นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและ
ฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 17- 21 กรกฎาคม
หารือเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุน
และรับฟังสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรป
เพื่อนำกลับมาเตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิดผลกระทบกับประเทศไทย
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และคณะผู้ติดตาม เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดินทางไปเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 17- 19 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นประเทศแรกของการเยือนภูมิภาคยุโรป ในโอกาสที่ไทยกับเยอรมนีกำลังฉลองวาระครบรอบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี 2555 โดยนายกรัฐมนตรีจะพบหารือกับนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมัน ต่อการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป และย้ำบทบาทของไทยในฐานะหุ้นส่วนที่พร้อมสนับสนุนเยอรมนีซึ่งกันและกันได้ เพื่อการเติบโตไปพร้อมกัน
จากนั้นระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ เพื่อมุ่งเน้นการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับฝรั่งเศสในฐานะหุ้นส่วนทาง ยุทธศาสตร์ ในการหารือกับนายฟรองซัวส์ ออลองด์ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤติที่เกิดขึ้น แนวโน้ม และนโยบายของฝรั่งเศสต่อการแก้ปัญหา และตอกย้ำความร่วมมือทวิภาคี เช่น การหาแนวทางเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน การขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ และการสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของฝรั่งเศสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ เช่น การเข้าร่วมในโครงการพัฒนาเครือข่ายในภูมิภาค
อย่างไรก็ตามในการเดินทางไปเยือนเยอรมันและฝรั่งเศสครั้งนี้ รัฐบาลจะนำภาคเอกชนไทยจาก 5 สาขาที่มีการค้าและการลงทุนอยู่ในภูมิภาคยุโรป และมีแผนการขยายการลงทุน ได้แก่ สาขาเกษตรอาหาร อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ สาขาพลังงาน แฟชั่น และการแพทย์ ร่วมคณะเดินทางเยือนด้วย เพื่อผลักดันกลไกความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มากยิ่ง ขึ้น เพราะทั้ง 2 ประเทศถือเป็นประเทศที่สำคัญในภูมิภาคยุโรปที่มีมูลค่าการค้าการลงทุนสูง และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือกับไทยในภูมิภาค
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และคณะผู้ติดตาม เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดินทางไปเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 17- 19 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นประเทศแรกของการเยือนภูมิภาคยุโรป ในโอกาสที่ไทยกับเยอรมนีกำลังฉลองวาระครบรอบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี 2555 โดยนายกรัฐมนตรีจะพบหารือกับนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมัน ต่อการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป และย้ำบทบาทของไทยในฐานะหุ้นส่วนที่พร้อมสนับสนุนเยอรมนีซึ่งกันและกันได้ เพื่อการเติบโตไปพร้อมกัน
จากนั้นระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ เพื่อมุ่งเน้นการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับฝรั่งเศสในฐานะหุ้นส่วนทาง ยุทธศาสตร์ ในการหารือกับนายฟรองซัวส์ ออลองด์ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤติที่เกิดขึ้น แนวโน้ม และนโยบายของฝรั่งเศสต่อการแก้ปัญหา และตอกย้ำความร่วมมือทวิภาคี เช่น การหาแนวทางเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน การขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ และการสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของฝรั่งเศสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ เช่น การเข้าร่วมในโครงการพัฒนาเครือข่ายในภูมิภาค
อย่างไรก็ตามในการเดินทางไปเยือนเยอรมันและฝรั่งเศสครั้งนี้ รัฐบาลจะนำภาคเอกชนไทยจาก 5 สาขาที่มีการค้าและการลงทุนอยู่ในภูมิภาคยุโรป และมีแผนการขยายการลงทุน ได้แก่ สาขาเกษตรอาหาร อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ สาขาพลังงาน แฟชั่น และการแพทย์ ร่วมคณะเดินทางเยือนด้วย เพื่อผลักดันกลไกความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มากยิ่ง ขึ้น เพราะทั้ง 2 ประเทศถือเป็นประเทศที่สำคัญในภูมิภาคยุโรปที่มีมูลค่าการค้าการลงทุนสูง และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือกับไทยในภูมิภาค
by
wiroon
17 กรกฎาคม 2555 เวลา 17:01 น.