เหล็กใน
สมิงสามผลัด
เดิมทีศาลรัฐธรรมนูญนัดหมายให้เป็นวันที่ทั้งฝ่ายโจทก์คือกกต.และจำเลยคือพรรคประชาธิปัตย์แถลงปิดคดี
แต่กระแสข่าวในช่วง 2-3 วันมานี้ คาดการณ์กันว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยทันที
ต้องลุ้นกันระทึกว่าจะยุบหรือไม่ยุบ!?
จะตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดหรือว่าแค่บางส่วน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องพ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหรือไม่
ต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาวิกฤตของนายกฯมาร์คจริงๆ
ปัญหา รุมเร้ามาตลอด นับจากการสลายม็อบแดงจนมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บอีกเกือบ 2 พันคน เป็นเหมือนตราบาป โดนม็อบแดงตามกดดันให้รับผิดชอบมาตลอด 6 เดือน และมีแนวโน้มว่าจะดุเดือดยิ่งขึ้นในช่วงเดือนธ.ค.นี้ไปจนถึงปีใหม่
ก็เพราะความ 2 มาตรฐานนั่นเอง!
การโหวตร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านไปหมาดๆ ก็เป็นไปแบบกระท่อนกระแท่น อลหม่าน
ม็อบที่เคยร่วมหัวจมท้ายกันมาจนได้เป็นรัฐบาล กลับแว้งใส่กันเอง
เพียงเพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว!?
นายกฯมาร์คคงไม่คาดคิดว่าจะมีวันที่ต้องประสบชะตากรรมเดียวกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
โดนศาสดาม็อบผู้มีพระคุณเล่นงานเข้าให้บ้าง
คำชื่นชมรื่นหูกลายเป็นคำก่นด่าสาปแช่ง
ความสัมพันธ์กับกองทัพก็ไม่เหมือนเดิม ไม่กลมเกลียวเหมือนเมื่อครั้งที่จัดตั้งรัฐบาลกันใน 'ราบ 11'
ความเหินห่างสะสมมาพอสมควร
และรุนแรงขึ้นเมื่อนายกฯมาร์คออกมายอมรับเรื่องที่ประชุมบริหารพรรคประชาธิปัตย์มีการหารือกันเรื่องจะมีปฏิวัติในเร็วๆ นี้
บรรดาผบ.เหล่าทัพต้องออกมายืนกรานเสียงแข็งว่าไม่มีปฏิวัติแน่ๆ
ระหองระแหงกันเรื่อยมาจนล่าสุดคำสั่งศอฉ.ห้ามขายรองเท้าแตะหน้ามาร์ค
เบรกกันไปกันมาระหว่างฝ่ายการเมืองกับกองทัพ
ยังมีเรื่องเก่าความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทยที่กลายเป็นเรื้อรังไปแล้ว
ถึงเวลานี้นายกฯมาร์คต้องทำใจ ยอมรับสภาพ หน้าตาเลยดูหมองๆ ไปเยอะ
ผิดกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ดูผุดผ่องมีราศี ท่ามกลางกระแสข่าวคั่วนายกฯสำรอง
ว่าไปแล้วนายสุเทพอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากเกิดมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาจริงๆ
องค์ประกอบต่างๆ ก็เอื้ออำนวย เป็นส.ส. ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค
ยิ่งความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล-กองทัพก็ยังแน่นแฟ้น
สมมติว่าพรรคประชาธิปัตย์เกิดปาฏิหาริย์ รอดจากการยุบพรรคขึ้นมาจริงๆ
แต่เก้าอี้นายกฯของนายอภิสิทธิ์ คงไม่มั่นคงเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เพราะเปิดศึก 4 ด้าน
'แดง-เหลือง-เขียว-น้ำเงิน'นัวเนียกันไปหมด