บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อย่ามองข้ามคนเชียร์แขก โดย กาหลิบ

ที่มา thaifreenews

โดย bozo

เรียบเรียงโดย Tiger



คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง อย่ามองข้ามคนเชียร ์แขก

โดย กาหลิบ



จะประณามว่า ASTV ซึ่งเป็นขี้ข้าของระบอบเก่า
ที่กำลังล่มสลายเป็นกระบอกเสียงที่ไม่มีคุณค่าเสียทีเดียว ก็คงว่าไม่ได้
เพราะล่าสุดช่วยทำประโยชน์ให้กับกระบวนการจัดตั้งของฝ่ายประชาธิปไตยโดยไม่ได้ตั้งใจ
จากปากตั้งต้นของคุณสนธิ ลิ้มทองกูล และปากติดตามของคุณประพันธ์ คูณมี
ซึ่งนัดกันมาเป็นดาบหนึ่งดาบสองหรืออย่างไรก็ไม่รู้ได้

เรื่องที่จะเล่าเสริมต่อไปนี้ซับซ้อนเล็กน้อย จึงจะทำให้เกิดความสับสนน้อยที่สุด
เพื่อให้เราต่างก็เข้าใจในการเล่นเกม (game plan) ของฝ่ายเขาและแลเห็นภาพเดียวกัน

กรณีที่ว่านี้คือเรื่องของน้ำมันในอ่าวไทย
ซึ่งควรเป็นสมบัติร่วมกันของชาติที่มีน่านน้ำคาบเกี่ยวกันคือไทยและกัมพูชา

เกมนี้เป็นสิ่งที่เหนือกว่าสติปัญญาของคนใน ASTV มาก เว้นแต่คนอย่างคุณสนธิฯ
ซึ่งเชื่อว่ามีความเข้าใจลึกซึ้งกว่าใครๆ
แต่เมื่อเข้าใจแล้วจะใช้สัมมาทิฎฐิหรือมิจฉาทิฎฐิเข้ามาจับ ก็เป็นเรื่องบุญกรรมของคุณสนธิฯ

คุณประพันธ์ คูณมีนั้นทุกคนรู้ดีว่าเป็นร่างทรงของคนอีกคนหนึ่ง
ซึ่งถึงจะร่วงโรยไปตามวัยแล้วแต่ยังรักษามิจฉาทิฎฐิของตัวเองได้อย่างเข้มข้น
เหมือนกับนายใหญ่ที่สุดของเขา คนที่ว่านี้คือ
นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ผู้หวังโหนกระแสเกลียดทักษิณมาเป็นนายกรัฐมนตรี
หรืออย่างต่ำขอมีอิทธิพลชี้นำในทางนโยบายของชาติ


ทั้งสองคนเพิ่งพูดถึงเรื่องของน้ำมันในอ่าวไทยและพูดอย่างชัดเจนว่า
นั่นล่ะคือหัวใจของเรื่อง


ไม่ใช่ปราสาทพระวิหาร

ไม่ใช่วัดแก้วสิกขาสวาระ


ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ๔.๖ ตารางกิโลเมตร


พูดง่ายๆ ว่าไทยมีเรื่องกับเขมรรอบนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่งัดมาทะเลาะกันในข่าวเลย
แต่เป็นการชิงดีชิงเด่นกันในเรื่องของทรัพยากรน้ำมันในอ่าวไทยและบริเวณใกล้เคียง

แถมคนที่ทะเลาะกันในฉากหลังก็ไม่ใช่ไทยกับเขมรอีกด้วย

พื้นที่ในทะเลที่เชื่อกันว่ามีน้ำมันอยู่มากนั้น เขาแบ่งคร่าวๆ ออกเป็น ๙ พื้นที่
หรือจะเรียกว่า ๙ หลุมเหมือนสนามกอล์ฟก็ได้
ขณะนี้ความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาภายใต้สมเด็จฮุนเซ็น
ทำให้เขามีความนิ่งพอจะจัดแบ่งผลประโยชน์อันมหาศาลนี้ได้ลงตัวและรวดเร็ว
ในขณะที่คนไทยขัดแย้งกันจนแทบจะเกิดสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบอยู่แล้ว
จึงเหมือนถูกกันออกนอกวงไปโดยปริยาย


ปัญหาคือไทยมิได้ถูกกันออกนอกวงจนลำบากเดือดร้อนเพียงคนเดียว
แต่กระทบกระเทือนถึง “ลูกพี่” ของชนชั้นนำไทย
ที่คอยเอื้อประโยชน์ให้แก่กันและกันมานานนักหนานั่นด้วย


ก่อนที่ทรัพยากรจะถูกเฉือนและแบ่งกันจนหมดก้อน
เกมเลื่อยขาเก้าอี้เกมใหม่จึงต้องเกิด
และต้องกระทำอย่างรวดเร็วก่อนจะชวดฉลูขาลเถาะ


ไม่น่าแปลกใจที่เขาสั่งทันทีว่าไทยต้อง “หาเรื่อง” กับกัมพูชา


คนที่เปิดเกมนี้ก็คือ นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริและสนธิ ลิ้มทองกูล
เพราะความขัดแย้งทุกประเด็นระหว่างไทยและกัมพูชา
มาจากลมปากของกลุ่มที่เคยเรียกตัวเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งสิ้น

ขณะปิดเกมก็เขกหัวทุกคนที่เป็นขี้ข้ากลุ่มเดียวกัน
จากรัฐบาลประชาธิปัตย์ ถึงกองทัพบกของประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ารักชาติน้อยกว่าตนทั้งนั้น
ความหมายอันแท้จริงคือข้าพเจ้านี่แหละ
ที่จะช่วยกู้ผลประโยชน์ที่สูญเสียไปของลูกพี่ (ต่างชาติ) ได้ดีกว่าคนอื่น


สนธิและประสงค์เขารู้ลึกซึ้งว่า นายใหญ่ (ต่างชาติ) และนายใหญ่ (แห่งชาติ)
เขาร่วมประโยชน์กันแนบแน่นถึงสัดส่วนกันอย่างไร เขาจึงคำนวณแล้วว่า
เล่นเรื่องนี้และช่วยยกระดับไปเรื่อยๆ คือ
วิธีที่พวกเขาจะได้คะแนนสูงสุดจากนายใหญ่ทั้งสองระดับ


เป้าหมายของเรื่องนี้คือการล้มกระดานผลประโยชน์น้ำมันในอ่าวไทย
โดยสร้างเรื่องเพิ่มเติมให้เกี่ยวพันกับการเมืองไทย
โดยเฉพาะตัวอดีตนายกรัฐมนตรีคือคุณทักษิณฯ

ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยถอดชนวนช้าเกินไป จะเกิดวิกฤติใหม่ในไม่ช้า

สงครามทางทะเลที่มีชาติใหญ่หนุนหลังอยู่ทั้งสองฝ่ายอาจเกิดขึ้นได้.



http://democracy100percent.blogspot.com/2011/06/blog-post_10.html

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker