ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 มีนาคม ที่รัฐสภา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมด้วย นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง ยื่นญัตติพร้อมรายชื่อ ส.ส.จำนวน 122 คน ประกอบด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย 118 คน ส.ส.ประชาราช 3 คน ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน 1 คน แก่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 9 คน ได้แก่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 158 และ 159
นายชัยกล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ จะนัดอภิปรายวันไหน ก็ต้องรอสภาตรวจสอบญัตติก่อน ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน จากนั้นจะส่งเรื่องให้รัฐบาลใน 15 วัน ซึ่งขึ้นกับรัฐบาลจะแจ้งมาว่าพร้อมวันไหน บางคนบอกว่าให้รีบนัด ตนคิดว่ จะรีบไปถึงไหน จะรีบไปตายหรือไง ทั้งนี้ ต้องทำตามระเบียบ อย่างไรก็ตาม วันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านยื่นถอดถอนนายกฯ และ 8 รัฐมนตรี แก่ประธานวุฒิสภา ตอนนี้ทราบว่าส่งเรื่องแจ้งมาที่สภาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากนั้นนายชัยได้หันไปสัพยอกนายมิ่งขวัญว่า "ผมเคยพูดว่าให้ทำตัวดีๆ จะได้เป็นนายกฯ เพราะเลือกตั้งก็จะได้เสียงข้างมาก ผมก็เคยพูดแบบนี้กับนายอภิสิทธิ์มาแล้ว กับนายมิ่งขวัญก็เคยพูดสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่ตอนนั้นคุณทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ไล่ลงจากตำแหน่ง แต่วันนี้คุณทักษิณก็กลับมาหนุน" ทำให้นายมิ่งขวัญหน้าเสีย แต่นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบแทนว่า พรรคภูมิใจไทยจะหนุนพรรคเพื่อไทยหรือ ทำให้นายชัยหัวเราะก่อนกล่าวว่า "พรรคเพื่อไทยมีแต่ไล่พรรคภูมิใจไทย"
จากนั้นนายมิ่งขวัญให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีที่วิปรัฐบาลระบุว่า จะให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วันว่า ยืนยันว่าต้องใช้เวลาอภิปราย 4 วัน และลงมติในวันที่ 5 เนื่องจาก 1.การอภิปรายครั้งนี้เป็นสมัยสุดท้ายของสภาชุดนี้ จึงสำคัญมาก 2.เนื้อหาการอภิปรายมีมาก โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตต่างๆ 3.ตามบรรทัดฐานที่เคยมี สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน เคยอภิปราย 4 วัน และลงมติในวันที่ 5 ดังนั้น จึงเห็นสมควรให้ใช้เวลาตามที่ฝ่ายค้านเสนอ
นอกจากนี้ ยืนยันว่าการอภิปรายแต่ละวันไม่ควรอภิปรายข้ามคืนถึงตี 3 ตี 4 เพราะประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะข้อมูลเรื่องทุจริตมีเอกสารหลักฐานที่ประชาชนควรรู้ ส่วนประเด็นต่างๆ เรื่องน้ำมันปาล์มมีแน่ ส่วนประเด็นใหญ่อื่นๆ จะแจ้งให้ทราบต่อไป