บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การเลือกตั้งที่ชัดเจนที่สุด

ที่มา มติชน



โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2554)

การ เลือกตั้ง 3 กรกฎาคมนี้ น่าจะเป็นมหกรรมการใช้สิทธิของประชาชนคนไทย ที่มีเป้าหมายทางการเมืองชัดเจนมากที่สุดครั้งหนึ่ง โดยมีกระแสการต่อสู้ระหว่างขั้ว ระหว่างอุดมการณ์ทางการเมือง เข้ามาเกี่ยวพันอย่างแนบแน่น

เพราะฉะนั้น การแสดงออกของประชาชนส่วนหนึ่ง ในช่วงระหว่างการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ จึงปรากฏชัดเจนว่าตั้งใจจะเลือกใครและตั้งใจจะปฏิเสธใคร

แม้ชาวเสื้อ แดงโดยรวมจะยอมรับข้อห้ามปรามของแกนนำ ไม่ให้มีการรวมกลุ่มไปขัดขวางต่อต้านการหาเสียงของนายกฯอภิสิทธิ์และพรรคประ ชาธิปัตย์ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นเงื่อนไขนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยสกัดนายกฯหญิง

แต่ในแง่อารมณ์ความรู้สึกส่วนบุคคลซึ่งต้องการแสดงออกทางการเมือง ยากที่ใครจะห้ามได้

ขบวนหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ในหลายพื้นที่ จึงหนีไม่พ้นโดนประชาชนคนสองคน ชูป้ายต่อต้านบ้าง ตะโกนด่าทอบ้าง

เนื้อหาหลักคือกรณี 91 ศพ

ไปจนถึงปัญหาข้าวยากหมากแพง การเข้ามาเป็นรัฐบาลท่ามกลางข้อกังขา ระบบ 2 มาตรฐาน

แม้ฝ่ายประชาธิปัตย์พยายามจะอธิบายปรากฏการณ์นี้ เพื่อเชื่อมโยงถึงพรรคเพื่อไทยและ นปช.

ผู้อาวุโสของประชาธิปัตย์บางคน ถึงกับอ้างว่าเป็นการจัดตั้งกันมา เป่าหูกรอกข้อมูลผิดๆ ให้มาแสดงออก

อาจจะหวังปลอบใจกันเอง ว่าประชาชนทั่วไปไม่ได้คิดต่อต้านนายกฯรูปงามอย่างนั้นหรอก

เสียงพรรคเรายังดีอยู่

ประชาชนยังเชื่อมั่นอภิสิทธิ์อยู่

อะไรทำนองนั้น

แต่ สิ่งที่เราจะเห็นได้จากการแสดงออกของประชาชน ในการเผชิญหน้ากับอภิสิทธิ์ขณะหาเสียงก็คือ การชูป้ายที่เขียนแบบตามมีตามเกิด กระทั่งเดินดุ่มๆ เข้าไปแล้วตะโกน

ไม่ได้ขว้างปาข้าวของ

ยิ่งไข่ซึ่งเป็นของแพงก็ไม่มีการปา

ขณะที่เหตุผลของอภิสิทธิ์และรัฐบาล ที่อ้างว่ามีผู้ก่อการร้าย มีนักรบชุดดำ จนนำสู่เหตุการณ์บานปลาย 91 ศพนั้น

ไม่ สามารถอธิบายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเขายอมรับได้หรอก ว่าทำไมจึงมีเจ้าหน้าที่รัฐลั่นกระสุนใส่ผู้ชุมนุม จนล้มตายและบาดเจ็บจำนวนมาก

คำว่านักรบชุดดำจึงตีค่าได้เพียงแค่เป็นคำเอ่ยอ้าง ที่ผู้นำรัฐบาลซึ่งมีกลไกในมือมากมาย จะต้องหาพยานหลักฐานมายืนยัน มิใช่พูดลอยๆ

ฉะนั้นอีก 3 สัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียง ขบวนของนายกฯอภิสิทธิ์คงหนีไม่พ้นการแสดงออกของประชาชนเช่นนี้อีก

อันเป็นการแสดงออกตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตยแท้ๆ อีกด้วย

ความ จริง อารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ มีคนพร้อมจะแสดงออกตั้งนานแล้ว ตั้งแต่หลัง 19 พฤษภาคม 2553 ด้วยซ้ำ เพียงแต่ได้รับการปกปิดด้วยขบวนอารักขานายกฯที่ใช้เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจนับ ร้อยในทุกๆ วัน

คุ้มกันตั้งแต่ออกจากบ้าน มายังทำเนียบรัฐบาล และในทุกสถานที่ที่เดินทางไป

แล้วจัดอารักขาขนาดนั้นทำไม ก็เพราะรู้ดีว่าจะเกิดอะไรตามมา หลังกระชับพื้นที่สำเร็จเสร็จสม

จนเมื่อนายกฯอภิสิทธิ์ต้องสลัดคณะผู้อารักขา มาลงตามท้องถนนเพื่อหาเสียงเลือกตั้งนี่แหละ

จึงได้พบความจริงจากสังคมไทย

และแน่นอน 3 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนมีเป้าหมายการเมืองชัดเจนที่สุด

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker