บุญชิต ฟักมี
ขอ อนุญาตใช้พื้นที่เล็กๆน้อยๆ ตรงนี้สวัสดีท่านผู้อ่านประชาไทออนไลน์สำหรับครั้งแรกประเดิมคอลัมน์ ครับ ผม บุญชิต ฟักมี จะมาเสนอคอลัมน์เบาๆ เรื่องเล่าแนวตลกร้ายล้อเลียน “กระแส” ทั้งหลายที่เกิดขึ้นรอบตัวในสังคมแต่ละสัปดาห์ บนพื้นที่ของเว็บประชาไท
หรือ พูดกันง่ายๆ สำหรับท่านที่เคยอ่านคอลัมน์ “ตีความตุลากวน” ที่เคยเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์และเวบไซต์ของเครือหนึ่ง นั่นแหละครับ – เราย้ายมาเปิดกันที่นี่
เริ่มเลยดีกว่า...
จากข่าวการถอนตัว จากภาคีมรดกโลกของรัฐมนตรี “รักษาการ” ผู้กลายเป็นฮีโร่ของพวกไม่ชอบทำบุญปล่อยสัตว์ไปเรียบร้อยแล้ว สร้างความตะลึงตึ่งตึ๊งไปทั่วโลก โอ๊ะโอ้ว อย่าว่าแต่ประชาคมโลกเลยว่ะครับ - ตูก็ตะลึงเหมือนกัน, เพื่อนฝูงหลายคนของผมโอดโอยโวยวายกันในเฟซบุ๊ก
แต่ ก็กระนั้นอย่ากระนี้ เราๆ ท่านๆ มักจะถูกนินทาว่า เป็นพวกก้าวหน้า ลิเบอรัลบ้าง คลั่งฝรั่งไม่รู้จักสังคมไทยบ้าง เราจะเอามาตรฐานแบบเราๆท่านๆ มาตัดสินได้ยังไง ไปถามคนไทยทั้งประเทศดูหรือยัง
ไปป้ะ ! เราไปสัมพลาดประชาชนคนไทยดูกัน ว่าสะดุ้งมะ กับการที่ท่านรัฐมนตรี “รักษาการ” ได้ถอนประเทศไทยออกจากภาคีมรดกโลก พวกเรารู้สึกอย่างไรกัน
.............................................................
“ไม่แคร์ฮ่ะ” สาวสปาแถวสีลมให้การ “พี่ทราบไหมคะว่า มรดกโลกในมือพวกหนูเนี่ย ไม่มีใครเหมือน ฝรั่งญี่ปุ่นยุ่นแขกจากไหนมา ก็ต้องร้องเรียกหา “ไทยมาสสาจ” กันทั้งนั้น จะนวดสวีดิชหรือนวดไหนๆ ก็ไม่มีทางสู้ เพราะของเรามี “สเปเชียล”หรือ “แฮปปี้เอนดิ้ง” จัดให้ก่อนจบ เรียกว่า ไปกันโล่งตัวเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะคะ ผู้หญิงก็มีนวดจุดซ่อนเร้นผ่อนคลายด้วย ไม่นับที่ตรงไปตรงมา อย่างนวดพริตตี้นวดกษัย หนูไม่เคยไปเมืองนอกหรอกนะฮะ แต่หนูมั่นใจว่า ที่ไหนในโลกนี้ไม่มีแน่ ห้าสิบหกสิบดอลล่า ได้สาวน้อยน่ารักวัยมหาลัยมา “จับเส้น” ให้เป็นพิเศษ ว่าแต่…ตกลงวันนี้ คุณพี่จะ “สเปเชี่ยล” ไหมคะ”
ผมไม่บอกคุณหรอกนะ...
............................................................
“ไม่มีที่ไหนเหมือนเมืองไทยอีกแล้วครับ” นายพันคนหนึ่งให้การ “ที่อื่น เขามีแต่รถพุ่งชนคน แต่ที่นี่ คนกระโดดให้รถพุ่งชน”
ผมเผ่นตั้งแต่ตอนที่พี่แกสตาร์ทรถ
.............................................................
“คนตายหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ แต่ก็ไม่ทำครับ” ฆาตกรคนหนึ่งหลั่งน้ำตาพูดกับผม “เขาสามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องไม่เจ็บ ไม่ตาย แต่เขาก็ไม่เชื่อ ตอนนั้นผมไปปล้นบ้าน ถือปืนเข้าไป ก็เห็นๆนะครับ ว่าผมมีปืน ก็ไม่ยอมหนีออกจากบ้าน ผมยิงขึ้นฟ้าก็แล้ว เขาก็ยังไม่ยอมหนี ทั้งที่เขาหลีกเลี่ยงการสูญเสียได้ แต่เขาไม่ทำเลย ทำไมเขาช่างอำมหิต เขาอ้างว่าเขามีสิทธิในบ้านที่เขาอาศัยอยู่ เขาไม่ยอมถอย เอาชีวิตตัวเองและคนในบ้านต่อรอง ในที่สุด ผมก็เลยต้องยิ้งทิ้งล้างโคตรทั้งบ้าน”
ว่าแล้วก็พี่ฆาตกรก็ร่ำไห้ “เนี่ย ในที่สุดก็มีคนตาย เจ้าของบ้านผิดจริงๆครับ ผิดที่ไม่ยอมหนีลูกกระสุนผม เนี่ย เล่นเอาผมร้องไห้ทั้งคืนเลยนะ”
“แล้วพี่ไม่ต้องขึ้นศาลถูกดำเนินคดีเหรอครับ”ผมถามเบาๆ
“คุณคุยกับทนายผมดีกว่า”
“นี่แหละครับ มรดกไทยที่คุณถามหา” พี่ทนายเสริม “ในประเทศไทย ขับรถชนคนตายโดยประมาท หรือฆ่าคนตายเพราะบันดาลโทสะ เราสามารถร้องขอต่อศาลเพื่อรอการลงโทษได้ ระหว่างนั้นก็ประกันตัวออกมาเดินเล่นสู้คดีได้เป็นปีๆ แต่ถ้า “คดีหมิ่นประมาทพิเศษ” นี่ คุกอย่างเดียวครับ ไม่มีประกัน ไม่มีรอ คดีหมิ่นอะไร อย่าให้ผมพูดเลยครับ ผมก็กลัว แต่นี่แหละครับ มรดกกระบวนยุติธรรมไทย ไม่มีที่ไหนในโลก”
พี่ก็กลัวผมก็กลัวนะ แสรดดด
.............................................................
“มรดกไทย เรื่องหนึ่ง คือการรับปริญญาอย่างไทยๆค่ะ” บัณฑิตสาวซ้อมรับปริญญาหลบมุมมาซับมันพลางคุยกับผม “มีที่ไหนในโลกคะ ที่การรับปริญญาเป็นประเพณีศักดิ์สิทธิ์ มีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินมาพระราชทานให้เรา มีครุยศักดิ์สิทธิ์ที่รับปริญญาเสร็จเอาไปบวชนาคต่อได้ นี่แหละค่ะ มรดกไทยเราที่ไม่ต้องง้อรอให้ใครมาประกาศเป็นมรดกโลก”
“อุ๊ย พี่ๆคะๆ เด๋วหนูขอมุมนี้นะ แผลงกิ้งบนบันไดนาค !” หญิงสาวกวักมือเรียกช่างภาพของเธอ ก่อนที่จะไปทำท่าตัวแข็งแกล้งตายบนบันไดนาคของตึกเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยแสนศักดิ์สิทธิ์ของเธอ
“เลวิเตชั่นด้วยไหมครับ” ช่างภาพของเธอถาม เขาหมายถึงการถ่ายภาพลอยตัวกลางอากาศด้วยเทคนิคชัตเตอร์ความเร็วสูง
“อัน นั้นไว้รอเพื่อนๆ มาครบๆ แล้วไปเลวิเตชั่นกันทีเดียวหน้าหอประชุมเลย ว่าแต่พี่ว่าหนูไปพับเพียบที่ไหนดี”ประโยคสุดท้ายเธอหันมาถามผม
.............................................................
