โดย แนวร่วมคนเสื้อแดง
20 พฤษภาคม 2553
การต่อสู้ของ”คนเสื้อแดง” มีความหลากหลากทั้งรูปแบบและเนื้อหา เพื่อนำสู่เป้าหมายที่สังคมต้องเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และ “อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน”
“คนเสื้อแดง” มีความปรารถนาให้ สังคมต้องไทยมีความยุติธรรม ไม่สองมาตรฐาน นิติรัฐต้องเป็นนิติธรรม ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ ทุกคนมีหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากัน และสังคมไทยต้องมีความเสมอภาค
เราจึงเห็นการต่อสู้ทางวัฒนธรรมทางสัญลักษณ์ “วันอาทิตย์สีแดง” ท่ามกลางการกดทับกดขี่ของอำนาจรัฐอำมาตย์อภิสิทธิ์ชนภายใต้พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งบอกให้รู้ว่า “คนเสื้อแดงไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรมทั้งปวง” ไม่ว่าอยู่ภายใต้บริบทสถานการณ์ใดก็ตามแต่
ณ วันนี้ คนเสื้อแดง ได้ประกาศจัดตั้ง “สมัชชา 19 พฤษภาคม” ขึ้น เพื่อเสนอเนื้อหาและประเด็นการปฏิรูปประเทศไทยของคนเสื้อแดงเอง เพื่อสร้างประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมควบคู่กับประชาธิปไตยทางการเมือง
“สมัชชา 19 พฤษภาคม” บอกให้รู้ว่า “คนเสื้อแดง” ไม่เชื่อไม่เห็นด้วยว่า การปฏิรูปประเทศไทยนำโดย อานันท์ ปันยารชุณ ประเวศ วะสี จะนำพาสังคมไทยสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝันของคนเสื้อแดงได้
เนื่องเพราะ การปฏิรูปประเทศไทย นำโดยเครือข่ายอำมาตย์ โดยเครือข่ายอำมาตย์ก็เพื่ออำมาตย์ นั่นเอง
แต่การปฎิรูปประเทศไทยของคนเสื้อแดง เพื่อสร้างประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ทั้งทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการเมือง ไม่ใช่เพื่อระบอบอำมาตยาธิปไตย
การปฏิรูปประเทศไทย ของคนเสื้อแดง ต้องการขจัดอิทธิพลของระบอบอำมาตย์ไม่ว่าในรูปแบบของกองทัพ องคมนตรี ศาลและอื่นๆให้อำนาจหมดสิ้นจากสังคมไทย เพื่อนำพาสังคมไทยสู่ความก้าวหน้า ไม่ใช่ถอยหลง หลงยุคอย่างที่เห็นและเป็นอยู่
การปฎิรูปประเทศไทย ที่นำโดย “สมัชชา 19 พฤษภาคม” จึงเป็นแนวรบที่สำคัญของคนเสื้อแดง คู่ขนานกับการปฏิรูปประเทศไทยของเครือข่ายอำมาตย์
อย่างไรก็ตาม ความใฝ่ฝันของคนเสื้อแดง ไม่ได้หล่นมาจากฟากฟ้า ไม่มีอำนาจใดหยิบยื่นให้ แต่เกิดจากการหยาดเหงื่อแรงงานและความคิดจิตใจของคนเสื้อแดงเอง และมิได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง หรือคณะ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เกิดจากมวลชนคนเสื้อแดงที่ต้องคิดค้น ระดม ประมวล สังเคราะห์ของคนเสื้อแดงกันขึ้นมา
การปฏิรูประเทศไทยของคนเสื้อแดง จึงมีลักษณะประชาธิปไตย แบบมีส่วนร่วมของคนเสื้อแดงอย่างแท้จริง
ในอดีต ประวัติศาสตร์การเมืองไทย บอกให้รู้ว่า ครั้งหนึ่งนายปรีดี พนมยงค์ และคณะราษฎรได้ทำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ราชสู่ระบอบประชาธิปไตย และได้เสนอเค้าโครงเศรษฐกิจสังคมไทย หรือ สมุดปกเหลือง เพื่อสร้างประชาธิปไตยทุกมิติทุกด้าน
แต่เค้าโครงเศรษฐกิจสังคมของนายปรีดี ถูกกลุ่มอนุรักษ์ราชาชาตินิยม ได้คัดค้านต่อต้านเพราะกลัวการสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจการเมืองวัฒนธรรมที่ผูกขาดมานมนานนับตั้งแต่การสถาปนารัฐชาติและระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ราช ขึ้น
กระนั้นก็ตาม แม้ว่าเค้าโครงเศรษฐกิจฯ ของนายปรีดี จะมีเป้าหมายเพื่อความเป็นธรรมในสังคมและเพื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศก็ตาม
แต่จุดอ่อนก็คือ ที่สำคัญ เค้าโครงเศรษฐกิจของคณะราษฎร ขาดการมีส่วนร่วมและขาดการสนับสนุนจากมหาประชาชนอย่างกว้างใหญ่ไพศาล จึงทำให้ไม่มีพลังในการต่อสู้กับพวกอนุรักษ์ราชาชาตินิยม อันเนื่องมาจากข้อกำจัดในการเคลื่อนไหวในยุคสมบูรณาญาสิทธิ์ราช นั่นเอง
ดังนั้น การปฏิรูปประเทศไทย ของคนเสื้อแดง ภายใต้ การนำทางของสมัชชา 19 พฤษภา ในครั้งนี้นั้น จึงเป็นประกายไฟที่ส่องแสงสว่างที่เกิดจากร่วมมือร่วมใจร่วมคิดร่วมทำของคนเสื้อแดง
มิเพียงแกนนำ มิเพียงนักวิชาการ มิเพียงปัญญาชนเท่านั้น
แต่เป็นภารกิจ ของมหาประชาชนคนเสื้อแดง ซึ่งมีความหลากหลายของอาชีพ ของชนชั้น ของกลุ่มชาติพันธุ์ แต่มีความเป็นหนึ่งเดียว “หัวใจสีแดง” ร่วมกัน คงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกันสร้างอย่างเข้าใจกัน
เพราะ “หัวใจสีแดง” สอนให้เรารักกัน ไม่แบ่งฐานะ ไม่มีเจ้านาย ไม่มีชนชั้น ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร แต่ มนุษย์ทุกคนเกิดมามีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
การปฏิรูปประเทศไทยของคนเสื้อแดง จึงเป็นความหวังและอนาคตของสังคมไทยด้วยประการทั้งปวง
**************
อะไรนะ สมัชชา19พฤษภาคม?!
กลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศได้จัดประชุมกันขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่นครปฐม และได้ตกลงจัดตั้งสมัชชา 19 พฤษภาคมขึ้น
สมัชชา 19 พฤษภาคม จะจัดให้มีการประชุมสมัชชาระดับจังหวัดครั้งแรกที่จังหวัดพะเยา ที่โรงแรมภูทองเพลส ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ โดยมีส.ส.ดร.สุนัย จุลพงศธร เป็นวิทยากรบรรยาย ในหัวข้อ สถานการณ์เศรษฐกิจ-การเมืองกับการปฏิรูปประเทศไทย และจะเป็นการระดมความคิดเห็นจากที่ประชุมกำหนดเป็นแนวทางการดำเนินงานของสมัชชาต่อไป ผู้สนใจเข้าร่วมติดต่อได้ที่ คุณจิรโรจน์ กีรติศักดิ์วรกุล โทร 08-5033-3533
ในเบื้องต้นที่ประชุมตัวแทนคนเสื้อแดงและประชาชนสาขาอาชีพต่างๆได้ระดมความคิดเห็นต่อแนวทางปฏิรูปประเทศไทย มีข้อเรียกร้องคือ
1. ให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งเป็นแกนนำและแนวร่วมนปช.ที่ถูกจับกุมคุมขังทุกคน
2. ปฏิรูประบบศาลยุติธรรมให้เชื่อมโยงกับอำนาจของประชาชน
3. ปฏิรูประบบภาษี เช่น ยกเลิกภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บภาษีก้าวหน้า ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก เพื่อดำเนินการจัดตั้งรัฐสวัสดิการ
4. ประกันรายได้เกษตรกร และเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงาน อีก 10เปอร์เซ็นต์
รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านในเวบไซต์redpower