว่างานมีอะไรบ้างขอเวลาผมหน่อย แล้วผมจะคิดโครงการเอง" (ฮา)
----------------------------------------------------------------------------
นี่แหละไอ้แม้ว ที่พวกเราเกลียดนักเกลียดหนาที่เขาว่าเลว
ผมโชคดีที่มีประสบการณ์ได้ทำงานในยุคที่คนคนนี้เป็นนายกรัฐมนตรี
เปล่า...ผมไม่ได้ว่าเขาดีเลิศประเสริฐศรี เหนือมนุษย์ ถ้าจำไม่ผิดแม้วเคยขอโทษประชาชนออกทีวี ฐานะพูดเร็วกว่าคิดไปสองครั้ง
แต่โดยรวม เขาทำงานได้ดีี่ที่สุดที่เราเคยมีมา
------------------------------------------------------------
เหลียวมองพรรคที่เคยชอบ ชวน หลีกภัย คนนี้ผมเคยเชียร์ (ฮา)
ไอ้ห่า นั่งเซ็นต์งานเรื่องเพื่อทราบถึงสองทุ่ม ไม่รู้จะเซ็นต์ทำห่าอะไร มันไม่ใช่หน้าที่นายกฯ นั่งเป็นปลัดประเทศ จนสื่อเรียกว่า
บริหารแบบนี้ ไม่ต้องมีนายกก็ได้ หรือที่ดังในขณะนั้น เขาเรียกว่า บริหารแบบไม่บริหาร
พอมาเจอมาร์ค ม. 7 ยิ่งหนักกว่าชวน
เล่นการเมืองโดยอาศัยระบบรัฐประหารยังไม่พอ
นโยบายแรกของเราคือกู้ มากินมาใช้กันก่อนืเดี๋ยวพอประเทศอื่นเขาดีขึ้นเราก็จะดีเอง (ฮา)
นักข่าวถามว่า กู้แบบนี้มันจะได้ผลหรือ
นายกตอบว่า ไม่ต้องห่วงประเทศอื่นเขาก็กู้ ถ้าผิดก็ผิดเหมือนกันหมด
โอ้โห..แมร่งตอบได้สุดยอด....................
---------------------------------------------------------------
ประเทศเรามีกรรม มีเวร มีอะไรก็ไม่รู้คอยฉุดรั้งไว้...
อยู่กันไปแบบนี้แหละ สามโมงเย็นแต่งหน้ารอผัวมารับกันแล้ว....
อยู่กันแบบเจ้าคนนายคน อยู่กันไปแบบนี้แหละ
ประเทศไทยโชคดี ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ และมีนายกชื่ออภิสิทธิ...
เราโชคดีจริง ๆ ครับพี่น้อง