ผู้ สื่อข่าว Wayne Hay จากอัลจาซีรา ได้สัมภาษณ์ทักษิณที่บ้านพักในประเทศดูไบ ต่อประเด็นข้อกล่าวหาในอดีต และการเลือกตั้งที่จะมาถึง รวมถึงแผนการปรองดองสมานฉันท์ระหว่างฝักฝ่าย ถ้าหากเพื่อไทยชนะ ประเทศจะก้าวต่อไปอย่างไร
วานนี้ (26 มิ.ย.) สถานีโทรทัศน์ Al-jazeera ได้เผยแพร่การสัมภาษณ์อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ในรายการ Talk to Jazeera โดยผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่า Wayne Hay โดยได้ซักถามพูดคุยในประเด็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง การรัฐประหาร และการปรองดอง ประชาไทจึงแปลบทสัมภาษณ์ดังกล่าวในประเด็นที่สำคัญมานำเสนอดังนี้
อัล จาซีร่า: ในขณะนี้ประเทศคุณก็มาอยู่ในโหมดการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งก็เกี่ยวกับคุณเต็มๆ คุณคิดว่าประเทศคุณมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ทักษิณ: ก็ เพราะว่าการรัฐประหารที่เกิดขึ้นในปี 2549 เป็นการขัดเจตจำนงของประชาชน โดยทั่วไปแล้วการรัฐประหารที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้นจะกระทำต่อรัฐบาลที่ ไม่ได้รับความนิยม แต่การรัฐประหารในปี 2549 เป็นการขัดขวางเจตจำนงของประชาชน เป็นการรัฐประหารต่อรัฐบาลที่ป๊อปปูลาร์มาก และทำสิ่งที่ดีมากมายให้แก่ประชาชน นี่คือเหตุผลว่าทำไมประชาชนถึงไม่แฮปปี้ ประเทศไทยหลังการรัฐประหารอาจจะดูเหมือนสงบสุข แต่ที่จริงแล้วความไม่พอใจของประชาชนนั้นยังมีอยู่
อัล จาซีร่า: แล้วชีวิตในดูไบเป็นอย่างไร น่าจะเหงามากสำหรับคุณใช่ไหม
ทักษิณ: ผมคิดถึงบ้าน คิดถึงประเทศชาติและประชาชน ในปีแรกนั้นสำหรับผมก็ค่อนข้างยากลำบากหน่อย เพราะรู้สึกเหงามาก แต่ในเดือนถัดมาก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นผมก็ได้กลับบ้านสัก 4-5 เดือน จากนั้นมาผมก็ชินไปแล้ว ผมปรับตัวได้ ผมเป็นคนไฮเปอร์ ไม่ชอบนั่งอยู่เฉยๆ จึงหาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลาและทำสิ่งที่มีประโยชน์ในชีวิต
อัล จาซีร่า: คุณบอกว่าคุณปรับตัวได้แล้ว แต่ความจริงคุณก็อยากจะกลับบ้านเหนืออื่นสิ่งใดใช่ไหม
ทักษิณ: สิ่ง ที่สำคัญคือว่า ผมถูกจับอย่างไม่ยุติธรรม ผมจึงต้องการกู้ชื่อเสียงของผมกลับคืนมา ผมอยากช่วยเหลือคนที่ชีวิตต้องเดือดร้อนหลังจากการรัฐประหาร พวกเขาลำบากมาก 5 ปีแล้ว และไม่มีใครสนใจ ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนได้แสดงออกว่าเขาอยากเห็นประเทศเป็นอย่างไรต่อไป
อัล จาซีร่า: ลองกลับไปดูปีที่เกิดรัฐประหารขึ้นบ้าง คุณถูกตัดสินว่าผิดจริงในข้อหาคอร์รัปชั่นเรื่องการใช้อำนาจในทางที่ผิดกับ กรณีชินคอร์ป แต่คุณบอกว่าข้อตัดสินดังกล่าวเป็นการกระทำทางการเมือง ทำไม? คุณคิดว่าใครเป็นคนอยากให้คุณออกไปจากประเทศนี้นัก?
ทักษิณ: หลังจากการรัฐประหาร พวกเขาก็ได้ตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วยฝ่ายค้านของผมทั้งนั้นและเขาก็ จับกุมผมโดยไม่มีกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง พวกเขาใช้ข้อกล่าวหาและข้อโจมตีของพรรคประชาธิปัตย์มากล่าวหาผม
อัล จาซีร่า: มีคีย์เวิร์ดที่สำคัญคำหนึ่งในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ คือ คำว่า “ปรองดอง” เพื่อให้ประชาชนไทยปรองดอง ทำไมตัวคุณเองไม่ยอมรับผิดเพื่อการปรองดองล่ะ บางทีประเทศอาจจะทำให้ประเทศก้าวหน้าก็ได้
ทักษิณ: ผมพูดว่าขอโทษก็ได้ ใช่ครับ ไม่มีใครที่เพอร์เฟคท์หรอก เมื่อคุณปกครองประเทศเป็นเวลา 6 ปี คุณอาจจะทำอะไรที่ทำให้คนบางส่วนในสังคมไม่ถูกใจก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตยคือเสียงข้างมาก ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งจะเห็นว่าเราชนะมากขึ้นๆ ครั้งที่แล้วเราชนะ 377 เสียง หลังจากนั้นก็ถูกทำการรัฐประหาร จำนวนเก้าอี้ตอนนั้นนับเป็น 76% ของรัฐสภา และอีกอย่างหนึ่งก็คือสิ่งที่ผมได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เกี่ยวกับเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ผมก็คงจะใช้ “ถุงมือกำมะหยี่” มากกว่าใช้ “กำปั้นเหล็ก”
อัล จาซีร่า: แต่ข้อหาและเหตุผลที่การรัฐประหารเกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะการคอร์รัปชั่น คุณยอมรับไหมว่าในสมัยที่คุณมีอำนาจอยู่นั้นมีการกระทำผิดอะไรบ้าง
ทักษิณ: ผม ไม่คิดว่าผมทำอะไรผิดนะ แต่ก็อาจจะมีรัฐมนตรี หรือเจ้าหน้าที่ที่ผมไม่รู้บ้าง เพราะในรัฐบาลของผมนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันไปเร็วมาก ผมอาจจะมองกลับไปไม่พอ อาจมองกลับไปในรายละเอียดไม่ดีพอ และนั่นก็เป็นความผิดของผม แต่ผมก็พยายามจะทำให้ประเทศให้ไปข้างหน้า ที่เข้ากล่าวหาว่าผมคอร์รัปชั่นนั้น ข้อกล่าวหานั้นว่าด้วยการที่ผมโกงเงินของตัวเอง ถ้าคุณฉ้อโกง คุณต้องโกงเงินไปจากรัฐบาล แต่นี่ ผมโกงเงินของผมเอง
อัล จาซีร่า: แต่เขากล่าวหาว่าคุณแก้ไขข้อกฎหมายเพื่อให้ประโยชน์ต่อธุรกิจโทรคมนาคม เพราะคุณเป็นเจ้าของบริษัทชินคอร์ป
ทักษิณ: ไม่ ผมไม่คิดว่าผมทำไปด้วยเหตุนั้น ผมทำไปเพราะ WTO ต่างหาก (องค์การการค้าโลก) เพราะ WTO มีข้อกำหนดให้เราต้องเปิดเสรีโทรคมนามคม เราจึงต้องแก้กฎหมายให้เป็นไปตามนั้น ไม่ใช่เพราะครอบครัวของผมเป็นเจ้าของบริษัทแต่เป็นเพราะ WTO บังคับให้เราทำเช่นนั้น รัฐบาลได้เอาเงินครอบครัวของผมไปเพราะว่าราคาของหุ้นขึ้นในช่วงที่ผมเป็น รัฐบาล ซึ่งหุ้นต่างๆ ในตลาดหุ้นก็ขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้ราคาหุ้นของครอบครัวเราขึ้นตามตลาดหลักทรัพย์ไทยไปด้วย