คอลัมน์ เหล็กใน
หลังเกิดความเดือดร้อนต่อเพื่อนบ้านร่วมซอย ทั้งธุรกิจโรงแรม ที่พักอาศัย และร้านอาหารได้รับผลกระทบเสียหาย
เจ๊งสนิทไปตามๆ กัน
โรงแรมยูโร แกรนด์ โฮเต็ล สถานประกอบการรายแรกๆ ที่ออกมาบ่นดังๆ ว่าได้รับความเดือดร้อน
เพราะมีการส่งกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจหน่วยคอมมานโด และตำรวจท้องที่มาเฝ้ารปภ.นายกฯ ประหนึ่งไข่ในหิน
ตลอดระยะทาง 1 กิโลฯ หน้าบ้านอภิสิทธิ์ มีทั้งป้อมยาม เต็นท์เจ้าหน้าที่รักษาการณ์เป็นจุดๆ เข้มงวดและขึงขัง
แถมตอนกลางคืนก็มีการปิดถนน นำเอารถคุมขังผู้ต้องหามาปิดอีกชั้น
การสัญจรไปมาของประชาชนในซอยเต็มไปด้วยความยุ่งยาก ถูกตรวจค้น เพราะต้องรักษาความปลอดภัยให้นายกฯ ขั้นสูงสุด
ผู้นำที่มักอ้างอิงว่าประชาชนเลือกมาดำรงตำแหน่งตั้งแต่อายุน้อยๆ
ที่ผ่านมา บ้านพักนายกรัฐมนตรี ถูกทั้งปาอึปามูลสัตว์เข้าใส่มาแล้วสองครั้ง
รั้วบ้านที่เคยเตี้ย ก็มีการเสริมความสูงขึ้นมาเพิ่ม
แต่ป้องกันความเกลียดชังไม่ได้เลย
ต่อมาก็ถูกม็อบเสื้อแดงบุกเข้าไปเทเลือดละเลงใส่
ทำให้นายอภิสิทธิ์ไม่พอใจอย่างมาก
จากนั้นอีกไม่นานก็มีการใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ชุมนุมครั้งใหญ่
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ล้มตาย มากกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
แต่ผู้มีอำนาจทั้งในกองทัพและในรัฐบาล ยังพยายามอธิบายว่า เป็นการฆ่ากันเอง
เป็นฝีมือชายชุดดำ เป็นฝีมือผู้ก่อการร้าย
จนถึงบัดนี้ก็ยังจับกุมใครไม่ได้ แต่แกนนำนปช.โดนข้อกล่าวหา จับไปขังคุกแล้ว
สำหรับความเดือดร้อนของเจ้าของโรงแรมนั้น หลังจากออกมาร้องเรียน ก็มีการช่วยเยียวยาไปบางส่วน
แต่ก็ยังขาดทุนบักโกรก
นายอนันต์ หะยิมะสา ผู้จัดการบอกว่า มีการปล่อยกู้เอสเอ็มอีให้ มีการเลื่อนให้ชำระค่าน้ำ ค่าไฟ
แม้จะจ่ายเร็วจ่ายช้า ก็ต้องจ่ายอยู่ดี
แต่ปัญหาที่สำคัญไม่ได้รับการแก้ไข
นั่นก็คือระบบการรักษาความปลอดภัยของนายกฯ ซึ่งมีการจัดวางกำลังทหารตำรวจ ราวกับจะทำศึกสงคราม
แขกที่มาเห็นเข้า ใครจะยอมเข้ามาพัก
ยิ่งมาฟังคำพูดของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ที่อ้างว่าช่วยจนไม่รู้จะช่วยอย่างไร ไม่รู้เจ้าของโรงแรมจะเอาอะไรอีก
ก็ยิ่งเศร้าใจ
จะต้องให้คนในซอยย้ายออกไปให้หมด เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้คนคนเดียวหรือ