ถาม คนไทยมามากแล้ว ขอถามฝรั่งสักคน ผมไปยืนอ่อยเหยื่อหน้าวัดพระแก้ว รอถามฝรั่งคนหนึ่ง บังเอิญพี่แกเป็นพวกโอตาคุประเทศไทย จบเอกไทยในประเทศที่เขาอยู่ เลยพอจะพูดไทยได้นิดหน่อย เลยขอคุยเป็นภาษาไทย ซึ่งก็ดี เพราะผมฟังภาษาฝรั่งใช่จะรู้เรื่อง
“ผมชอบเมืองไทยนาครับ มาบ่อย ปีละสองสามครั้ง” เขายิ้ม “ชอบหมดเลย อาหารไทย นวดไทย (แฮปปี้เอนดิ้งด้วยไหม ? - เขาหัวเราะแฮะๆ) อากาศร้อนไปหน่อย แต่ก็ได้บรรยากาศพิเศษ ไทยถอนตัวจากมรดกโลก ? น่าเสียดายนะ แต่มันก็จริงว่า เรามาเที่ยวไม่ได้ดูป้ายหรอก เรามาเมืองไทยเพราะเมืองไทยไม่มีที่ไหนเหมือน - นี่ไงคุณ”เขาชี้ให้ดูป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง “คนไทยเสียราคานึง ฝรั่งเสียแพงกว่า แต่ที่เด็ดและ โ-ค-ต-ร จะ ไ-ท-ย คือ ราคาไทยที่แพงกว่าน่ะ เขียนเป็นภาษาไทยและเลขไทยครับ ผมอ่านเลขไทยออก เห็นครั้งแรกหัวเราะก้ากเลย เคยแกล้งทำมั่วจ่ายเงินเท่าจำนวนที่เขียนเป็นเลขไทย คนเก็บตั๋วโวยใหญ่เลย โนๆๆๆ ฝรั่งไพร้ซ์มัสมอร์เอกซ์เพนซีฟว์ ฮ่าๆๆ” เขาหัวเราะเสียงดัง “คุณเคยไปพิพิธภัณฑ์ในเมืองนอกบ้างไหม ? ลูฟว์ ? คุณก็จะรู้ว่าที่นั่น จีน เกาหลี ฝรั่งเศส อังกฤษ อินโด นิวกินี เสียเท่ากันหมด ถ้าลดราคาตอนเย็นๆหรือบางวัน ก็ค่อยว่ากัน แต่ไม่มีใช่ไหม ราคาฝรั่งเศส ราคาต่างชาติ”
“ตุ๊กตุ๊กที่ฝรั่งชอบนั่งนี่ก็มรดกไทยครับ และมันเวรี่ไทย คือ หลายคันจะพยายามพาคุณไปซื้อเพชรโดยบอกว่า เป็น คิงเบิร์ดเดย์หรือวันสำคัญอื่นๆ แล้วชี้ไปที่ป้ายเฉลิมพระเกียรติที่มีอยู่ทุกถนน แล้วพยายามบอกเราว่า วันนี้เพชรลดราคาเป็นพิเศษ แม้ว่าจะเป็นเดือนกันยายนก็ตาม - กันยาลดราคาเพชร อะไรแบบนี้”
“แล้วผมก็ขอพูดเรื่อง .… หน่อย” เขากำลังบ้าน้ำลาย แต่ผมเดินออกมาก่อน เขาเลยพูดไล่หลังว่า “ เอ้อ คุณ ไอ้โหวตโน โนแอนนิมอลทูพาเลียเม้นต์ นี่มันอะไรกัน”
.............................................................
ผมจึงเดินไปถามอาซิ่มร้านการ์ตูนเจ้าประจำ ที่ติดสติ้กเกอร์ “ตบโหลกนักการเมือง” “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” ไว้เต็มหน้าร้าน
“โอ้ย ซิ่มไม่โหวตโนแล้ว ซิ่มจะโหวตให้ฮีโร่ของเรา ฮีโร่ที่ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน”
“ไหนว่านักการเมืองเลวเหมือนกันหมด จะไม่ปล่อยสัตว์เข้าสภาไง” ผมกวนตีน
“แหม ปล่อยสักตัว เอ๊ย สักคน จะเป็นไรไป ปากเสียงของพวกเรา”
เจ๊แกยิ้มราวกับได้ชัยชนะของคนไทยทั้งประเทศ ก่อนปลดสติ้กเกอร์โหวตโนรูปตัวเหี้ยทิ้งลงในถังขยะ.