27 มิ.ย.54 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก นายประสงค์ มณีอินทร์ และนายโกวิทย์ แย้มประเสริฐ จำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เป็นเวลาคนละ 8 เดือน ฐานร่วมกันลักทรัพย์ด้วยการทำลายสิ่งกีดกั้น จำคุกคนละ 5 ปี ฐานมีวัตถุระเบิด จำคุกคนละ 6 ปี ฐานมีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ 6,000 บาท และพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ปรับ 100 บาท รวมจำคุกจำเลยทั้งสองเป็นเวลา 11 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 6,100 บาท และให้ริบของกลาง
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง สรุปว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 จำเลยทั้งสองฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขับรถกระบะผ่านเส้นทางห้ามสัญจร และมีวัตถุระเบิด, เครื่องวิทยุคมนาคมชนิดมือถือโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังงัดประตูร้านค้าเข้าไปลักทรัพย์รวม 60 รายการ เป็นเงิน 38,251 บาท เหตุเกิดที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน, แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.
ศาล พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามวันเวลาที่ฟ้อง มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามใช้เส้นทางตามที่กำหนด ห้ามชุมนุม แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองขับรถกระบะผ่านไปยังด่านตรวจค้นที่เจ้าหน้าที่ตั้ง ด่านสกัดอยู่บริเวณถนนเพชรบุรี เมื่อตรวจค้นพบวัตถุระเบิด มีด ขวาน วิทยุสื่อสาร นอกจากนี้ยังมีบุหรี่ สุรา อาหารแห้ง บัตรเติมเงินโทรศัพท์ ฯ ที่จำเลยทั้งสองลักทรัพย์มาจากร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่จากคำเบิกความของพยานโจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่ขณะตั้งด่านตรวจค้น มีเจ้าหน้าที่ร่วมจับกุมหลายนาย ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าจะเบิกความปรักปรำให้จำเลยทั้งสองได้รับโทษ เชื่อว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกดังกล่าว
นาง จินตนา เอี่ยมละออ ภรรยาของนายประสงค์ มณีอินทร์ จำเลยที่ 1 อายุ 57 ปี กล่าวว่า สามีมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ปูกระเบื้อง ต่อเติมเล็กๆ น้อยๆ ตามหมู่บ้าน ได้ไปร่วมชุมนุมกับ นปช.เป็นระยะหลังเลิกงาน เนื่องจากเพื่อนบ้านชักชวน ประกอบกับไม่พอใจรัฐบาลเพราะเศรษฐกิจตกต่ำมาก สามีโดนจับกุมวันที่ 17 พ.ค.53 ในช่วงสาย ซึ่งยังไม่มีการประกาศสลายการชุมนุมด้วยซ้ำ ก่อนหน้านั้นได้นอนค้างที่ชุมนุม 1 คืน เมื่อลูกสาวโทรบอกให้กลับบ้านจึงพยายามขับรถกระบะออกจากที่ชุมนุมเพื่อกลับ บ้านเพราะเกรงว่าจะติดอยู่ในวงล้อมทหาร กลับบ้านไม่ได้ จนกระทั่งเจอด่าน ซึ่งมีทหารกว่า 20 นายดักจับกุม ส่วนนายโกวิทย์ แย้มประเสริฐ จำเลยร่วมในคดีเดียวกันนั้น ก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เจอกับสามีในที่ชุมนุม เมื่อรู้ว่าสามีจะกลับบ้านจึงขอติดรถกลับบ้านด้วย
ภรรยา นายประสงค์กล่าวต่อว่า รู้สึกตกใจมากที่สามีถูกจับ ยื่นประกันตัวหลายครั้งก็ไม่ได้รับการประกันตัวและท้ายที่สุดก็ถูกตัดสินโทษ สูงมาก ที่ผ่านมาครอบครัวลำบากเพราะสูญเสียหัวหน้าครอบครัวไป และจากการสอบถามสามี สามีก็ยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิดพกพาอาวุธดังกล่าวหารวมถึงข้อหาขโมยของ แต่ยอมรับว่าวิทยุสื่อสารนั้นเป็นของสามีจริง เพราะสามีเป็นอาสาสมัคร อพปร. ของหมู่บ้านช่วยดูแลสอดส่องเรื่องยาเสพติด ได้รับการอบรมร่วมกับเพื่อนอีก 6-7 คน โดยประธานหมู่บ้านได้ซื้อ “วอ” แจกให้คนละ 1 เครื่องและได้นำติดตัวไปที่ชุมนุมด้วย นอกจากนี้มีดและไม้ที่เจ้าหน้าที่ระบุก็เป็นของสามีจริง แต่เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ในการสร้างแบบเทปูนที่ติดรถไว้ ตนทราบดีเพราะเป็นผู้ช่วยสามีในงานรับเหมา
“แกโดนทหารจับไป สน.พญาไท แล้วเขาค่อยเอารถตามไปทีหลัง หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง เสร็จแล้วก็มาแถลงข่าวบอกว่าเจอของมากมายบนรถ” จินตนากล่าว
“อยาก ให้รัฐบาลรู้ว่า สิ่งที่เขาทำ มันกระทบกับพวกเรามาก วันนี้พอศาลตัดสิน 11 ปี แกก็เสียใจ เขาเป็นห่วงครอบครัวจะลำบาก ลูกๆ ก็ร้องให้ ไม่รู้จะทำยังไง” ภรรยานายประสงค์กล่าวทั้งน้ำตา พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า สามีถูกย้ายไปขังที่จังหวัดลพบุรี 3 เดือน จนลูกสาวขอร้องกับเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าครอบครัวยากจน เดินทางมาเยี่ยมจำเลยได้ยากลำบาก สุดท้ายจึงได้ย้ายกลับมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เช่นเดิม
ด้านเบญจ รัตน์ มีเทียน ทนายความของจำเลยทั้งสองคน ให้สัมภาษณ์ว่า จะทำเรื่องอุทธรณ์เร็วๆ นี้ พร้อมระบุว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหลักฐานที่มีน้ำหนักชัดเจน และการจับกุมโดยทหารก็เป็นไปโดยไม่ชอบตามกระบวนการ แต่สุดท้ายศาลพิจารณาแล้วให้เหตุผลว่าพยานโจทก์น่าเชื่อถือเพราะเป็นเจ้า หน้าที่รัฐ
ทั้งนี้ ในคำฟ้องของโจทก์ระบุรายการของที่พบได้แก่ กระบองไม้ 4 อัน, ไม้หน้าสาม 1 ท่อน, แท่งเหล็ก 6 อัน ขวาน 3 เล่ม หนักสติ๊ก 6 อัน, หนังสติ๊กเหล็ก 2 อัน ลูกแก้ว 180 ลูก, หัวน็อตโลหะ 288 ตัว มีดสั้น 4 เล่ม, คัดเตอร์ 1 เล่ม กระสุนดินเหนียว 1 ถุง, กระสุนโลหะ 6 ลูก ระเบิดปิงปองอันเป็นดอกไม้เพลิงประเภทลูกบอลประทัด 13 ลูก วัตถุระเบิดลักษณะเป็นขวดเครื่องดื่มชู ภายในบรรจุน้ำมันก๊าด 2 ขวด, วัตถุระเบิดเป็นลูกพลาสติกทรงกระบอกสีขาว เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 ซม. ภายในบรรจุวัตถุระเบิดแรงต่ำประเภทดินดำ หรือดินเทา 1 ลูก