ที่มา ประชาไท
Sat, 2012-08-25 18:45
Sat, 2012-08-25 18:45
ในช่วงต้นเดือนกันยายน
ภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนเรื่องสันติภาพในภาคใต้จะมีการเปิดตัว
“กระบวนการสันติภาพปาตานี” (Pat[t]ani Peace Process - PPP)
โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ได้พูดคุยกับผศ.ดร. ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี
นักรัฐศาสตร์ผู้คร่ำหวอดกับการศึกษาเรื่องความขัดแย้งในภาคใต้ซึ่งเป็นหนึ่ง
ในผู้ขับเคลื่อนแนวคิดดังกล่าว
“กระบวนการสันติภาพปาตานีคืออะไร”
รศ.ดร. ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี
ความรุนแรงได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 9
ปีแล้วแต่ว่ายังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ว่าความขัดแย้งที่มีการใช้
ความรุนแรงนี้จะจบลงอย่างไร และเมื่อไร รศ.ดร. ศรีสมภพ
จิตร์ภิรมย์ศรี นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานีอธิบายว่านักวิชาการบางสายที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความขัด
แย้งไม่ได้มุ่งที่จะหยุดความขัดแย้ง แต่มุ่งที่จะเปลี่ยนความขัดแย้ง
(conflict transformation)
จากความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรงไปสู่การไม่ใช้ความรุนแรง
“การมีความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีด้วย
เพราะความขัดแย้งสามารถเป็นพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาของสังคม
แต่ว่าประเด็นคือจะต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนั้น”
ดร.ศรีสมภพอธิบาย
“กระบวนการสันติภาพปาตานี” เป็นโมเดลทางความคิดที่ต้องการเปิด
“พื้นที่กลาง” ในการพูดคุยระหว่าง “คนใน”
ซึ่งหมายถึงคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง (stakeholders)
เพื่อที่จะนำไปสู่การวิเคราะห์ความขัดแย้งและการเสนอแผนที่เดินทางไปสู่
สันติภาพอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะมีการขับเคลื่อนในลักษณะที่เป็น
“พหุวิถีการสื่อสาร” (Multi platform) โดยดึงเอาหลายๆ
ภาคส่วนเข้ามาร่วมทั้งองค์กรภาคประชาสังคม สื่อสารมวลชน สถาบันการศึกษา
และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และจะใช้การสื่อสารในหลายๆ ช่องทาง
ทั้งสื่อกระแสหลัก สื่อทางเลือกและโซเชียลมีเดียในการขับเคลื่อน
ดร.ศรีสมภพยังชี้ว่าการเอาคู่ขัดแย้งมาคุยกันเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอสำหรับการแสวงหาทางออก
“กระบวนการสันติภาพในปาตานีเป็นกระบวนการที่ต้องเดินไปพร้อมกันหลายภาค
ส่วน
ไม่เพียงแต่ปล่อยให้คู่กรณีหลักอย่างฝ่ายรัฐและฝ่ายตรงข้ามรัฐมากำหนดแนวทาง
ยุติความขัดแย้งฝ่ายเดียว แต่ยังต้องให้ภาคประชาสังคม นักวิชาการ
ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาที่อยู่ในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วม
และที่สำคัญประชาชนต้องมีพื้นที่ในการเสนอทางออกสู่สันติภาพด้วย”
ดร.ศรีสมภพกล่าว
ดร.ศรีสมภพอธิบายว่านักวิชาการด้านสันติภาพที่ได้ศึกษาถึงความสำเร็จ
และความล้มเหลวของการจัดการความขัดแย้งในพื้นที่ต่างๆ
ในโลกได้แบ่งกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยเพื่อสันติภาพเป็น 3 ระดับชั้น
Track 1 คือ รัฐ กับ ขบวนการกบฏติดอาวุธ Track 2 ภาคประชาสังคม และ Track 3
คือ ประชาชนรากหญ้า
“ในภาคใต้นั้น ที่ผ่านมาการพูดคุยจำกัดอยู่เฉพาะแค่ Track 1
กระบวนการเดินหน้าเพื่อหาสันติภาพของปัตตานีต้องไม่ผูกขาดโดยรัฐหรือขบวนการ
อย่างเดียว ข้อเสนอต้องมาจากข้างล่าง
การเดินไปในรูปแบบที่หลากหลายและไปพร้อมๆ กัน
จะทำให้เกิดความเข้มแข็งและสร้างอำนาจต่อรองได้จริง” ดร.ศรีสมภพกล่าว
