โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 เมษายน 2554
สังคมชาวไซเบอร์มีเรื่องให้แชร์กระจายกันอีกรอบกับสงกรานต์ปี 2554 จากกรณีต่อมมาตรฐานจริยธรรมของพวกผู้ดีหน้าไหว้หลังหลอกถูกกระตุ้นด้วยสาวสีลม ที่สนุกสนานกับสงกรานต์ด้วยการทำบุญโชว์นมให้เป็นขวัญตากับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวเทศ
Pruay Salty Head ได้ทำภาพคู่ขนานเปรียบเทียบอาชญากรรม "โชว์นม" กับ "ยิงปืนฆ่าคน" เพื่อตั้งคำถามกับสังคม อะไรมันเลวร้ายกว่ากันระหว่าง "การโชว์นม" กับ "การสั่งสไนเปอร์ยิงผู้ประท้วง" เมื่อพฤษภาฯ ที่ผ่านมา
เฟสบุคของ Tewarit Bus Maneechay
ฮามั้ยล่ะพ่อแม่พี่น้อง สังคมฮีตทรีเลียทางศีลธรรม แต่เฟอร์เบี่ยความจริง สังคมที่กระทรวงวัฒนธรรมนิยาม "วัฒนธรรมอันดีงงดีงาม = จารีตอนุรักษ์(ที่เอาเข้าจริงก็รับความคิดยุควิคตอเรียเขามาอีกที) เบื้องต้นอยากให้กระทรวงวัฒนธรรมไปศึกษาความหมายของ วัฒนธรรมใหม่เหอะ
และอยากจะบอกว่าการท่องเที่ยวถ้าไม่ได้อย่างที่ ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม(ตามข่าว...ดั้นล่าง) ที่กล่าวหาคนที่เปลือยอกที่สีลมว่า "..อาชีพเป็นผู้หญิงขายบริการ.." นั้น ถ้าไม่มีคนเหล่านนี้อยากรู้ว่าถ้าเราขายวัฒนธรรมอัตาลักษณ์ที่พึ่งสร้างอย่างเดียวจะมีใครมาท่องเที่ยวขนาดนี้มั้ย ในสถานบันเทิงเข้าไปถึงไหนแล้ว นางอัปศรนางฟ้าแบบที่หน้าเวปกระทรวงเอง ก็มีเขียนเพียบตามวัด
เกลียดตัวกินไข่จริงๆสังคมนี้
ภาพจากหน้าเวปกระทรวงวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 16.00 น. 17 เมษา 54 http://www.m-culture.go.th/
ทั้งนี้ตำรวจบ้าจี้ตามไปด้วย มติชน รายงาน
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าววันที่ 17 เมษายนถึงการดำเนินคดีกับสาวเต้นโชว์เปลือย เทศกาลสงกรานต์ บนถนนสีลมว่า ให้ตำรวจท้องที่ไปสืบสวนหาตัวหญิงสาวที่เต้นเปลือยอกที่สีลม ช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว เพื่อนำมาดำเนินคดีในข้อหากระทำการอนาจาร รวมทั้งให้เอาผิดกับผู้ที่ให้การสนับสนุน และกลุ่มกองเชียร์ด้วย
สำหรับโทษของเด็กสาวทั้งหมดไม่ได้หนักหนาอะไร ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนในคลิปวิดีโอก็ขอให้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกล่าวคำขอโทษกับประชาชนทั้งประเทศถึงสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งสังคมพร้อมให้อภัยกับเหตุการณ์ทั้งหมด
ใจ อึ้งภากรณ์ เขียนวิจารณ์ถึงกระแสต่อมจริยธรรมของสังคมไทยถูกกระตุ้นด้วยสาวโชว์นม ทันทีในโพสต์ "ประเด็นสำคัญจริงๆ จากสงกรานต์ปีนี้ และแง่ของกฏหมาย 112"
ในขณะที่พวกตอแหลอนุรักษ์นิยมตื่นตูมกับการสนุกสนานถอดผ้าเต้นที่สีลม ประเด็นหลักเรื่องสงกรานต์ปีนี้และปีก่อนๆ คือยอดคนตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ปีนี้คงจะถึง 190 คน และเรายังไม่ได้พิจารณาคนบาดเจ็บอีกด้วย สาเหตุหลักคือสังคมไทยไม่ใช้ทรัพยากรที่มีมากมายในการพัฒนาระบบคมนาคม และการขนส่งมวลชนที่ปลอดภัย ขาดการลงทุนอย่างเป็นระบบในรถไฟ และถนนหนทาง ขาดการบริการรถทัวร์ที่มีมาตรฐาน และจำนวนวันหยุดก็น้อยเกินไป ซึ่งทำให้คนเร่งรีบในการเดินทางมากเกินไป ในประเทศที่พัฒนาจะไม่มียอดคนตายถึงระดับนี้ในวันเทศกาล
สำหรับคนที่สงสัยว่าไทยจะเอาเงินมาจากไหนในการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่ มีคำตอบง่ายๆ คือ ต้องตัดงบประมาณทหารแบบถอนรากถอนโคน ซึ่งจะช่วยลดบทบาททหารเลวในสังคม และช่วยไม่ให้ทหารนำอุปกรณ์ต่างๆ มาเข่นฆ่าประชาชนอีกด้วย นอกจากนี้ต้องเก็บภาษีจากคนรวยและอภิสิทธิ์ชนชั้นสูงทุกคนโดยไม่มีการยกเว้นใคร ถ้าเขาต้องขายเพชรต้องขายที่ดินก็ต้องขายไป และในที่สุดการลงทุนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนจะช่วยลดก๊าซที่ทำให้โลกร้อน และจะสร้างงานให้ประชาชนอีกด้วย
สำหรับคนที่ตอแหลวิจารณ์คนหนุ่มสาวที่สนุกกับสงกรานต์ด้วยการแก้ผ้า ในประการแรกอย่ามาอ้าง “ศีลธรรมอันดีงามของไทยเลย” ศีลธรรมกระแสหลักของประเทศไทยคือการเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าที่เรียกร้อง ประชาธิปไตย คือการบังคับให้พลเมืองคลานบนพื้นเหมือนสัตว์ คือการดูถูกคนจน คือการใช้สองมาตรฐาน และกฏหมาย 112 มีส่วนสำคัญในการสร้างสองมาตรฐานตรงนี้ด้วย
เวลาคุณสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง ออกมาวิจารณ์สาวๆ ที่โชว์หน้าอก และวิจารณ์ตำรวจที่สีลม เราต้องตั้งคำถามว่า ถ้าสาวๆ เหล่านั้นสมัครใจทำ และสนุกกับการทำ และมันไม่นำไปสู่ความรุนแรงหรืออะไรแบบนั้น มันผิดตรงไหน? ร่างมนุษย์น่าเกลียดจริงหรือ? หรือร่างมนุษย์เป็นสิ่งงดงาม? ถ้าจะมาอ้างประเพณีเก่าจริงๆ แล้ว เราจะเห็นว่าในสังคมไทยเมื่อสองร้อยปีก่อน ทั้งชายและหญิงเปลือยหน้าอกเป็นธรรมดา ที่มารณรงค์ให้ปิดมิดชิดในตอนหลังนั้นมาจากการลอกแบบความคิด “วิคตอเรียน” จากอังกฤษและที่อื่น
แต่ที่สำคัญกว่านั้นมากคือ ทำไมคุณสุเพ็ญศรี ไม่ออกมาประณามทหารที่ยิงผู้หญิงและผู้ชายในช่วงเมษายนและพฤษภาคมปีที่แล้ว ทำไมไม่ “พิทักษ์สิทธิสตรีเสื้อแดง”? และอะไรสำคัญกว่า การเต้นเปลือย หรือการฆ่าประชาชน? เราอาจถามพ่วงต่อไปด้วยอีกว่าอะไรสำคัญกว่า การเผาตึกหรือการฆ่าประชาชน?
กฏหมาย 112 สร้างสองมาตรฐานในเรื่องเพศอย่างเห็นได้ชัด เพราะเวลาคุณสุเพ็ญศรี หรือนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (จากรัฐบาลที่ฆ่าสตรี) ออกมาวิจารณ์การเต้นแก้ผ้าที่สีลม และเตือนตำรวจให้ทำหน้าที่ ทำไมสองคนนี้ไม่วิจารณ์การที่ “ผู้มีอิทธิพล” บังคับให้นางสนมของตนเองแก้ผ้าหมดทั้งตัว เพื่อถ่ายรูปแล้วนำมาขึ้นอินเตอร์เน็ท? เพราะผู้หญิงเหล่านั้นเป็นเหยื่อจริงๆ และการแก้ผ้าถ่ายรูปที่ใครๆ เคยเห็นนั้นมีรายละเอียดพอๆ กับรูปถ่ายสำหรับตำรานรีเวชวิทยา นั้นคือการไม่เคารพสตรีที่แท้จริงในสังคมไทย แล้วทำไมไม่พูด?
ประเทศไทยเป็นประเทศตอแหล เรื่องเล็กน้อยๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญถูกมองข้าม และในสังคมเราไม่มีมาตรฐานเลย บางคนทำทุกอย่างได้ ทำรัฐประหารก็ได้ ฆ่าประชาชนก็ได้ ปิดสนามบินก็ได้ แต่ประชาชนธรรมดาแค่อ้าปากแสดงความเห็นก็มีสิทธิ์ติดคุกด้วยกฏหมายเผด็จการ
* * * * * * * * *
สมกับมาตรฐานจริยธรรมของประเทศตอแหลแลนด์ ที่อาจารย์ใจ และปรวย Salty Head ว่าจริงๆ ความเป็นความตายของผู้คน 93 ศพ หรือ 188 ศพจากสงกรานต์ ไม่มีความหมายเท่ากับต่อมจริยธรรม "หน้าไหว้หลังหลอก" ของกระทรวงวัฒนธรรม ที่แม้แต่กระทรวงเองก็ยังใช้ภาพวาดอกเปลือยเป็นภาพประกอบ
การเปลือยอกในประเทศไทย ทำได้เฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้น ชาวบ้านอย่ามาสะเออเทียบชั้น ถ้าใครบังอาจมาแข่งเปลือยอกกับบรรดาผู้หญิงของชนชั้นสูงเข้าละก็ จะต้องถูกตามล่าตัวมากราบขอขมาคนทั้งประเทศ
บอกแล้วจะหาว่าไม่เตือน . .