(22 ส.ค. 53) ที่ จ.เชียงใหม่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ริเริ่มกิจกรรม "วันอาทิตย์สีแดง" และคนเสื้อแดงทั้งจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 300 คน ร่วมกันจัดกิจกรรม "วันอาทิตย์สีแดง" สัญจรที่ถนนคนเดิน จ.เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดที่จัดเป็นประจำทุกวันอาทิตย์
โดย หน้าก่อนจัดกิจกรรม "วันอาทิตย์สีแดง" นั้น นายสมบัติ ได้เดินทางไปที่สถานีวิทยุชุมชนของเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เพื่อออกอากาศทางรายการของสถานี หลังจากที่สถานีวิทยุชุมชนดังกล่าวถูกปิดไปหลายเดือนตั้งแต่หลังสลายการ ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ โดยนายสมบัติตอบคำถามผู้ฟังรายการ 3 ข้อ ได้แก่ 1.คนเสื้อแดงจะชนะได้อย่างไร 2.. แนวทางของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงจะนำไปสู่ชัยชนะอย่างไร 3. ชาวบ้านจะมีส่วนร่วมกับแนวคิดวันอาทิตย์สีแดงได้อย่างไรบ้างในทางรูปธรรม
จาก นั้นนายสมบัติได้เดินทางมาที่ถนนคนเดินด้าน ถ.พระปกเกล้า ซึ่งเป็นที่จัดกิจกรรม "วันอาทิตย์สีแดง" โดยนายสมบัติให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การมาจัดกิจกรรมสัญจรที่ จ.เชียงใหม่วันนี้ เพื่อขยายและขายความคิดเรื่องการต่อสู้โดยใช้สัญลักษณ์ กิจกรรมวันนี้จะไม่เน้นการปราศรัย จะใช้กิจกรรเชิงการใช้สัญลักษณ์ สร้างวัฒนธรรมใส่เสื้อแดงทุกวันอาทิตย์ โดยครั้งนี้การจัดกิจกรรมอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังการเลิกใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ แต่ไม่ใช่การชุมนุมเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ โดยหวังให้เกิดแรงกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามไม่อาจใช้เป็นเงื่อนไขใช้ความรุนแรง ได้ และหวังว่าจะสามารถขยายแนวร่วมออกไป และพยายามพัฒนารูปแบบการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ให้มีพลังมากขึ้น
โดย กิจกรรมเริ่มต้นที่ ถ.พระปกเกล้า ใกล้กับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. โดยผู้ชุมนุมได้ล้มตัวลงนอนบนพื้นถนนและตะโกน "ที่นี่ มีคนตาย" จากนั้นได้ร่วมกันผูกผ้าแดงบริเวณโคนต้นไม้และเสารอบบริเวณ จากนั้นนายสมบัติได้นำผู้ชุมนุมเที่ยวชมถนนคนเดิน มีการผูกผ้าแดงที่ป้ายถนนราชดำเนิน บริเวณสี่แยกกลางเวียง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของถนนคนเดิน จากนั้นผู้ชุมนุมเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนราชดำเนินและมุ่งไปที่ข่วงประตู ท่าแพ เพื่อนอนลงบนพื้นถนนและตะโกน "ที่นี่ มีคนตาย" อีกครั้ง ก่อนเดินกลับมายัง ถ.พระปกเกล้า ใกล้กับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
โดยใน เวลา 18.30 น. คนเสื้อแดง กลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ ได้นำรถเข็นติดเครื่องเสียงมาดัดแปลงเป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว มีแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยในช่วงเวลาหนึ่งก่อนสลายตัวในเวลาประมาณ 20.00 น. เศษ