บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

ที่มา thaifreenews

โดย ลูกชาวนาไทย



ผมเห็นกระทู้ที่คุณ prainn ถ่ายภาพม็อบหลากสี ในการชุมนุมต่อต้านการเข้าแจ้งความของคุณจตุพรที่สถานีตำรวจสำราญราษฎร์แล้ว ผมรู้สึกอเน็จอนาถใจกับประสิทธิภาพของฝ่ายความมั่นคงจัง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ขนาด ผบ.ทบ. ฯพณฯ ท่าน พล.อ.ประยุทธ จันโอชา เป็นตัวนำ แสดงเองแล้ว และการแจ้งความของคุณจตุพรก็เป็นการ "เล่นงาน ผบ.ทบ." โดยตรง แต่ฝ่ายกองทัพสามารถระดมคนมาปกป้องสถาบัน (อย่างที่พวกเขาโฆษณาประกาศไว้" ได้แค่นี้เอง ตอนท้ายคุณ prainn บอกว่ามีม็อบหัวเกรียนมาอีกประมาณ 200 คน เดาได้ว่าคงเป็นพวกทหารเกณฑ์นอกเครื่องแบบ

ทหารเกณฑ์นอกเครื่องแบบไม่มีอาวุธ เอามาชนม็อบต่อให้ยกมาเป็นกองพล ก็ไม่เหลือครับ ทหารความน่ากลัวอยู่ที่การติดอาวุธ หากปลดอาวุธมือเปล่า ก็ไม่มีความหมายอะไร กองพันหนึ่งมีแค่ไม่ถึง 500 คน มาชนกับม็อบเสื้อแดงหลักแสน (เทียบเท่ากองทัพเต็มจำนวนเลยทีเดียว) มันจะมีความหมายอะไร

สมัยก่อนการเกณฑ์ลูกเสือชาวบ้านมาชนกับม็อบนักศึกษา นั้นเขาสามารถเกณฑ์มาได้หลายหมื่นคนภายในเวลาไม่นานนัก แต่ทุกวันนี้ฝ่ายความมั่นคงไทย "ขาดศักยภาพ" ในระดับนั้นไปแล้ว จากเหตุการณ์นี้ บอกได้เลยว่า พวกเขาสูญเสียศักยภาพในงานด้านมวลชนไปแล้ว ม็อบเสื้อเหลืองที่เคยเกณฑ์กันได้ถึงหลัก 3-4 หมื่นคน ในช่วงที่ Peak ที่สุด ในวันนี้ทำไม่ได้แล้ว ระดมม็อบ "เสื้อหลากสี" ได้แค่ 200 คน นี่ น่าอเน็จอนาถแท้

คำว่า ม็อบหลากสีของหมอตุลย์ จึงเป็นแค่ราคาคุย สร้างภาพที่ใหญ่เกินจริง กำลังจริงๆ รวมได้ไม่เกิน 200-300 คน ม็อบแบบนี้ในยุคนี้ไม่มีความหมายอะไรแล้ว แค่เสื้อแดงไปเดินเล่น ไม่ได้นัดหมายอะไรแบบที่หน้า สถานีสำราญราษฎร์ก็เต็มถนนหลักหลายพันคนแล้ว นี่มาโดยไม่ได้นัดหมาย และอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่คนส่วนใหญ่กลับบ้านหมดนะครับ ยังมาได้ขนาดนี้ ศักยภาพยิ่งใหญ่สุดประมาณ

ฝ่ายอำมาตย์ วันนี้ ฐานกำลังที่แท้จริงมีแต่ คนในกองทัพ พูดให้ตรงๆ ลงไปคือ พวก "บูรพาพยัคฆ์" ไม่กี่คนเท่านั้นเอง น่าจะไม่ถึง 100 คน แค่พวกนี้มีอำนาจใช้กำลังทหารของ "ประเทศชาติ" เท่านั้นเอง แต่เนื่องจากกองทัพก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ การทำอะไรจึงไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงนัก

ยันเสื้อแดงคงได้เวลาหนึ่ง เพราะอาศัยโครงสร้างอำนาจในองค์กรรัฐที่เป็นของสังคมเท่านั้น แต่การยันในระยะยาว คงทานไม่ไหว

การสูญเสีย "ฐานอำนาจของรอยัลลิสต์" ในชนบท เท่ากับเป็นการสูญเสีย "เสาหลัก" ที่สำคัญทางการเมืองไป แทบจะเรียกได้ว่าสูญเสียงานด้านมวลชนไปแทบหมดเลยทีเดียว การอาศัยฐานทหารแค่ "บูรพาพยัคฆ์" นั้น ไม่ใช่หลักพิงที่มั่นคงอะไร เพราะบูรพาพยัคฆ์ ได้ตำแหน่งแต่ฝ่ายเดียว โดยระบบอุปถัมป์ ขาดรากฐานทางระบบคุณธรรมที่คนอื่นๆ ที่มีศักยภาพในกองทัพไม่สามารถเติบโตได้ สภาพเช่นนี้มีแต่บั่นทอนกองทัพให้เกิด กบถในกองทัพ (Mutiny) ไม่วันใดก็วันหนึ่งอย่างแน่นอน หากขาด Super Power ที่คนในกองทัพเกรงบารมีไปแล้ว

ฝ่ายอำมาตย์นั่น ยังมีพลัง แต่ไม่ได้แข็งแกร่งดุจภูผาหิน อย่างแต่ก่อน มีจุดอ่อนที่สามารถพิชิตได้ แต่ก็ไม่ได้รวดเร็วอย่างใจเราต้องการนัก

จุดสำคัญในสงครามครั้งนี้คือ "สงครามบยืดเยื้อ" คือยุทธศาสตร์ที่จะต้องใช้ในการให้ได้ชัยชนะในที่สุด

ยุทธศาสตร์สำคัญคือ "การทอนกำลังของข้าศึก" (ทอนกำลังคือ ทำให้อ่อนลง เช่น บั่นทอนความนิยม ความน่าเชื่อถือแบบที่ทำกันอยู่ปัจจุบัน)

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker