ผู้ สื่อข่าว"มติชนออนไลน์"รายงานว่า ในวันที่ 2 กันยายน 2553 คณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค่าต่างประเทศ และผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง กรณีที่กรมการค้าต่างประเทศได้อนุมัติระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล 3 ชนิด (ข้าวหอมปทุมธานี ข้าวเหยีวขาว และข้าวขาว 5%) จำนวน 1 ล้านตันว่าได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและราคาที่เหมาะสมหรือไม่ โดยให้นายมนัส สร้อยพลอย มาชี้แจงด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้วอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในวาระการพิจารณาของคณะ กรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาคือกรณีกรมการค้าต่างประเทศได้ทำ สัญญาขายแป้งมันสำปะหลังกับบริษัท ไชน่ามาลีน จำกัด ของประเทศจีน จำนวน 136,000 ตัน ในราคาตันละ 10,660 บาทแบบ G to G เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2553 โดยคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อ 4 พฤษภาคม 2553 ในขณะที่ราคาแป้งมันในท้องตลาดขณะนั้นอยู่ที่ 15,000 บาทต่อตัน คณะกรรมาธิาการตั้งข้อสังเกตว่าการทำสัญญาซื้อขายดังกล่าวได้เกิดความเสีย หายอย่างมาก และทำไมกรมการค้าต่างประเทศไม่ยกเลิกสัญญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 คณะกรรมาธิการฯโดยนายพฤติชัย วิริยะโรจน์ ประธานกรรมาธิการฯ ได้ทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณายกเลิกสัญญาการซื้อขายแป้งมันจากประเทศจีน โดยให้เหตุว่าจะทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียบหายว่า 500 ล้านบาท และเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายทุจริต เอื้อประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใด และทำหนังสือถึงนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีดังกล่าวด้วย