สิ่งที่รัฐและภาคประชาสังคมจะต้องร่วมกันผลักดันคือ
การเปิดพื้นที่ทางการเมืองเพื่อให้ทุกๆ ฝ่ายมาร่วมกันถกเถียง
เปิดให้มีการพูดคุยถึงเรื่องรากเหง้าของปัญหา เช่น เรื่องความไม่เป็นธรรม
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องชาติพันธุ์
และจะต้องดึงฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงเข้ามาเพื่อทำให้พวกเขาเข้าใจว่าเขา
สามารถที่จะนำเสนอความคิดทางการเมืองได้อย่างสันติ
ดร.ศรีสมภพได้อธิบายเพิ่มเติมว่าสิ่งที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะ
ช่วยลดการใช้ความรุนแรงได้คือการสร้างอำนาจเพื่อถ่วงดุลจากพื้นที่กลางให้
มากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อเสนอที่มีน้ำหนักจากฝ่ายที่ประกาศไม่ใช่ความรุนแรงจะมีพลังในการเรียก
ร้องมากกว่า
ซึงไม่จำเป็นว่าจะต้องลดทอนข้อเสนอทางการเมืองของฝ่ายขบวนการแต่อย่างใด
นอกจากนี้
ดร.ศรีสมภพยังชี้ว่ากระบวนการสันติภาพปาตานีนั้นจะต้องรวมถึงการปฏิรูปฝ่าย
ความมั่นคง (security sector reform) ด้วย
การทำงานด้านความคิดกับกองทัพจะเป็นหัวใจสำคัญต่อความสำเร็จของกระบวนการ
นี้ ถ้ากองทัพจะยังมุ่งใช้กำลังในการปราบปรามกองกำลังติดอาวุธฝ่ายตรงข้าม
การแสวงหาทางออกร่วมกันก็คงจะดำเนินไปได้ยาก
เปิดตัว Pat[t]ani Peace Process – PPP
เพื่อวางหมุดหมายการเริ่มต้น “กระบวนการสันติภาพปาตานี” (PPP:
PA(T)TANI PEACE PROCESS IN ASEAN CONTEXT) ทาง Deep South Watch
ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้าในการเป็นเจ้าภาพจัดเวทีอภิปรายเรื่อง
"กระบวนการสันติภาพปาตานีในบริบทของอาเซียน" ในเวลา 14.00 – 17.00 น.
วันที่ 7 กันยายน 2555 ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
เวทีนี้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมวิชาการนานาชาติรัฐศาสตร์
รัฐประศาสนศาสตร์ และสันติศึกษาในบริบทอาเซียน (The International
Conference on Political Science, Public Administration and Peace
Studies in ASEAN Countries) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 – 7 กันยายน
2555
วิทยากรในเวทีมีดังนี้
- ผศ.ดร.ศรีสมภพ
จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South
Watch)
และผู้อำนวยการสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พูดเรื่อง
“แนวคิดเรื่องพหุวิถีและสหอาณาบริเวณสำหรับกระบวนการสันติภาพปาตานี”
- ดร.อะกิโกะ โฮริบะ ที่ปรึกษามูลนิธิสันติภาพซาซากาว่า ประเทศญี่ปุ่น พูดเรื่อง “การหนุนเสริมสันติภาพจากคนนอก”
- นายดาดัง ตรีซาซงโก ที่ปรึกษาสถาบันช่วยเหลือทางกฎหมาย Lembaga
Bantuan Hukum (LBH) ประเทศอินโดนีเซีย พูดเรื่อง
“บทบาทของประชาสังคมในกระบวนการสันติภาพ”
- ศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสารสันติภาพ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์สันติวิธี
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) พูดเรื่อง
“ทำความเข้าใจสันติเสวนาและการเจรจาเพื่อสันติภาพ”
- ศ.ดร.ดันแคน แมคคาร์โก ศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยลีดส์ ประเทศอังกฤษ พูดเรื่อง
“บทสนทนาว่าด้วยการปกครองตนเองในฐานะที่เป็นสาระหลักในความขัดแย้งชายแดน
ใต้”
- นายคอยริน อันวาร์ ผู้ประสานงานประจำภูมิภาคแห่งอาเซียน
Malaysian Relief Agency (MRA) พูดเรื่อง
“ประสบการณ์มาเลเซียในจังหวัดชายแดนใต้ของไทย”
- ตัวแทนจากประเทศฟิลิปปินส์ (อยู่ระหว่างการประสานงาน)
ดำเนินรายการโดยเมธัส อนุวัตรอุดม สำนักงานสันติวิธีและธรรมาภิบาล
สถาบันพระปกเกล้า และชญานิษฐ์ พูลยรัตน์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
|