ช่วงนี้มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นหลายกรณีทั้งแผ่นดินไหว สึนามิ วาตภัย อุทกภัย แม้แต่หิมะตกที่เมืองตากอากาศซาปาของเวียดนาม บางคนก็หลงเข้าใจผิดว่าตกเป็นครั้งแรกหรือตกหนักที่สุด จนทำให้เกิดปริวิตก ไม่เป็นอันกินอันนอน กลัวโลกจะแตก และอาจตกเป็นเหยื่อของพวกอวิชชา ผมจึงขออนุญาตนำเสนอข้อมูลบางอย่างให้ทราบบ้าง
วิบัติภัยในทุกวันนี้ยังนับว่า ‘จิ๊บจ๊อย’ นัก เมื่อเทียบกับภัยธรรมชาติในอดีต ที่หากเกิดขึ้นอีกในวันนี้ บางคนอาจช็อคตาย ฆ่าตัวตายไปเลย หรือเกิดลัทธิอุบาทว์ต่าง ๆ ทำลายชีวิตผู้คนไปมากกว่าภัยธรรมชาติก็เป็นได้
ท่านรู้จักภูเขาไฟกรากะตัวหรือไม่ ภูเขาไฟแห่งนี้ระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2426 หรือเมื่อ 128 ปีก่อนหน้านี้ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพื้นที่สองในสามของเกาะหายไปจากแรงระเบิด เถ้าธุลีลอยสูงขึ้นไปถึง 80 กิโลเมตร (ปกติเครื่องบิน ๆ สูงเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ในรัศมี 240 กิโลเมตร มองไม่เห็นแสงอาทิตย์จนคล้ายยามค่ำคืนเป็นเวลาถึง 3 เดือน เพราะเถ้าธุลีปกคลุมไปหมด
เสียงระเบิดดังกึกก้องมาก ถึงกรุงจาการ์ตา ซึ่งตั้งอยู่ห่างไป 150 กิโลเมตร จนผู้คนยังต้องเอามืออุดหู คนในกรุงเทพมหานครก็ยังได้ยินแต่ครั้งแรกนึกว่าเป็นเสียงปืนใหญ่ แม้แต่คนบนเกาะโรดริเกซในหมู่เกาะมอริเชียส ซึ่งตั้งอยู่ห่างไปถึง 4,776 กิโลเมตรก็ได้ยินเช่นกัน ที่สำคัญการระเบิดยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สูง 30 เมตร เข้าถล่มเกาะต่าง ๆ แรงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นยังสามารถตรวจจับได้ถึงอังกฤษ รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ถึง 36,000 คน ซึ่งหากเป็นในสมัยปัจจุบันที่มีประชากรหนาแน่น คงสูญเสียชีวิตนับสิบ ๆ ล้านคน
อย่างไรก็ตามยังมีเหตุการณ์ร้ายแรงกว่านี้ จนภูเขาไฟกรากะตัวกลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็คือการระเบิดของภูเขาไฟแทมโบร่าซึ่งตั้งอยู่บนเกาะซุมบาวาใกล้เกาะบาหลี เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2358 หรือเมื่อ 196 ปีที่แล้วในสมัยรัชกาลที่ 2 ความรุนแรงนั้นเท่ากับการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์ 60,000 ลูก ความสูงของภูเขาไฟแทมโบร่าหายไปถึง 1,400 เมตร มีสภาพเป็นหลุมกว้าง 6 กิโลเมตร ลึก 1 กิโลเมตรในปัจจุบัน เกิดฝุ่นละอองมากกว่าการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวถึง 7 เท่า เสียงระเบิดดังไปไกลถึง 850 กิโลเมตร ว่ากันว่าต้นไม้ล้มระเนระนาดคล้ายกับโลกทั้งโลกจะพังทลายลงในพริบตา
