บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เจอมาร์คเตะถ่วงให้ประกันตัวตามข้อเสนอคณิต นักโทษเสื้อแดงหมดหวังฆ่าตัวตายหนีอยุติธรรม

ที่มา Thai E-News


เอาแต่สนุกไปวันๆ-แม้ว่านายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ลง วันที่ 15 พ.ย.2553 ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสนอให้ประกันตัวนักโทษการเมืองเสื้อแดง แต่นายอภิทธิ์กลับโยนการตัดสินใจไปให้กับกระทรวงยุติธรรม เป็นการถ่วงเวลาออกไป กระทั่งเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น เมื่อผู้ต้องขังเสื้อแดงรายหนึ่งฆ่าตัวตายเมื่อวานนี้ เคราะห์ดีถูกช่วยชีวิตไว้ทัน ก่อนจะเป็นศพที่ 93 เป็นตราบาปให้กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ภาพ:AP)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
26 พฤศจิกายน 2553

ผู้ต้องขังเสื้อแดงมุกดาหารดื่มน้ำยาปรับผ้านุ่มหวังฆ่าตัวตาย-ก่อนหามส่งไอซียู

ประชาไท รายงาน ว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 53 เวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่จากเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ได้นำ นายวินัย ศิลปสินชัย ผู้ต้องขังวัย 30 ปี ส่งโรงพยาบาลจังหวัดมุกดาหารในสภาพไม่ได้สติ โดยผู้ต้องขังรายนี้เป็น 1 ใน 20 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกสถานที่ราชการและร่วมกันวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 จากกรณีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ที่ศาลากลาง จ.มุกดาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด ในช่วงค่ำว่า อาการของผู้ต้องขังรายนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แพทย์ให้ย้ายออกมาพักฟื้นที่ห้องปกติ ลูกและภรรยาสามารถเยี่ยมได้ โดยผู้ต้องขังถูกล่ามตรวนไว้กับเตียงคนไข้

ด้านภรรยาของผู้ต้องขัง รายดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ในเวลาประมาณ 14.00 น.ได้เข้าไปเยี่ยมสามีที่เรือนจำจังหวัดตามปกติ หลังการพูดคุยเรื่องทั่วไปได้ระยะหนึ่ง จากนั้นสามีได้กล่าวว่าตอนนี้เขาหมดหวังที่จะได้รับการประกันตัวหรือได้รับ การปล่อยตัวออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่ยอมเป็นแพะ แล้วก็ได้หยิบขวดน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่ม หลังจากนั้นเมื่อลุกขึ้นยืน ก็เซและล้มลงกับพื้นห้องเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำ ตนตกใจจึงรีบร้องเรียกให้ผู้คุมมาช่วย

ภรรยาของผู้ต้องขังรายนี้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะหลังสามีมีอาการเครียดเพิ่มมากขึ้นและมักพูดถึงเรื่องการฆ่าตัวตายด้วย

ผู้ คุมเรือนจำที่นำผู้ต้องขังรายนี้ส่งแผนกฉุกเฉินที่โรงพยายาลให้ข้อมูลเพิ่ม เติมว่า ผู้ต้องขังรายนี้ได้นำน้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ในขวดน้ำผลไม้เข้ามาดื่มภายในห้อง เยี่ยมหลังที่ได้บอกลาภรรยา

หนึ่งในผู้ต้องขังได้ให้ปากคำกับนาย อานนท์ นำภา ทนายความที่ได้ขอเข้าเยี่ยมว่า ผู้ต้องขังรายนี้ได้ซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มเตรียมตั้งแต่ตอนเช้าและได้ขอขวด น้ำส้มเปล่าจากเพื่อนผู้ต้องขังเตรียมเอาไว้เพื่อการดังกล่าว

ทั้ง นี้ ผู้ต้องขังรายนี้ มีบุตรสาวสองคน อายุ 7 และ 11 ปี ปัจจุบันผู้เป็นภรรยาต้องรับภาระครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว โดยประกอบอาชีพขายกล้วยทอดอยู่ในเมืองมุกดาหาร

