นิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคามชูป้ายรณรงค์ ช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัด มหาสารคาม หลังจากถูกขังโดยไม่ได้รับการประกันตัวกว่า 3 เดือน
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวน 3 คน ได้ทำกิจกรรมชูป้ายรณรงค์เรื่องการถูกจับกุมคุมขังชาวจังหวัดมหาสารคามจำนวน 12 คน (ปัจจุบันยังถูกขังอยู่ในเรือนจำ 10 คน) ที่ถูกตั้งข้อหาดว่าเกี่ยวข้องกับการชุมนุมบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด มหาสารคาม (หลังเก่า) ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดมหาสารคามเมื่อ กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนักศึกษากลุ่มดังกล่าวได้จัดกิจกรรมขึ้นที่บริเวณทางเข้าตลาดภายใน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ตลาดน้อย)
นิสิตกลุ่มนี้ได้พยายามให้เห็นว่าจังหวัดมหาสารคามก็มีคนถูกคุมขังและดำเนินคดีตาม พรก. ฉุกเฉิน โดยมีทั้งชาวบ้านและนักศึกษาจำนวน 10 คน และได้ถูกคุมขังมาแล้ว 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งเป็นผลกระทบตามมาต่อครอบครัวของผู้ต้องหา
หนึ่ง ในผู้รณรงค์ได้ชี้แจงว่าต่อ”ประชาไท”ว่า“เราไม่สนใจว่าผู้ที่ถูก คุมขังจะเข้าร่วมหรือไม่ได้เข้าร่วมกับการชุมนุมทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาหรือไม่ แต่ที่เราสนใจคือ ทำไมพวกเขาเหล่านี้ถึงไม่ได้รับการประกันตัว …??? พวกเขาต้องการที่จะกลับไปเรียนหนังสือ และพวกเขาต้องทำมาหากินหาเลี้ยงลูกเมีย
ตัว แทนอีกคนของนิสิตกลุ่มนี้กล่าวว่า “เราอยากให้มีอาสาสมัครที่เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามไปให้การช่วยเหลือ แก่ญาติผู้ที่ถูกคุมขังเกี่ยวกับการติดตามคดีและกระบวนการทางกฏหมายของพวก เขา หรืออย่างน้อยก็อยากให้ไปเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ทั้งผู้ที่ถูกคุมขังและญาติ พี่น้องของพวกเขา”
นอกจากนี้นิสิตคนดังกล่าวยัง ได้กล่าวเสริมอีกว่า”รายได้ของครอบครัวของ ผู้ที่ถูกคุมขังหลายคนมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายจ่ายที่ต้องหมดไปกับทั้งเรื่องการติดตามการดำเนินคดี และการไปเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำเป็นประจำทุกวัน ซึ่งบางคนที่เงินมีน้อยก็ต้องมาเยี่ยมเพียงอาทิตย์ละครั้ง หรือมาเยี่ยมเมื่อครบกำหนดและต่ออายุการฝากขังในแต่ละครั้ง ทำให้พวกเขาได้รับความลำบากมาก”
บรรยากาศในปฏิบัติ การชูป้ายบอกข่าวในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นเป็นจำนวนมาก ที่มีทั้งการยืนดูและพูดคุยสอบถาม รวมถึงการแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกัน แต่ปฏิบัติการครั้งนี้ก็ทำได้เพียงแค่ 20 นาที เท่านั้น เนื่องจากได้มีเจ้าหน้าที่กองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้ามาสอบถามตัวแทนนิสิตกลุ่มนี้ และได้โทรศัพท์รายงานสถานการณ์ต่อกองกิจการนิสิตฯ ทางกลุ่มนิสิตจึงได้ยุติการดำเนินกิจกรรมเมื่อเวลา 20.50 น.