เหล็กใน
ต่อมา เริ่มมีปัญหากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โจมตีนายสุเทพอย่างรุนแรง แต่ละเว้นนายอภิสิทธิ์เอาไว้
นายอภิสิทธิ์มาโดนเนื้อๆ เน้นๆ ก็ช่วงที่ประกาศพร้อมยุบสภาเพื่อเลือกตั้ง ระหว่างการเจรจากับแกนนำนปช.
มาตอนนี้ นายอภิสิทธิ์กลายเป็นเป้าหมายหลักของพันธมิตรฯไปแล้ว
ถึงขั้นประณามว่า"ขายชาติ"
จากการเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องปัญหาแผนที่ไทย-กัมพูชา
ลักษณะเด่นของกลุ่มพันธมิตรฯ คือเชื่อมั่นอย่างแรงในความคิดของตัว
แนวทางก็มักยึดโยงต่อการเป็นปฏิปักษ์ ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย
แม้แต่สมเด็จฮุนเซนของกัมพูชา ก็เป็นศัตรูของพันธมิตรฯ นับตั้งแต่จับมือกับพ.ต.ท.ทักษิณเล่นเกมล้อมประเทศไทย
แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน ที่เคยไม่กินเส้นกับนายอภิสิทธิ์
สมเด็จฮุนเซนก็กลับมาพูดคุยดีด้วย ตามมาตรฐานผู้นำเพื่อนบ้าน
สัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างผู้นำไทยกับกัมพูชา สร้างความมั่นใจจนนายอภิสิทธิ์กล้าเอ่ยปากขอตัว"อริสมันต์"
แต่สิ่งเหล่านี้สร้างความหวาดระแวง ว่าจะเป็นการสมคบกันเกี่ยวกับเรื่องดินแดนสำหรับกลุ่มพันธมิตรฯ
กลายเป็นนายอภิสิทธิ์ตระบัดสัตย์ ขายชาติ
ที่น่าประหลาด นายกษิต ภิรมย์ ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นรัฐมนตรีโควตาของพันธมิตรฯ
เคยกล้าเสียผู้เสียคน จากคำพูดยกย่องปฏิบัติการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ (อาหารดี ดนตรีไพเราะ)
ตอนนี้ ออกมาจวกพันธมิตรฯแบบไม่ไว้ไมตรี
ใช้ถ้อยคำแรงตอบโต้กลับไปว่า เป็นพวกคลั่งชาติ!
บ่นว่าขนาดคุยชี้แจงนอกรอบ จนเหมือนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว
พอคล้อยหลัง แกนนำพันธมิตรฯ ก็ยืนกระต่ายขาเดียวเหมือนเดิม "ไทยเสียดินแดน"
มีการก่อกระแส จะชุมนุมปิดสะพานมัฆวานฯ กันอีกแล้ว
นอกจากเตรียมประท้วงปิดถนน ในข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ ยังมีไปถึงกองทัพด้วย
เรียกร้องให้ขับไล่ทหารและคนเขมร ในพื้นที่พิพาท
พูดง่ายๆ ให้ทำสงครามกับกัมพูชา
รัฐบาลอภิสิทธิ์เวลานี้ จึงเหมือนโดนกระหนาบ จากศัตรู 2 สี แดงกับเหลือง
โจทย์ของนายอภิสิทธิ์คือจะทำอย่างไร หากมีการก่อม็อบปิดถนนกลางกรุงกันอีก ทั้งที่ยังมีพ.ร.ก. ฉุกเฉินบังคับใช้อยู่?
ขณะที่ทางกองทัพนั้น ก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อในจุดยืนปกป้องสถาบันของเสื้อเหลืองสักเท่าไร
ในสถานการณ์ที่ไมตรีขาดสะบั้น น่าเชื่อว่าการปิดถนนตั้งเวทีชุมนุม
อาจไม่ง่ายเหมือนคราวก่อนๆ?