เจ้าหน้าที่กรม ราชทัณฑ์คนหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้เรือนจำกำลังจับตาผู้ต้องขังเสื้อแดง อีก 2 คนเป็นพิเศษ ได้แก่ นาย ค. (นามสมมมติ) และ นาย ง. (นามสมมติ) เพราะมีผู้ต้องขังในเรือนจำแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าผู้ต้องขังทั้งสองได้เตรียม เชือกซ่อนไว้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องคอยจัดกำลังพร้อมทั้งจัดนักจิตวิทยาคอยสอดส่องดูและ ให้การพูดคุยปรึกษา

ในขณะเดียวกัน นายอานนท์ นำภา ทนายจากศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณี เม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) ได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังเสื้อแดงใน กรณีที่มีปัญหาสุขภาพจำนวน 4 ราย ได้แก่ นายวิชิต อินตะ ซึ่งมีอาการปวดบริเวณแผ่นหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ นายทองมาก คนยืน เป็นนิ่วในไต นายสมคิด บางทราย มีโรคทางตับ และนายแก่น หนองพุดสา มีอาการทางประสาท แต่ศาล จ.มุกดาหารได้วินิจฉัยยกคำร้องเนื่องจากเห็นว่าเป็นอาการเจ็บป่วยเพียงเล็ก น้อย ในเรือนจำมีแพทย์ดูแอยู่แล้วและผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานใดๆ มาแสดง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาครัฐได้ใช้กลไกกองทุนยุติธรรมประกันตัวผู้ต้องขังไปแล้ว 2 คน

นปช.พบ "หนั่น"จี้ปล่อย400แดง

มติ ชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.)กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยกว่า 10 คน นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสนับสนุนแนวทางการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ โดย พล.ต.สนั่นเดินทางมารับหนังสือด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ จดหมายเปิดผนึกระบุว่า การพบปะกลุ่มต่างๆ ของ พล.ต.สนั่นถือเป็นความตั้งใจที่ดีและเป็นความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมืองใน สภาพที่สังคมไทยเกิดความขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรง นับตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งความขัดแย้งได้ขยายตัวบานปลาย จนกระทั่งนำมาสู่การล้อมปราบ สังหารหมู่ บาดเจ็บ ล้มตาย และการจับกุมคุมขังกลุ่ม นปช.ถึง 400 คน โดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวไม่อาจนำมาสู่ความปรองดองและความสงบสันติสุขใน สังคมไทยได้

"ขอให้ท่านผลักดันให้รัฐบาลยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งหมด และให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง ด้วยการให้สิทธิกับการประกันตัวกับผู้ต้องหาทุกคน ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับความปรองดอง และจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" จดหมายเปิดผนึกระบุ

ศาลปล่อยตัวชั่วคราวอีก2ผู้ต้องหาไร้ญาติรับตัว

เมื่อ วันที่ 25 พฤศจิกายน นางนงภรณ์ รุ่งเพชรวงศ์ ผู้อำนวยการกองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า คณะทำงานการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องขังจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ได้ยื่นเรื่องต่อ ศาลแขวงปทุมวันขอประกันตัวผู้ต้องขังกลุ่มเสื้อแดง 2 คน ได้แก่ นายรัฐศาสตร์ สมพงษ์ และนายทรงชัย ปาลกวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ต้องหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยใช้เงินกองทุนยุติธรรมขอประกันในวงเงินประกันรายละ 60,000 บาท แต่เนื่องจากทั้ง 2 รายไม่มีญาติติดต่อขอรับตัว รวมทั้งยังตามหาญาติไม่พบ

นาง นงภรณ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นกระทรวงยุติธรรมได้ประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ (พม.)เพื่อจัดหาที่พักให้ในระหว่างได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่พม.จะนำรถมารับตัวผู้ต้องขังทั้ง 2 คนออกจากเรือนจำกลางคลองเปรมไปยังสถานสงเคราะห์ของพม.ซึ่งไม่ขอเปิดเผยว่า เป็นที่ใด

ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกปล่อยตัวมีอาการทางจิตด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่พม.จะนำตัวไปเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูต่อไป ส่วนผู้ต้องขังอีก 2 ราย ที่ถูกคุมขังอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นยังไม่ได้ยื่นขอประกันตัวในวันนี้ เนื่องจากยังไม่พร้อมเรื่องเอกสารและเงินประกันที่กองทุนยุติธรรมจะต้องโอน ไปยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่


