ที่มา Thai E-News
รู้แล้ว...ล้มแล้ว!!
การกลับลำแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือในคดีของ ช่างภาพรอยเตอร์ส ฮิโรยูกิ มุราโมโตะ เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวแพร่ออกมาว่า ผู้บัญชาการทหารบกสายเหยี่ยว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ไปพบนายธาริต อธิบดีดีเอสไอ เพื่อต่อว่าต่อขานเกี่ยวกับข้อสรุปที่ระบุไว้ในรายงานเบื้องต้น กองทัพไทยยืนกรานกระต่ายขาเดียว อย่างพิลึกพิสดารและไม่น่าเชื่อถือ—เลยว่า กองทัพไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการตาย ของประชาชนคนใด
คดี การตายของผู้สื่อข่าวช่างภาพญี่ปุ่น นายฮิโรยูกิ มูรามูโต้ ซึ่งถูกสังหารในวันที่ 10 เมษายน 2553 ตอนแรก DSI สรุปว่า เขาถูกฆ่าโดยทหาร ซึ่งตรงกับการสอบสวนของรอยเตอร์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขา แต่แล้วในเวลาต่อมาDSIได้เปลี่ยนแปลงรายงานว่า เขาอาจถูกฆ่าโดยฝา่ยเสื้อแดง
"มีนโย บายให้กล่าวโทษคนเสื้อแดงในทุกกรณีเท่าที่จะเป็นไปได้ ยังมีความพยายามจะออกคำสั่งว่า หากไม่พบผู้กระทำผิดให้โยนข้อกล่าวหาำไปให้ฝา่ยเสื้อแดง อธิบดี DSI เป็นผู้ออกคำสั่งนั้น" "มี คำสั่งว่า หากไม่สามารถหาบุคคลที่เหนี่ยวไกปืนได้ เราจะต้องสันนิษฐานว่า ฝ่ายเสื้อแดงและผู้สนับสนุนเป็นคนทำ" -เจ้าหน้าที่DSIให้สัมภาษณ์BBC
แต่ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวแคนาดา มาร์ค แมคคินนอน (Mark MacKinnon) ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่า หลังสลายชุมนุม คนจำนวนมากหลบเข้าไปในวัด มีทหารตามมายิง และมีคนจุดบั้งไฟขึ้น จากนั้นทหารก็ยิงมาใส่อย่างถล่มทลายแบบไม่หยุดยั้ง โดยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าเหนือวัดปทุมฯ ทั้งที่ผู้ตายมีเครื่องหมายพยาบาล และอยู่ในวัดพุทธศาสนา เป็นเขตอภัยทาน ในกลางกรุงเทพฯ
"วัฒนธรรม การปกปิดความผิดและการโยนความรับผิดแบบไทย หากนายกฯยิ่งลักษณ์จะเอาผู้่กระทำผิดลงโทษได้ตามที่ให้เธอให้สัมภาษณ์เรา ก็จะกลายเป็นกรณีแรกของประวัติศาสตร์ประเทศนี้..ว่าแต่มันจะเป็นไปได้แค่ ไหน" ผู้สื่อข่าวBBCระบุ
รู้แล้ว...ล้มแล้ว!!
การ ใช้กำลังอย่างผิดกฎหมายของทหาร เกิดขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง ท่ามกลางสายตาของประชาชน รวมถึงสื่อมวลชนทั่วโลก จึงเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ไม่เว้นแต่ทหารในกองทัพ ตามหลักการที่ว่า ไม่ควรมีผู้ใดอยู่เหนืออำนาจของกฎหมาย
รัฐบาล ไทยควรออกคำสั่งให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ยุติการแทรกแซงกระบวนการสอบสวน และเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบก เลิกความพยายามที่จะปิดปากผู้แสดงความคิดเห็นต่อเหตุสลายการชุมนุม ด้วยการข่มขู่ที่จะฟ้องร้องผู้วิพากษ์วิจารณ์-แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทซ์ประจำภูมิภาคเอเชีย
ผมทำในกรอบ ไม่ได้ทะเลาะกับใคร ไม่เคยกดดันใคร แค่เพียงเรียกร้องว่าอยากให้เรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม หากหนักนิดเบาหน่อยก็สามารถตักเตือนกันได้ ผมไม่ เคยพูดคุยกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีDSI ไม่จำเป็นที่จะต้องคุยกัน และไม่โกรธการทำงานของดีเอสไอด้วย เนื่องจากต่างคนต่างทำหน้าที่
ผมออกมาพูดในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งหากไม่ทำอะไร ก็อาจถูกกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่มองว่าเอาตัวรอด ไม่ปกป้อง หรือไม่ทำอะไรเลย-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
การกลับลำแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือในคดีของ ช่างภาพรอยเตอร์ส ฮิโรยูกิ มุราโมโตะ เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวแพร่ออกมาว่า ผู้บัญชาการทหารบกสายเหยี่ยว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ไปพบนายธาริต อธิบดีดีเอสไอ เพื่อต่อว่าต่อขานเกี่ยวกับข้อสรุปที่ระบุไว้ในรายงานเบื้องต้น กองทัพไทยยืนกรานกระต่ายขาเดียว อย่างพิลึกพิสดารและไม่น่าเชื่อถือ—เลยว่า กองทัพไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการตาย ของประชาชนคนใด
ผล การสอบสวนของฝ่ายที่สามที่รอยเตอร์สมอบหมายให้ดำเนินการ ซึ่งมีผลสรุปออกมาว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่าฮิโรยูกิถูกยิงด้วยกระสุนที่ใช้ในกองทัพ..ถึงเวลาแล้วที่รอยเตอร์สควรเริ่มต้นดำเนินการเพื่อช่วยให้ความจริงเปิดเผยออกมา แทนที่จะสมคบกับการปิดบังความจริงไว้
ผล การสอบสวนของฝ่ายที่สามที่รอยเตอร์สมอบหมายให้ดำเนินการ ซึ่งมีผลสรุปออกมาว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่าฮิโรยูกิถูกยิงด้วยกระสุนที่ใช้ในกองทัพ..ถึงเวลาแล้วที่รอยเตอร์สควรเริ่มต้นดำเนินการเพื่อช่วยให้ความจริงเปิดเผยออกมา แทนที่จะสมคบกับการปิดบังความจริงไว้ -แอนดรูว์ แม็คเกรเกอร์ มาร์แชล อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ที่ลาออกเพื่อทำหน้าที่สืบค้นความจริงวิกฤตการณ์การเมืองไทย
คดี การตายของผู้สื่อข่าวช่างภาพญี่ปุ่น นายฮิโรยูกิ มูรามูโต้ ซึ่งถูกสังหารในวันที่ 10 เมษายน 2553 ตอนแรก DSI สรุปว่า เขาถูกฆ่าโดยทหาร ซึ่งตรงกับการสอบสวนของรอยเตอร์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขา แต่แล้วในเวลาต่อมาDSIได้เปลี่ยนแปลงรายงานว่า เขาอาจถูกฆ่าโดยฝา่ยเสื้อแดง
"มีนโย บายให้กล่าวโทษคนเสื้อแดงในทุกกรณีเท่าที่จะเป็นไปได้ ยังมีความพยายามจะออกคำสั่งว่า หากไม่พบผู้กระทำผิดให้โยนข้อกล่าวหาำไปให้ฝา่ยเสื้อแดง อธิบดี DSI เป็นผู้ออกคำสั่งนั้น" "มี คำสั่งว่า หากไม่สามารถหาบุคคลที่เหนี่ยวไกปืนได้ เราจะต้องสันนิษฐานว่า ฝ่ายเสื้อแดงและผู้สนับสนุนเป็นคนทำ" -เจ้าหน้าที่DSIให้สัมภาษณ์BBC
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.กล่าวปฏิเสธกับBBC เรื่องผู้นำทหารไปพบอธิบดี DSI และสั่งว่า"อย่าเข้ามายุ่ง ต้องให้ทหารไม่มีความผิด" และปฏิเสธกรณี 6ศพวัดปทุมฯ ว่าอาจถูกยิงมาจากข้างนอกแล้วแบกเข้ามาในวัด
แต่ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวแคนาดา มาร์ค แมคคินนอน (Mark MacKinnon) ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่า หลังสลายชุมนุม คนจำนวนมากหลบเข้าไปในวัด มีทหารตามมายิง และมีคนจุดบั้งไฟขึ้น จากนั้นทหารก็ยิงมาใส่อย่างถล่มทลายแบบไม่หยุดยั้ง โดยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าเหนือวัดปทุมฯ ทั้งที่ผู้ตายมีเครื่องหมายพยาบาล และอยู่ในวัดพุทธศาสนา เป็นเขตอภัยทาน ในกลางกรุงเทพฯ
"วัฒนธรรม การปกปิดความผิดและการโยนความรับผิดแบบไทย หากนายกฯยิ่งลักษณ์จะเอาผู้่กระทำผิดลงโทษได้ตามที่ให้เธอให้สัมภาษณ์เรา ก็จะกลายเป็นกรณีแรกของประวัติศาสตร์ประเทศนี้..ว่าแต่มันจะเป็นไปได้แค่ ไหน" ผู้สื่อข่าวBBCระบุ