พื้นผิวโลกได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์น้อยลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์เพราะ ชั้นบรรยากาศของโลกเต็มไปด้วยฝุ่นละอองจนอุณหภูมิของโลกลดลงอย่างมาก นักวิทยาศาสตร์เคยพบว่าน้ำแข็งชั้นล่างบนเกาะกรีนแลนด์ในซีกโลกเหนือยังมีฝุ่นละอองจากภูเขาไฟนี้อยู่มากมาย ในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือไม่มีเวลากลางวันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพราะถูกฝุ่นละอองภูเขาไฟบดบังแสงอาทิตย์ไว้ และทำให้ไม่มีฤดูร้อนในปีนั้น
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดรุนแรงเป็นชุด ๆ ทั่วโลกในห้วงเวลาเดียวกัน เช่น ภูเขาไฟลาซูฟรีในหมู่เกาะแคริเบียน และภูเขาไฟอะวูเหนือเกาะสุลาเวสี ในปี 2355 ภูเขาไฟสุวาโนเซจิมา ใกล้หมู่เกาะโอกินาวา ในปี 2356 และภูเขาไฟมายอนในฟิลิปปินส์ ในปี 2357 ลองคิดดูว่าถ้าเกิดในวันนี้ ผู้คนคงสิ้นหวัง ฆ่าตัวตายไปเท่าไหร่แล้ว ยิ่งถ้าเจอสื่อเล่นข่าวเอามัน ก็คงยิ่งไปกันใหญ่
ท่านทราบหรือไม่ว่าทั้งหมดข้างต้นยัง ‘จิ๊บจ๊อย’ เมื่อเทียบกับการระเบิดของสุดยอดภูเขาไฟ (Super Volcano) ซึ่งครั้งล่าสุดเป็นการระเบิดของภูเขาไฟโทบา ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตราใกล้กับประเทศไทย เมื่อประมาณ 75,000 ปีที่ผ่านมา โดยลาวาพุ่งไปไกลกว่า 3,000 กิโลเมตรถึงภาคใต้ของอินเดีย อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกลดต่ำลงกว่า 5 องศา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการระเบิดครั้งนี้ทำให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง หลังจากการปล่อยเถ้าถ่าน 2,800 ลูกบาศก์กิโลเมตร พื้นที่ของภูเขาไฟโทบาได้กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและมีความสวยงามมากที่สุดในเอเชียอาคเนย์ในปัจจุบัน การระเบิดในระดับสุดยอดภูเขาไฟนี่เองที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติ
เห็นหรือยังครับ เหตุการณ์ที่ว่าน่าสะพรึงกลัวในทุกวันนี้ยังเป็นแค่เรื่องเล็กเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต ยังมีมหันตภัยล้างโลกที่เคยเกิดก่อนหน้านี้อีกมากมาย ดังนั้นอย่าไปกลัว ที่สำคัญเราต้องมีสติ คาดว่าเหตุการณ์มหาประลัยทั้งหลายคงไม่เกิดในชั่วชีวิตของเรา แต่ถึงแม้เกิดเหตุร้าย จนเราต้องสิ้นชีวิต เราก็ไม่พึงเสียเวลากลัว เพราะไม่มีใครหนีพ้นความตายดังกล่าว
ความตายเป็นธรรมดา สำคัญอยู่แต่ว่าคุณจะตายอย่างขนนก (เบาหวิวไร้ความหมายเพราะไม่เคยสร้างสรรค์อะไรเลย) หรือจะตายหนักแน่นดุจภูเขาเพราะตายอย่างมีเกียรติเพื่อประชาชนและประเทศชาติ
อ้างอิง
• การเกิดระเบิดของ Super Volcano http://www.vcharkarn.com/varticle/37495 และ http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?pid=5730• ภูเขาไฟกรากะตัว http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7
• Kratatoa. http://en.wikipedia.org/wiki/Krakatoa
• Mount Tambora http://en.wikipedia.org/wiki/Mount_Tambora
• Year Without A Summer. http://en.wikipedia.org/wiki/Year_Without_a_Summer