รัฐสภา 17 มิ.ย. – ประธานสภาฯ ข้องใจถูกกล่าวหาไม่เป็นกลาง ท้าฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ระบุบรรจุวาระในสมัยประชุมนี้แน่นอน แต่จะอภิปรายได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตกลงของวิปฝ่ายค้าน-วิปรัฐบาล
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า ได้รอวิปฝ่ายค้านอยู่ตั้งแต่เช้า เพราะได้ยินข่าวว่ามีการโจมตี โดยหาว่าตนไม่เป็นกลาง ทั้งที่เป็นกลางอยู่ขณะนี้และไม่ได้ไปไหน หากวิปฝ่ายค้านยื่นญัตติมา ก็จะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ โดยคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน จึงสามารถส่งเรื่องแจ้งไปยังรัฐบาลได้ จากนั้น จะบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม
ประธานสภาผู้แทนราษฏร คาดว่า การบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคงจะทันในสมัยประชุมนี้ แต่จะพิจารณาได้ทันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตกลงของวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล เพราะสภาผู้แทนราษฏรมีกำหนดการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญ คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยรัฐบาลได้ส่งเอกสารการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ มายังสภาทั้งหมดแล้ว ดังนั้น หากจะมีการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จะต้องพิจารณาหลังจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ
"ญัตติของฝ่ายค้านจะเป็นญัตติที่สอง ส่วนเรื่องอื่นให้ชะลอไปก่อน ส่วนจะพิจารณาทันหรือไม่ ให้วิปฝ่ายค้านกับวิปรัฐบาลไปพิจารณากันเอง ประธานจะนั่งเป็นคนกลางให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และอภิปรายได้เต็มที่ ผมไม่มีปัญหายืนหยัดอยู่และเป็นกลางจริง ๆ ไม่เข้าข้างผ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องปิดประชุม ผมไม่ทราบจริง ๆ เพราะยังไม่มีพระบรมราชโองการฯ ปิดสมัยประชุมเลย" นายชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่วิปรัฐบาลเสนอแนวคิดใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ขอเปิดสภาสมัยวิสามัญอีกครั้งนั้น นายชัย กล่าวว่า การมีการเข้าชื่อจนมีเสียงครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก็พร้อมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ ส่วนตัวไม่ขัดข้องเพราะเป็นกลาง หากมาตามระเบียบแบบแผน ตามรัฐธรรมนูญ พร้อมดำเนินการตามนั้น แต่หากไปนอกเหนือจากนั้น ตนไม่เอาด้วยเด็ดขาด มาบังคับตนตนก็ไม่ไป. -สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-06-17 13:17:12