เหล็กใน
สมิงสามผลัด
มองได้เพียงอย่างเดียวว่าเป็นอาการดิ้นในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง
เพราะเหตุผลที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องการปราศรัยใหญ่ให้เกิดความปรองดอง
แต่พอไปฟังเนื้อหาก็ไม่เห็นมีช่วงไหนเลยที่บ่งบอกถึงเรื่องสมานฉันท์
มีแต่ปลุกกระแสคนกรุงไม่เอาทักษิณ ไม่เอาเสื้อแดง
กับหวังแค่สร้างคะแนนนิยมให้พรรค
และถ้าได้นั่งฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก็เหมือนกับการฉายหนังซ้ำ
ไม่ผิดเพี้ยนไปจากตอนที่เคยอภิปรายชี้แจงในสภา
จะมีข้อมูลใหม่ๆ ก็แค่ที่ราชประสงค์ไม่มีคนตาย กับนายอภิสิทธิ์ร้องไห้ทั้งคืน !?
ที่เหลือก็เป็นเรื่องเก่าล้วนๆ 91 ศพเป็นฝีมือคนชุดดำ
เป็นข้อมูลเดิมๆ ที่นายอภิสิทธิ์เคยโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กจากใจอภิสิทธิ์ทั้ง 6 ตอน
วนเวียนอยู่แค่ว่าเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง
แต่ไม่เคยบอกว่าทำไมต้องใช้กระสุนจริงสลายม็อบ
ไม่เคยตอบคำถามเรื่องใช้กระสุนสไนเปอร์ไปกี่พันนัด
ไม่เคยพูดถึงสำนวนคดี 6 ศพวัดปทุมฯ ที่ระบุว่าวิถีกระสุนมาจากบนรางบีทีเอส
และหากย้อนกลับไปอ่านบันทึกจากใจอภิสิทธิ์ตอนที่ 4 มีตอนหนึ่งระบุว่า
"แม้ ในวันที่ 19 เอง ก็ยังมีคนจากอีสานที่รับจ้างทำบ้องไฟกับเพื่อนๆ แต่สุดท้ายไม่ได้รับค่าจ้าง หลบหนีเข้าไปอยู่ในวัดปทุมฯ ซึ่งต่อมาได้พยายามหนีกับเพื่อนๆ ออกจากประตูวัดด้านใกล้แยกอังรีดูนังต์ แต่เพื่อนที่วิ่งนำหน้าถูกกลุ่มชายชุดดำใส่หมวกไหมพรม 5-6 คน ยิงจนเสียชีวิต และลากศพไปเผาบริเวณที่บังเกอร์หน้าวัด เขาจึงวิ่งย้อนกลับไปหลบหนีออกด้านหลังวัด ในที่สุดชายคนนี้ได้ให้ปากคำที่ สน.ทุ่งมหา เมฆ ในฐานะพยานผู้เห็นเหตุการณ์การกระทำอันโหดร้ายของกลุ่มชายชุดดำ"
แต่ก็ไม่วายโดนจับผิดจนได้!?
เพราะ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย ขึ้นโรงพักทุ่งมหาเมฆ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง
ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏบันทึกประจำวันเรื่องดังกล่าวไว้เลย !!
ไม่อยากบอกว่านายอภิสิทธิ์แหกตาประชาชน
แต่การบันทึกสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน หรือสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
ต้องยึด "ข้อเท็จจริง" เป็นสำคัญ
ไม่งั้นเฟซบุ๊กก็จะกลายเป็นเฟกบุ๊ก
โดนอำกันทั้งประเทศว่า "ดีแต่โพสต์" อีก