ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
กลายเป็นภาพเปรียบเทียบอีกกรณี เมื่อพันธมิตรไปชุมนุมหน้ายูเนสโก แต่ไม่มีปัญหาขัดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แถมแกนนำยังได้รับเชิญจากนายกฯอภิสิทธิ์ไปพูดคุยด้วยความเคารพนอบน้อม
ต่างจากนักเรียนนักศึกษาเชียงราย 5 คนไปถือป้ายเสียดสีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลับถูกดำเนินคดีอย่างเอาเป็นเอาตาย
*แม้แต่นายนที สรวารี "ไอ แอม คัม อะโลน" แท้ๆ*
ยังถูกตำรวจรุมล็อกและหิ้วตัวข้อหาส่งเสียงดังที่ราชประสงค์
เหนืออื่นใด วันนี้พันธมิตรยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนคดียึดสนามบิน
อันเป็นคดีข้ามปี และเป็นที่โจษขานความเป็น 2 มาตรฐานอย่างอื้ออึงและยาวนาน!
โดยขอเลื่อนจากที่ตำรวจนัดไว้ปลายก.ค.ไปเป็นปลายเดือนส.ค.
ทั้งตั้งแง่จะเข้ามอบตัวพร้อมกันทั้ง 60-70 คน ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบการทำงานของตำรวจอย่างรุนแรง
น่าแปลกที่การเข้ายึดสนามบินเป็นเหตุการณ์เขย่าไปทั่วโลก เกิดขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อปี 2551
*แต่คดีล่าช้าอย่างยิ่ง!?!*
ล่าช้าส่วนหนึ่ง พนักงานสอบสวนทำด้วยความละเอียดรอบคอบ ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานให้หนาแน่นที่สุด
อีกส่วนเพราะ การเสนอหมายจับโดนถ่วงหลายรอบ จนสุดท้ายต้องใช้วิธีออกหมายเรียก
แต่ขนาดเป็นหมายเรียก ซึ่งเพียงมารับข้อหา สอบสวน แล้วกลับได้เลยไม่ต้องประกันตัว
พันธมิตรก็ยังเกี่ยง สร้างกระแสว่าเป็นคดีการเมือง ถึงขั้นทวงบุญคุณนายกฯ
ทั้งที่เรื่องราวไม่ได้มีอะไรลึกล้ำไปกว่า การทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนตามปกติ ตามเหตุที่มีการยึดสนามบินจริง
เป็นเรื่องใหญ่ ทั่วโลกเฝ้ารอผลคดีอยู่!
ส่วนที่จัดคิวให้เข้าพบวันละ 3 คน ก็จะใช้วิธียกทีมมาทั้งหมด ซึ่งตำรวจตีความได้ 2 ประเด็น
1.ถ้ามากันเยอะ จะดำเนินการตามขั้นตอนไม่ทัน แล้วจะดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนกลับ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
2.มากันเยอะ และอาจจะมีมวลชนมากดดันด้วย อันเป็นวิธีถนัด
*ในประการแรก หากกระทบการสอบสวน อาจต้องงัดหมายขังขึ้นมาใช้ โดยส่งทั้งหมดไปขอฝากขังต่อศาล แล้วต้องไปยื่นประกันต่อศาลเอาเอง*
ในประการที่สอง ต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมาดำเนินการ
ปัญหาอยู่ที่ว่า รัฐบาลจะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่าง 2 มาตรฐานอีกหรือเปล่า!?
วงค์ ตาวัน
กลายเป็นภาพเปรียบเทียบอีกกรณี เมื่อพันธมิตรไปชุมนุมหน้ายูเนสโก แต่ไม่มีปัญหาขัดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แถมแกนนำยังได้รับเชิญจากนายกฯอภิสิทธิ์ไปพูดคุยด้วยความเคารพนอบน้อม
ต่างจากนักเรียนนักศึกษาเชียงราย 5 คนไปถือป้ายเสียดสีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลับถูกดำเนินคดีอย่างเอาเป็นเอาตาย
*แม้แต่นายนที สรวารี "ไอ แอม คัม อะโลน" แท้ๆ*
ยังถูกตำรวจรุมล็อกและหิ้วตัวข้อหาส่งเสียงดังที่ราชประสงค์
เหนืออื่นใด วันนี้พันธมิตรยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนคดียึดสนามบิน
อันเป็นคดีข้ามปี และเป็นที่โจษขานความเป็น 2 มาตรฐานอย่างอื้ออึงและยาวนาน!
โดยขอเลื่อนจากที่ตำรวจนัดไว้ปลายก.ค.ไปเป็นปลายเดือนส.ค.
ทั้งตั้งแง่จะเข้ามอบตัวพร้อมกันทั้ง 60-70 คน ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบการทำงานของตำรวจอย่างรุนแรง
น่าแปลกที่การเข้ายึดสนามบินเป็นเหตุการณ์เขย่าไปทั่วโลก เกิดขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อปี 2551
*แต่คดีล่าช้าอย่างยิ่ง!?!*
ล่าช้าส่วนหนึ่ง พนักงานสอบสวนทำด้วยความละเอียดรอบคอบ ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานให้หนาแน่นที่สุด
อีกส่วนเพราะ การเสนอหมายจับโดนถ่วงหลายรอบ จนสุดท้ายต้องใช้วิธีออกหมายเรียก
แต่ขนาดเป็นหมายเรียก ซึ่งเพียงมารับข้อหา สอบสวน แล้วกลับได้เลยไม่ต้องประกันตัว
พันธมิตรก็ยังเกี่ยง สร้างกระแสว่าเป็นคดีการเมือง ถึงขั้นทวงบุญคุณนายกฯ
ทั้งที่เรื่องราวไม่ได้มีอะไรลึกล้ำไปกว่า การทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนตามปกติ ตามเหตุที่มีการยึดสนามบินจริง
เป็นเรื่องใหญ่ ทั่วโลกเฝ้ารอผลคดีอยู่!
ส่วนที่จัดคิวให้เข้าพบวันละ 3 คน ก็จะใช้วิธียกทีมมาทั้งหมด ซึ่งตำรวจตีความได้ 2 ประเด็น
1.ถ้ามากันเยอะ จะดำเนินการตามขั้นตอนไม่ทัน แล้วจะดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนกลับ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
2.มากันเยอะ และอาจจะมีมวลชนมากดดันด้วย อันเป็นวิธีถนัด
*ในประการแรก หากกระทบการสอบสวน อาจต้องงัดหมายขังขึ้นมาใช้ โดยส่งทั้งหมดไปขอฝากขังต่อศาล แล้วต้องไปยื่นประกันต่อศาลเอาเอง*
ในประการที่สอง ต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมาดำเนินการ
ปัญหาอยู่ที่ว่า รัฐบาลจะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่าง 2 มาตรฐานอีกหรือเปล่า!?