ไม่มีอะไรผิดปรกติเลยแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังเอาเงินของผมไป พร้อมทั้งดอกเบี้ยด้วยต่างหาก มันไม่แฟร์เท่าไหร่ ส่วนตอนนี้ ศาลที่ตัดสินข้อกล่าวหาที่ว่า ก็บอกว่าเป็นโมฆะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจะเอาผมเข้าคุกทำไมถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อัล จาซีร่า: คนในชนบทมองคุณเป็นเหมือนฮีโร่นะ คุณคิดว่ามันย้อนแย้งไหมที่คุณเป็นคนที่รวยล้นฟ้า ถึงแม้ว่าจะถูกยึดทรัพย์ไปบ้างแล้วก็เถอะ
ทักษิณ: ผมสร้างมาด้วยตนเอง ผมโตมาในชนบท ผมจึงเข้าใจว่าอุปสรรคของพวกเขาคืออะไร ผมได้หยิบยื่นโอกาสให้พวกเขา นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาถึงชอบผม และผมถึงอยากจะช่วยพวกเขา ผมเองก็ผ่านความยากลำบอกมาเยอะเหมือนกัน ผมจึงอยากช่วยให้พวกเขาลุกยืนขึ้นมา เพราะผมก็ประสบความสำเร็จแล้ว จึงอยากจะช่วยคนอื่น นี่คือความคิดของผม รัฐบาลเอาเงินผมไป ขโมยเงินผมไป ผมไม่ได้ขโมยจากรัฐบาลเสียหน่อย ผมติดลำดับของฟอร์บส์มาก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามาเล่นการเมือง ผมเคยมี 2.2 พันล้าน ตอนนี้ทรัพย์สินของผมเหลืออยู่เพียงพันล้าน
อัล จาซีร่า: คุณจะพยายามเอาเงินคืนมาหรือเปล่า
ทักษิณ: ผมไม่เคยคิดในแง่เรื่องส่วนตัวนะ แต่ถ้าจะมีกระบวนการที่จะทำเพื่อช่วยเหลือคนที่ถูกปกครองอย่างไม่ยุติธรรม นั่นก็อีกเรื่อง แต่นั่นไม่เคยเป็นเป้าหมายของผม
อัล จาซีร่า: แต่มนุษย์คนไหนๆ ก็อยากจะได้เงินที่ถูกขโมยไปคืนมามิใช่หรือ
ทักษิณ: แต่บางทีเราก็ต้องบอกว่าปล่อยไปบ้าง ผมไม่สนใจเท่าไหร่หรอก ผมหาใหม่ได้มากกว่านั้น เพราะผมมีธุรกิจเหมืองแร่
อัล จาซีร่า: แล้วทำไมไม่กลับไปแล้วรับโทษจำคุกสองปี ซึ่งป่านนี้ก็คงจะจบไปแล้ว คุณคิดว่าคุณน่าจะเป็นคนที่มีอำนาจในเรือนจำกรุงเทพฯ มากกว่า และได้อยู่กับประชาชนของคุณ แทนที่จะหลบหนีไป?
ทักษิณ: ผม ไม่ได้หลบหนี แต่นี่มันไม่แฟร์ กรณีที่ดินที่ผมถูกตัดสินว่าผิดสองปีนั่น จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลย ตามกฎหมายไทย ถ้าคู่สมรสของคุณอยากจะทำข้อตกลง คุณต้องได้รับการยินยอมจากอีกฝั่งด้วย ภรรยาผมซื้อที่ดินอย่างเปิดเผยและถูกกฎหมาย และตอนนั้นศาลก็บอกว่าเธอยังไม่ได้ทำอะไรผิด และเมื่อเธอต้องการคำยินยอมจากผมในฐานะคู่สมรสในการเซ็นสัญญา ศาลก็บอกว่าผมใช้ฐานะของนายกรัฐมนตรีซึ่งผิด มันเป็นเหมือนศาล “มิคกี้เมาส์” เลย มันไม่ใช่กระบวนการตามปรกติ
อัล จาซีร่า: ผู้ชุมนุมเสื้อแดง ไม่ว่าจะดีร้ายอย่างไรก็ตาม ก็มีความเกี่ยวข้องกับคุณ พวกเขาสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยมาก ทำให้ดูค่อนข้างแย่ทั้งจากต่างชาติและในประเทศ
ทักษิณ: พวกเขาดูแย่เพราะว่าไม่มีประชาสัมพันธ์ช่วย...
