คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯพ.ร.ฎ.ยุบสภา
วันเลือกตั้งก็กำหนดแล้ว 3 ก.ค.นี้
อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่ากฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับไม่มีขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
ฉะนั้น อีก 3 เดือนข้างหน้า คนไทยก็คงได้รัฐบาลใหม่กันแล้ว
และยิ่งสบายใจได้มากขึ้นเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ออกมาการันตีว่าจะมีการเลือกตั้งแน่นอน
ถึงขนาดบอกด้วยว่ายอมรับได้หากพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล
จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เห็นประชาธิปไตยที่เต็มใบเสียที
จะว่าไปแล้วบรรยากาศการเลือกตั้งคึกคักมาก่อนหน้านี้พอสมควร
ช่วงเดือนที่ผ่านมาก็มีการสำรวจความคิดเห็นจากหลายๆ สำนักถึงผลการเลือกตั้งในอนาคต
ยกตัวอย่างสัก 2-3 โพล
ศูนย์ วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น สำรวจความคิดเห็นของชาวอีสานทั้งหมด 20 จังหวัด เห็นว่าพรรคเพื่อไทยจะกวาดเก้าอี้ ส.ส.เขตในภาคอีสานได้มากสุด
เอแบ คโพลสำรวจจุดแข็งของพรรคการเมืองใหญ่ "ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย" ในแต่ละด้าน ทั้งวิสัยทัศน์ บริหาร อุดมการณ์ เศรษฐกิจ สังคม ต่างประเทศ เพื่อไทยชนะประชาธิปัตย์ในทุกด้าน
และยังระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะได้จำนวนที่นั่งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์
ยังมีโพลของหน่วยความมั่นคง ซึ่งเป็นปกติที่ต้องสำรวจก่อนจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ก็ระบุว่าเพื่อไทยได้ ส.ส.มากที่สุดเช่นกัน
ทุกวันนี้การทำโพลเลือกตั้งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว
และข้อเท็จจริงก็คือผลโพลของสำนักที่ได้มาตรฐานแทบไม่คลาดเคลื่อนเลย
ย้อนกลับไปดูผลเลือกตั้งที่ผ่านๆ มาได้
จะมีก็โพลของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เท่านั้นที่สวนกระแสโพลทุกสำนัก
นายสุเทพย้ำแล้วย้ำอีกว่าประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งแหงๆ
แต่ก็แปลกใจว่าถ้านายสุเทพมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์ว่าประชาธิปัตย์ได้ส.ส.มากที่สุด
แล้วทำไมต้องชูประเด็นพรรคไหนรวบรวมจำนวน ส.ส.ได้มากที่สุด ก็มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล
ตรงนี้ขัดแย้งกันเองสุดๆ
พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง ได้ส.ส.มากที่สุดก็จัดตั้งรัฐบาลไปเลย
ทำไมต้องแทงกั๊กแบบนี้
หรือว่าประเมินแล้วว่าจะไม่ชนะเหมือนครั้งที่แล้ว
ก็เลยออกตัวไว้ก่อน
เผื่อว่าต้องไปตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหารอีกรอบหรือเปล่า !?