คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
หลักๆ คือพรรคเพื่อไทยจะชนะประชาธิปัตย์ ด้วยตัวเลข 210 ต่อ 160 ที่นั่ง ส่วนพรรคภูมิใจไทยอันดับ 3 ได้ 111 ที่นั่ง
รวมกัน 3 พรรค 481 ที่นั่ง
นั่นเท่ากับเหลือให้พรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก อื่นๆ รวมกันแค่ 19 ที่นั่ง
นายเนวิน วิเคราะห์ด้วยว่าถึงพรรคเพื่อไทยจะชนะ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ของพรรคจะไม่ได้เป็นนายกฯ
เนื่อง จากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รู้ว่าถ้าให้ 'โคลนนิ่ง' เป็นนายกฯ อาจถูกต่อต้านจากสังคมส่วนหนึ่งเหมือนสมัย 'รัฐบาลสมชาย' ปัญหาก็จะไม่จบ
เลยต้องชูคนอื่นขึ้นมาแทน
ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ก็เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะแสดง 'สปิริตออกซ์ฟอร์ด' ลาออกจากหัวหน้าพรรคเหมือนอย่าง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เคยปฏิบัติ
นายเนวิน วิเคราะห์ไว้คร่าวๆตามนี้ ใครจะเชื่อหรือไม่เป็นอีกเรื่อง
บางคนฟังแล้วบอกว่า นายเนวิน อาจได้รับสัญญาณบางอย่างมาจากใครบางคน ให้มาถ่ายทอดอีกต่อหนึ่ง
คือไม่เอาทั้งยิ่งลักษณ์ ไม่เอาทั้งอภิสิทธิ์ แต่จะเอาคนกลาง
ขณะที่บางคนกลับมองว่า นายเนวิน อาจไม่ได้รู้ลึกรู้จริงอย่างที่พูด แต่ต้องการหวังผลบางอย่างในการเลือกตั้งเท่านั้น
โดย เฉพาะตัวเลขพรรคภูมิใจไทย 111 ที่นั่ง ฟังแล้วก็ยังสงสัย ว่าน่าจะเป็นการปั่นกระแสให้พรรคของตนเองดูดีมีราคา มากกว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
อย่างที่รู้กันอยู่ว่าในพื้นที่เลือก ตั้งภาคอีสาน พรรคเพื่อไทยคือคู่แข่งตัวฉกาจของพรรคภูมิใจไทย ถ้าดูจากโพลต่างๆ ก็จะพบว่ากระแสยิ่งลักษณ์ กำลังดีวันดีคืน
ถึงขนาด ที่มีข่าวแม้แต่ในพื้นที่ 9 เขตของจังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทยเหลือพื้นที่ชัวร์ๆ แค่ 2 เขต ส่วนอีก 7 เขตยังต้องลุ้นเหนื่อย
ถ้าเปรียบกับเกมฟุตบอลที่นายเนวินเชี่ยวชาญ การออกมาให้ข่าวระบุพรรคเพื่อไทยชนะแต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล หรือการฟันธงว่ายิ่งลักษณ์ ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ
ก็ไม่ต่างจากการใช้แผนไล่เตะสกัด 'ศูนย์หน้าตัวเป้า' ของทีมฝ่ายตรงข้าม
ไม่ให้โชว์ฝีเท้าลากเลื้อยมายิงประตูตัวเอง
จนแพ้คารังเท่านั้นเอง