อัล จาซีร่า: พวกเขาดูแย่เพราะมีกลุ่มเสื้อแดงติดอาวุธบทท้องถนนในกรุงเทพต่างหาก
ทักษิณ: พวก เขาติดอาวุธยังไง ใช่ พวกเขาอาจมีรั้วกั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เมื่อรัฐบาลใช้รถถัง กระสุนจริง และสไนเปอร์เข้ามาสลายการชุมนุม ก็เหมือนกับกัดดาฟีที่ถูกออกหมายจับอยู่ตอนนี้ นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลได้ทำลงไป เขาได้ฆ่าประชาชนไปหลายคน ถึงแม้ว่าประชาชนจะยอมแพ้และเข้าไปอยู่ในวัดแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังใช้สไนเปอร์ยิงใส่คน เราไม่อยากเห็นอย่างนั้นอีก เราจึงขอให้มีการปรองดอง เราขอให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวและไม่แตกแยกอีกต่อไป ความแตกแยกนี้มาจากรัฐบาลที่ไม่สามารถชนะได้โดยวิถีทางการเลือกตั้งที่เป็น ประชาธิปไตยต่างหาก
อัล จาซีร่า: เราจะปรองดองกันได้ยังไง จะเห็นว่าคุณก็ยังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปีที่แล้วด้วยอารมณ์ ข้อเสนอของพรรคคุณคือเสนอให้มีการนิรโทษกรรมสำหรับบุคคลตั้งแต่การรัฐประหาร 2549 เป็นต้นมา คุณจะทำการนิรโทษกรรมให้กับทหารที่ฆ่าผู้ชุมนุมเสื้อแดงด้วยหรือไม่
ทักษิณ: การ นิรโทษกรรมนี้เป็นไปเพื่อทุกฝ่ายที่เกี่ยว ข้อง การให้นิรโทษกรรมฝ่ายเดียวไม่มีประโยชน์ พวกคณะรัฐประหารทำอย่างนั้นไปแล้ว คณะรัฐประหารทำนิรโทษกรรมให้ตัวเอง เราไม่ได้ขอให้มีการนิรโทษกรรมฝ่ายเดียว ถ้าจะให้มีนิรโทษกรรม จะต้องเป็นผลมาจากการปรองดอง ต้องยึดหลักการตรงนั้น และก็ไม่ควรทำจากรัฐบาล ควรจะมีการตั้งหน่วยงานที่เป็นเป็นกลางเข้ามาดูแล
อัล จาซีร่า: คุณกำลังบอกกับคนไทยใช่หรือไม่ว่า ถ้าพรรคคุณชนะ แล้วคุณได้กลับมา คุณจะไม่ทำการแก้แค้นใดๆ กับคนที่ไล่คุณออกจากประเทศ
ทักษิณ: ไม่ เลย ผมไม่เคยคิดจะแก้แค้น แต่ผมคิดจะแก้ไข อะไรที่มันผิดพลาดเราก็ทำการแก้ไข และเราต้องทำให้ประเทศเราก้าวไปข้างหน้า เราเสียเวลามามากพอแล้ว
อัล จาซีร่า: แล้วต่อรัฐบาลที่สั่งให้ฆ่าผู้ชุมนุมล่ะ
ทักษิณ: ประเทศนี้ต้องสมานฉันท์ เราต้องลืมอดีต ถ้าเราลืมไม่ได้ และมัวแต่พูดถึงอดีต เราก็จะก้าวต่อไปข้างหน้าไม่ได้เสียที
อัล จาซีร่า: คุณให้น้องสาวของคุณลงแข่งครั้งนี้ ซึ่งก็ไปได้ดีทีเดียว แต่เธอมีคุณสมบัติอะไรที่จะสามารถบริหารประเทศนี้ได้
ทักษิณ: เธอมีประสบการณ์มากกว่านักการเมืองหลายๆคน ที่ผ่านเธอได้บริหารบริษัทใหญ่ๆ เธอเป็นประธานบริษัทเอไอเอส
อัล จาซีร่า: แต่นั่นมันต่างกับการบริหารประเทศนะครับ
ทักษิณ: ใช่ แต่ถ้าคุณไม่เคยบริหารองค์กรเลยคุณจะเป็นนายกฯ ที่ดีได้อย่างไร จะเห็นว่านายกฯ หลายคนล้มเหลวเพราะไม่เคยบริหารองค์กรมาก่อน
อัล จาซีร่า: คุณบอกว่าคุณไม่อยากเป็นนายกฯ อีกต่อไปแล้ว
ทักษิณ: ไม่รู้ผมจะเป็นไปทำไมเพราะน้องสาวผมก็จะได้เป็นแล้ว ผมน่ะแก่เกินไป
อัล จาซีร่า: แล้วประธานาธิบดีแห่งประเทศไทยล่ะ?
ทักษิณ: อย่า ถามผมอย่างนี้ สำหรับผมมันอันตรายมากรู้ไหม เพราะพวกเขาพยายามกล่าวหาผมเนื่องด้วยความนิยมจากประชาชนที่ผมมี ว่าผมจะเปลี่ยนให้ประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐซึ่งผมไม่เคยคิดเลย อย่าคิดว่าผมทะเยอทะยานเกินไป ผมไม่ใช่เป็นคนทะเยอทะยาน ผมแค่อยากจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จให้เรียบร้อย นั่นคือนิสัยของผมในฐานะนักธุรกิจ การเป็นนายกฯ เป็นเพียงพาหนะหนึ่งที่ทำให้ผมได้ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชน ไม่ใช่เพราะผมหมกมุ่นอยู่กับตำแหน่งหรืออะไร ไม่ล่ะ ไม่ใช่ผม
อัล จาซีร่า: มันก็เป็นประเด็นที่อ่อนไหว แต่ก็เป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมา ว่าผู้สนับสนุนคุณที่เป็นเสื้อแดงนั้นต่อต้านสถาบันกษัตริย์...
ทักษิณ: ไม่ ไม่ใช่ผม ไม่ใช่นโยบายของผม อย่างที่คุณรู้ ในเสื้อแดงเองก็มีหลายส่วน ซึ่งบางส่วนผมก็ไม่สามารถโน้มน้าวได้ แต่ส่วนใหญ่ผมก็ยังโน้มน้าวได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
อัล จาซีร่า: พรรคคุณก็กำลังไปได้ดีในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ทำไมคุณถึงคิดว่ากองทัพจะยอมให้คุณจัดตั้งรัฐบาล เมื่อนึกถึงว่าพวกเขาพยายามอย่างมากเพื่อกำจัดทักษิณ ชินวัตร
ทักษิณ: ทำไม คุณไม่ไปถามทหารล่ะ ถ้าคุณคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย คุณต้องเคารพในการตัดสินใจของประชาชน ไปถามกองทัพ อย่ามาถามผม
อัล จาซีร่า: คุณได้พูดคุยกับทางกองทัพบ้างไหมเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล
ทักษิณ: ไม่ แต่ถ้าคุณจัดงบประมาณให้มีการเลือกตั้ง แต่คุณไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน คุณไม่ต้องให้มีการเลือกตั้งเลยดีกว่า ถ้าอยากให้ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลต่อไปเรื่อยๆ ก็แก้ไขรัฐธรรมนูญเอาก็ได้
อัล จาซีร่า: ถ้าคุณคิดว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส่ และกองทัพจะเข้ามาเกี่ยวพัน คุณจะทำอะไรต่อไป
ทักษิณ: เรา เล่นตามกฎกติกา ถ้าเราชนะเราก็ชนะ ถ้าเราแพ้เราก็แพ้ แต่เราขอเพียงแค่ให้มีการเลือกตั้งที่เสรีและโปร่งใส นี่เป็นขั้นตอนแรกของการปรองดอง ถ้าขั้นตอนแรกนี้ถูกบิดเบือนเพื่อทำลายการเลือกตั้งเสียแล้ว ประเทศอื่นๆ จะมองเรายังไง
อัล จาซีร่า: คุณจะยอมรับผลการเลือกตั้งไหม หากมันไม่เสรีและยุติธรรม
ทักษิณ: อย่าถามผม คุณต้องไปถามประชาชนชาวไทย ผมอยู่ด้านนอก แต่ถ้าถามในฐานะพรรคการเมือง เราเล่นตามกฎกติกา แต่ถ้าเขาไม่ทำตามกฎ เราก็จะประท้วงในกรอบของกฎหมาย
อัล จาซีร่า: คุณได้ทำการตกลงกับทางกองทัพและฝ่ายอื่นๆว่าจะอนุญาตให้คุณได้กลับบ้าน
ทักษิณ: ไม่ ไม่ ผมบอกน้องสาวผมไปแล้วว่าอย่าเป็นห่วงผม เราต้องทำให้เกิดการปรองดองให้ได้ และให้เกิดผล และถ้าผมสามารถกลับไปเนื่องจากการเลือกตั้งและการปรองดอง ผมก็ยินดีที่จะกลับ ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะผมก็สบายที่นี่แล้ว
อัล จาซีร่า: การที่คุณได้อยู่ในตะวันออกกลาง คุณเห็นความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง อย่างการลุกฮือของประชาชน คุณคิดว่ามีบทเรียนอะไรสำหรับประเทศไทยหรือไม่
ทักษิณ: ในหลายๆ ประเทศมีการลุกฮือของประชาชนเพราะรัฐบาลไม่สนใจประชาชน ดังนั้นคุณจึงไม่ควรทอดทิ้งประชาชน คุณควรจะหยิบยื่นความหวังและโอกาสให้กับประชาชน ถ้าคุณไม่มีหวังและโอกาสให้ประชนชนล่ะก็ ความอดทนมันก็มีขีดจำกัดของมันนะ ในประเทศไทยก็เหมือนกัน ในรัฐบาลไทยรักไทย เราได้ให้ความหวังและโอกาส และการรัฐประหารก็ทำลายมันลง ผมบอกให้คุณมั่นใจได้เลยว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นเรื่องของประชาชน และความคิดของเขาต่ออนาคตที่อยากเห็น ผลที่ออกมาจะเหลือเชื่อมาก พวกเขาคงจะเข้าใจมากขึ้น...
สามารถดูคลิปดังกล่าวได้จาก Talk to Al-Jazeera: Thaksin Shinawatra