25 พ.ย. 53 เวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่จากเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ได้นำ นายวินัย ศิลปสินชัย ผู้ต้องขังวัย 30 ปี ส่งโรงพยาบาลจังหวัดมุกดาหารในสภาพไม่ได้สติ โดยผู้ต้องขังรายนี้เป็น 1 ใน 20 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกสถานที่ราชการและร่วมกันวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 จากกรณีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ที่ศาลากลาง จ.มุกดาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด ในช่วงค่ำว่า อาการของผู้ต้องขังรายนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แพทย์ให้ย้ายออกมาพักฟื้นที่ห้องปกติ ลูกและภรรยาสามารถเยี่ยมได้ โดยผู้ต้องขังถูกล่ามตรวนไว้กับเตียงคนไข้

ด้านภรรยาของผู้ต้องขัง รายดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ในเวลาประมาณ 14.00 น.ได้เข้าไปเยี่ยมสามีที่เรือนจำจังหวัดตามปกติ หลังการพูดคุยเรื่องทั่วไปได้ระยะหนึ่ง จากนั้นสามีได้กล่าวว่าตอนนี้เขาหมดหวังที่จะได้รับการประกันตัวหรือได้รับ การปล่อยตัวออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่ยอมเป็นแพะ แล้วก็ได้หยิบขวดน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่ม หลังจากนั้นเมื่อลุกขึ้นยืน ก็เซและล้มลงกับพื้นห้องเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำ ตนตกใจจึงรีบร้องเรียกให้ผู้คุมมาช่วย

ภรรยาของผู้ต้องขังรายนี้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะหลังสามีมีอาการเครียดเพิ่มมากขึ้นและมักพูดถึงเรื่องการฆ่าตัวตายด้วย

ผู้ คุมเรือนจำที่นำผู้ต้องขังรายนี้ส่งแผนกฉุกเฉินที่โรงพยายาลให้ข้อมูลเพิ่ม เติมว่า ผู้ต้องขังรายนี้ได้นำน้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ในขวดน้ำผลไม้เข้ามาดื่มภายในห้อง เยี่ยมหลังที่ได้บอกลาภรรยา

หนึ่งในผู้ต้องขังได้ให้ปากคำกับนาย อานนท์ นำภา ทนายความที่ได้ขอเข้าเยี่ยมว่า ผู้ต้องขังรายนี้ได้ซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มเตรียมตั้งแต่ตอนเช้าและได้ขอขวด น้ำส้มเปล่าจากเพื่อนผู้ต้องขังเตรียมเอาไว้เพื่อการดังกล่าว

ทั้ง นี้ ผู้ต้องขังรายนี้ มีบุตรสาวสองคน อายุ 7 และ 11 ปี ปัจจุบันผู้เป็นภรรยาต้องรับภาระครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว โดยประกอบอาชีพขายกล้วยทอดอยู่ในเมืองมุกดาหาร

เจ้าหน้าที่กรม ราชทัณฑ์คนหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้เรือนจำกำลังจับตาผู้ต้องขังเสื้อแดง อีก 2 คนเป็นพิเศษ ได้แก่ นาย ค. (นามสมมมติ) และ นาย ง. (นามสมมติ) เพราะมีผู้ต้องขังในเรือนจำแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าผู้ต้องขังทั้งสองได้เตรียม เชือกซ่อนไว้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องคอยจัดกำลังพร้อมทั้งจัดนักจิตวิทยาคอยสอดส่องดูและ ให้การพูดคุยปรึกษา

ในขณะเดียวกัน นายอานนท์ นำภา ทนายจากศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณี เม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) ได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังเสื้อแดงใน กรณีที่มีปัญหาสุขภาพจำนวน 4 ราย ได้แก่ นายวิชิต อินตะ ซึ่งมีอาการปวดบริเวณแผ่นหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ นายทองมาก คนยืน เป็นนิ่วในไต นายสมคิด บางทราย มีโรคทางตับ และนายแก่น หนองพุดสา มีอาการทางประสาท แต่ศาล จ.มุกดาหารได้วินิจฉัยยกคำร้องเนื่องจากเห็นว่าเป็นอาการเจ็บป่วยเพียงเล็ก น้อย ในเรือนจำมีแพทย์ดูแอยู่แล้วและผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานใดๆ มาแสดง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาครัฐได้ใช้กลไกกองทุนยุติธรรมประกันตัวผู้ต้องขังไปแล้ว 2 คน

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker