ที่มา เวบไวต์go6tv
27 สิงหาคม 2553
กรุงเทพฯ- พรรคการเมืองใหม่เผยธาตุแท้ ภูมิใจภาพก่อการร้ายบนป้ายหาเสียง
ชาวบ้านในเขตพระนคร แจ้งให้ www.go6tv.com ทราบว่า พรรคการเมืองใหม่ ได้เผยแพร่ป้ายหาเสียงล่าสุด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งสก. ๒๙ สิงหาคมนี้ เป็นภาพผู้สมัคร สก.คือนายรัชต์ชยุตม์ ศิรโยธินภักดี(อมร หรือ อมรเทพ อมรรัตนานนท์ แกนนำพันธมิตรที่โดนคดีผู้ก่อการร้ายยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และคดีกบฎยึดทำเนียบ)โดยมีภาพกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึด ทำเนียบรัฐบาลในปี ๕๑ เป็นภาพฉากหลัง
ประชาชนได้เห็นภาพนี้แล้วต่าง วิจารณ์กันไปมาว่า เหตุการณ์ยึดทำเนียบรัฐบาลนั้นเป็นเหตุการณ์ที่นำความเศร้าสลดมาแก่ประวัติ ศาสตร์การเมืองไทย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทางการเมือง จนไล่ลามมาถึงการยึดสนามบินนานาชาติ พัฒนาระดับเป็นการ "ก่อการร้ายสากล"
ประชาชน ต่างพยายามลืมภาพดังกล่าว โดยเห็นเป็นเรื่องเลวร้าย แต่พรรคการเมืองใหม่กลับภาคภูมิใจในฝีมือขนาดนำภาพยึดทำเนียบ มาเป็นภาพใช้หาเสียงให้ผู้สมัคร สก. สข. กรุงเทพฯ การยึดทำเนียบดังกล่าวลุกลามไปถึงการยึดสนามบินฯ โดยที่การดำเนินคดีดังกล่าวกลับไม่ได้คืบหน้าเลย ซ้ำยังได้รับคำยกย่องจากตำรวจผู้ดูแลสำนวนว่าเป็น "ผู้ก่อการดี"
"ไม่ รู้เขาคิดยังไง ที่เอาภาพยึดทำเนียบมาใช้หาเสียง เขาไม่รู้สึกเลยสักนิดเลยหรือว่า อะไรถูกอะไรผิด ถึงขนาดกล้าเอามาเตือนความจำอันเลวร้ายบนป้ายหาเสียง เราเห็นภาพนี้แล้ว เรารู้สึกกลัว ขยะแขยง กับความคิดและนักการเมืองพวกนี้เหลือเกิน" ชาวบ้านในเขตพระนครคนหนึ่งกล่าว
มามุกใหม่อีกแล้ว ล่าสุดโจรก่อการร้ายพันธมิตรหาทางออกคดีก่อการร้ายยึดสนามบินได้แล้ว โดยป้ายความผิดไปให้ทักษิณว่าเป็นคนสั่งปิดสนามบินเอง
ทั้งนี้ASTV กระบอกเสียงของพันธมิตรได้สัมภาษณ์ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตร อ้างว่า "ผมมีหลักฐานว่านายทักษิณเป็นคนสั่งให้นายเสรีรัตน์(ผอ.การท่าอากาศยาน)ปิด สนามบินเลยเมื่อพันธมิตรมาถึง เพื่อโยนบาปให้ การปิดสนามบินจึงเป็นความผิดของเสรีรัตน์เอง และมั่นใจอย่างสูงว่าเราสุจริต การสุจริตใจจะเป็นศาสตร์กำบังทุกอย่างได้ โดยยืนยันต้องฟ้องกลับตำรวจ โดยหารือกันแล้ว ตอนนั้นที่ทำเนียบพันธมิตรถูกยิงตาย ยังไม่มีการเผาเลย และรัฐบาลก็ไม่เคยหาคนผิดมาได้ คนที่ตั้งข้อกล่าวหาเกินจริงผิดกฎหมายอาญามาตรา 200 ต้องโดนจำคุกตลอดชีวิต" นายสุวัตร กล่าว
นายพิภพ ธงชัย แกนนำพันธมิตรกล่าวว่า แกนนำพันธมิตรสนับสนุนผู้สมัครพรรคการเมืองใหม่ทุกเขต โดยวันนี้เช้าที่ลานพระรูปทรงม้า พล.ต.จำลอง นายสุริยะใส นายสมศักดิ์ แกนนำพันธมิตรรุ่น 2 และตนจะไปให้กำลังใจผู้สมัครพรรคการเมืองใหม่ เพื่อบอกว่าแกนนำสนับสนุน และจะมีการแห่ไปทั่ว ตนจึงขอเชิญพี่น้องพันธมิตรออกมาให้กำลังใจ ผู้สมัครพรรคกมม.ที่กล้าลงสมัครทั้งๆที่ไม่ค่อยมีสตางค์ เราจะปักธงให้การเมืองเก่าเป็นการเมืองใหม่
หัวโจกผู้ก่อการร้ายยึดสนามบินเส้นใหญ่กร่างใส่ตร.เด็กเนวิน แถด้านๆปิดสุวรรณภูมิไม่เสียหายซักนิด มามุกใหม่"ทักษิณ"เป็นคนปิดสนามบิน
หยุด!ผู้ก่อการร้ายล้อมไว้หมดแล้ว-สนธิ ลิ้มทองกุล หัวโจกผู้ก่อการร้ายนำ 79 ผู้ก่อการร้ายยึดสนามบินสุวรรณภูมิเข้าพบตำรวจกองปราบปรามตามหมายเรียก แต่บรรยากาศเหมือนๆกับผู้ก่อการร้ายได้เข้ายึดกองปราบปราม เพราะมีสมุนโจร500คนตามไปล้อมกองปราบฯ โดยหัวโจกผู้ก่อการร้ายได้ข่มขู่ตำรวจที่ดำเนินคดี และเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นลูกพี่ของหัวหน้าชุดดำเนินคดีอย่างแข็งกร้าว แน่นอนว่าสนธิลิ้มไม่ต้องนอนคุกแต่อย่างใด
หลังจากอุก อาจก่อคดีก่อการร้ายยึดสนามบินสุวรรณภูมิ สร้างความเดือดร้อนให้ผู้โดยสารนานาชาติ 700,000 คน สร้างความเสียหายคิดเป็นเงิน 200,000 ล้านบาท และลอยนวลมานาน 639 วัน เมื่อช่วงเช้าวันนี้ผู้ก่อการร้ายพันธมิตรฯได้เข้าพบตำรวจตามหมายเรียกแล้ว โดยหัวโจกผู้ก่อการร้ายคือนายสนธิ ลิ้มทองกุล ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายตามที่ถูกกล่าวหา ไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆซักนิด และขู่เล่นงานกลับตำรวจผู้ดูแลคดีนี้ที่ใกล้ชิดนายเนวิน ชิดชอบ โดยบอกว่าเรื่องนี้เป็นคดีการเมือง
ที่สำคัญตำรวจไม่ได้มีการควบคุม ตัวโจรก่อการร้ายยึดสนามบินแต่อย่างใด นับว่า2มาตรฐานกับแกนนำนปช.และเสื้อแดงที่แม้จะเข้ามอบตัวด้วยตัวเอง แต่ก็ถูกขังยาวมากว่า 3 เดือน ห้ามประกันตัว ทั้งที่ไม่มีหลักฐานใดๆว่าแกนนำนปช.พัวพันกับการก่อการร้าย หรือเผาทรัพย์สินตามข้อกล่าวหา
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่กองปราบปราม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีชุมนุมสนามบิน ข่มขู่หัวหน้าชุดดำเนินคดีว่า ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและจะทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมา ให้พนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน และพันธมิตรจะฟ้องกลับ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แน่ โดยผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 79 คน และถ้าแต่ละคนฟ้องรวม 79 คดี พล.ต.ท.สมยศก็รับไปแล้วกัน ทั้งนี้ ตนเห็นว่า พล.ต.ท.สมยศทำตามหน้าที่ที่นักการเมืองบอกมา ซึ่งคนไหนประชาชนเขาก็ทราบ ในขณะที่อีกไม่กี่ปี พล.ต.สมยศก็จะเกษียณ แต่ภาคประชาชนไม่มีวันเกษียณตาม
นายสนธิกล่าวถึงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาด้วยว่า ตนมั่นใจ 100% เมื่อเห็นหลักฐานที่มีก็หัวเราะ เพราะที่แจ้งมาอาวุธที่มีก็แค่กระบองจึงไม่อาจเข้าข่ายก่อการร้าย ตนไม่หนักใจซึ่งหลักฐานอื่นๆ เจ้าหน้าที่ก็ได้นำคำปราศรัยมาแจ้ง และกล่าวหาว่าเราปิดสนามบิน แต่ล่าสุดนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ อดีตผู้ว่าการการท่าอากาศยานฯ ก็ให้ได้การในศาลแพ่ง ยอมรับว่าพันธมิตรฯ ไม่ได้ปิดสนามบิน และชุมนุมอยู่ในแลนด์ไซต์ซึ่งประชาชนมีสิทธิที่จะอยู่ได้ ขณะที่ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยก็ยอมรับว่าไม่มีความเสียหายเลย สรุปง่ายๆ ว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีการเมือง ตนจึงสงสัยว่า พล.ต.ท.สมยศรับงานการเมืองมาทำ ทั้งนี้ผู้ ถูกกล่าวหาทั้ง 79 คนไม่กลัว และยินดีที่จะสู้คดี โดยตนจะทำลายลักษณ์อักษรชี้แจงข้อกล่าวหา และเชื่อว่าคดีนี้ยังอีกนานจนกว่า พล.ต.ท.สมยศเกษียณไปแล้วก็ยังไม่จบ
“ผมขอพูดเป็นตัวแทน 79 คนที่โดนข้อกล่าวหา เราไม่กลัว การทำงานเพื่อชาติเพื่อเมืองมันต้องมีการถูกกลั่นแกล้ง แต่เชื่อผม คนเราทำดีเพื่อแผ่นดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ถ้าไม่ได้ทำงานเพื่อชาติเพื่อเมือง จะโดนยิง 200 นัดแล้วรอดได้อย่างไร รัฐบาลรู้ว่าใครยิง ผมก็รู้ และคนที่ยิงก็นอนไม่หลับ อยากยิงอีก แต่ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นต่อชาติที่พวกพี่น้องรักจริง ไม่เหมือนคนบางคนร่วมงานกับทักษิณแล้วมาร่วมมือประชาธิปัตย์ แล้วมาบอกว่ารักสถาบัน แต่ 4 ปีที่ทักษิณหมิ่นสถาบัน กลับไม่ทำอะไรเลย” นายสนธิกล่าว
