Sat, 2012-08-25 22:29
เครือข่ายปฏิรูปฯ เขาบรรทัดเล็งขอกำลังทหารคุ้มกัน
ผวา‘อุทยานฯ’ปราบชาวบ้านเหมือนคอมมิวนิสต์ หารือม็อบทำเนียบ-ศาลากลางตรัง
กดดันคณะรัฐมนตรีมีมติชะลอการฟันยาง เครือข่ายฯ รักษ์เขาบรรทัดจี้‘ดำรง
พิเดช’ กรรมการแก้สมัชชาคนจนแก้ ระดมมวลชลใหญ่บีบ
บุญ แซ่จุ่ง (ซ้าย) อานนท์ สีเพ็ญ (ขวา)
นายบุญ แซ่จุ่ง ผู้ประสานงานเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด
สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25
สิงหาคม 2555 ที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด
ตำบลควนปริง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
คณะทำงานเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ได้ประชุมประเมินสถานการณ์
และ หารือคร่าวๆ เบื้องต้นมีความคิดหลายแนวทาง อาทิ
จะมีการเคลื่อนไหวกดดันคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
หรือศาลากลางจังหวัดตรังเพื่อให้มีมติคณะรัฐมนตรีหยุด
หรือชะลอการตัดฟันสวนยางพาราในภาคใต้ ในวันที่ 28 สิงหาคม 2555
นายบุญ เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้นเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด
มีแนวคิดจะยื่นหนังสือถึงกองทัพบก เพื่อขอกำลังทหารคุ้มกัน ฯลฯ โดยในวันที่
27 สิงหาคม 2555 ชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายฯ
จะมีการประชุมหารือเพื่อเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมอีกครั้งว่าจะเอาอย่างไร
โดยวางรูปแบบเคลื่อนใหญ่กันทั่วประเทศร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่
เป็นธรรม (พีมูฟ) หรืออาจร่วมกันกดดันชุมนุมยืดเยื้อที่ทำเนียบรัฐบาลเลย
นายบุญ กล่าวว่า
สำหรับในระดับองค์กรชุมชนในแต่ละพื้นที่ให้ชาวบ้านเฝ้าระวังแปลงยางพารา
ที่เป็นเป้าหมายอย่างเคร่งครัดที่สุด
ตอนนี้มีข่าวลือออกมาว่าเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยปฏิบัติการรื้อถอน 1,500 นาย
ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ออกปฏิบัติการในพื้นที่โน่นพื้นที่นี้จนชาวบ้านหวาดผวา
และวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
เวลาเห็นรถยนต์ผ่านไปผ่านมาก็นึกว่าเป็นหน่วยปฏิบัติการดังกล่าว
คณะทำงานเครือข่ายฯ จึงคอยแนะนำชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายฯ
หากทีเหตุการณ์เร่งด่วนที่ไหน ชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายฯ
พร้อมเข้าไปสมทบกับพื้นที่เกิดเหตุทันที เพื่อยื้อ เจรจา ต่อรอง
“รัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท ให้กรมอุทยานฯ
เพื่อปราบปรามผู้บุกรุกทำลายป่าในภาคใต้
แต่ไม่ได้แยกแยะระหว่างผู้บุกรุกทำลายป่า
กับพื้นที่ป่าทับซ้อนที่อยู่อาศัยและทำกินของชาวบ้าน
จนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่
และอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาความมั่นคงได้
ชาวบ้านจำเป็นต้องขอกองกำลังทหารมาคุ้มกันชาวบ้าน
เพราะการสนธิกำลังแบบนี้เหมือนกับการทำสงครามกับชาวบ้าน
ประหนึ่งการทำสงครามกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ในอดีต” นายบุญ กล่าว
นายอานนท์ สีเพ็ญ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชนรักษ์เขาบรรทัด
สมาชิกสมัชชาคนจน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2555
ที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชนรักษ์เขาบรรทัด ตำบลละมอ อำเภอนาโยง
จังหวัดตรัง เครือข่ายองค์กรชุมชนรักษ์เขาบรรทัดได้ประชุมมีมติออกมาว่า
ในวันที่ 27 สิงหาคม 2555 เครือข่ายฯ จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายดำรงค์
พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ในฐานะกรรมการของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชาคนจน
ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 181/2555 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2555
ลงนามโดยของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ให้ชะลอการตัดฟันยางพาราของชาวบ้าน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
พร้อมเปิดโต๊ะแถลงข่าวที่ศาลากลางจังหวัดตรัง ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน
พร้อมกับให้องค์กรสมาชิกเครือข่ายฯ กลับไปเฝ้าระวัง
ตรวจตราพื้นที่ของตัวเองอย่างเข้มงวด หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่ไหน
เครือข่ายฯ พร้อมลงไปสมทบเพื่อยื้อ เจรจา ต่อรอง
นายอานนท์ เปิดเผยอีกว่า วันที่ 27 สิงหาคม 2555 นี้
เครือข่ายองค์กรชุมชนรักษ์เขาบรรทัด
จะมีการจัดเวทีที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชนรักษ์เขาบรรทัด
พร้อมระดมชาวบ้านให้มากที่สุดเท่าทีจะทำได้
โดยประสานกับแนวร่วมชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการตัดฟันยางพาราตามนโยบายปราบ
ปรามผู้บุกรุกทำลายป่าในภาคใต้ ของกรมอุทยานฯ
ส่วนรูปแบบกิจกรรมต้องรอมติที่ประชุมเครือข่ายฯ ในวันที่ 26 สิงหาคม 2555
ว่าจะเคลื่อนไหวในรูปแบบไหน อย่างไร พร้อมทั้งประมวล
และประเมินสถานการณ์องค์กรสมาชิกเครือข่ายฯ ร่วมกัน
นายอานนท์ เปิดเผยต่อไปว่า ตนทราบข่าวว่าในวันที่ 25 สิงหาคม 2555
ชาวบ้านที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
จัดเวทีเกี่ยวกับเรื่องการบุกฟันยางพาราของกรมอุทยานฯ
โดยชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ 400 คน
ซึ่งตนจะเดินทางไปประสานเพื่อมาเป็นแนวร่วมเคลื่อนไหวในวันที่ 27 สิงหาคม
2555 นี้ด้วย
“ขณะเดียวกันเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด
ได้ประสานงานมายังเครือข่ายองค์กรชุมชนรักษ์เขาบรรทัด ซึ่งทางเครือข่ายฯ
ของเราก็พร้อมจะร่วมกดดันให้มีวาระการหยุด หรือชะลอการตัดฟันยางพารา
ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 28 สิงหาคม 2555
แต่ทั้งนี้ต้องเจรจาว่าส่วนไหนจะร่วมกันตีได้ ส่วนไหนจะแยกกันตี
ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกัน” นายอานนท์ กล่าว