ทั้งนี้นายสนธิกล่าวพาดพิงถึงนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งกล่าวกันว่าเขาเป็นผู้มีอิทธิพลในการสนับสนุนพล.ต.ท.สมยศขึ้นมามีอำนาจ ในสำนักงานกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ
กระทรวงคมนาคมกระทรงเดียวเสียหาย19,000ล้านบาท
กระทรวง คมนาคมรายงานว่า ได้มีการสรุปตัวเลขค่าใช้จ่ายที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ดำเนินการช่วย เหลือผู้โดยสารตกค้าง ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเมื่อรวมกับค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ รวมทั้งหมดเป็นเงินทั้งสิ้น 19,612,319,206.75 บาท
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
หน่วยงานภาครัฐ สังกัดกระทรวงคมนาคม คือ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)มีค่าใช้จ่าย 2,292,500 บาท
บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มีค่าใช้จ่าย 1,100,000 บาท
บริษัท วิทยุการบิน แห่งประเทศไทย จำกัด มีค่าใช้จ่าย 796,899 สูญเสียรายได้ 103,592,900บาท รวม 104,389,799บาท
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีค่าใช้จ่าย 570,427,790.68 บาท ค่าสูญเสียรายได้ถึง 13,236,001,371 บาท รวมเป็นเงิน 13,806,429,161.68 บาท
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) มีค่าใช้จ่าย 16,987,159.07 บาท สูญเสียรายได้ 574,000,000 บาท รวม 590,987,159.07 บาท
ท่า อากาศยานอู่ตะเภา กองทัพเรือ มีค่าใช้จ่าย 542,426 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจริง 2,544,200 บาท
สาย การบินต่าง ๆ ประจำประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง 85,033,961 บาท ค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ จำนวน 5,019,000,000 บาท รวม 5,104,033,961 บาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า โดยจำนวนผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 17.7 และ 22.5 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งปี และการขนส่งสินค้าทางอากาศมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 18.0 และ 19.2 ของปริมาณสินค้าที่ขนส่งทั้งปี ธุรกรรมผ่านท่าอากาศยานที่ต้องหยุดชะงักลง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จึงหมายถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจและโอกาสทางการแข่งขันที่อาจสูญเสียอย่างใหญ่ หลวง
เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนส่งผลกระทบให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองต้องปิดให้บริการนับ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 มาจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2551 ได้สร้างความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยหากรวบรวมความเสียหายที่หน่วยงานต่างๆ ประเมินออกมานั้น ในเบื้องต้นพบว่าสูงกว่า 2 แสนล้านบาท จากผลกระทบของธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ
การท่าอากาศยานแห้งประเทศไทยระบุว่า การปิดท่าอากาศยานในครั้งนี้ส่งผลกระทบให้ผู้โดยสารไม่สามารถเดินทาง เข้าออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ 1.1 แสนคนต่อวัน เที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกไม่สามารถขึ้นลงได้ 700 เที่ยวต่อวัน