บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เมื่อสนธิลิ้มอ้างสถาบัน


คำถามในวันนี้คือ เหตุใดคนที่อ้างว่ารักและเทิดทูนสถาบันอย่างยิ่งจึงได้ปล่อยให้คนที่มีภูมิหลังอย่างนี้ออกมาอ้างของสูงได้

บอกตรงๆว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะหยาบคายรุนแรงและละเมิดกฎหมายขนาดไหนก็ตาม ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะจุดเท่าไหร่ก็ไม่ติด และไม่มีวันจะกลับไปสู่วันเวลาแห่งปี ๒๕๔๙ ได้อีกแล้ว ปล่อยให้ความอัปยศเป็นที่ประจักษ์และแพ้ภัยตนเองไปก็ดีแล้ว

แต่ผมกลับไปสนใจสิทธิพิเศษบางอย่างที่แกนนำของกลุ่ม คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับอยู่

นั่นคือความสามารถที่จะพูดจาเกี่ยวกับสถาบันระดับสูงของบ้านเมืองได้อย่างทระนงองอาจบนเวทีปราศรัยที่ตัวเองจัดขึ้น โดยไม่มีความครั่นคร้ามหรือหวั่นเกรงใดๆ ทั้งที่อาจเป็นความผิดตามกฎหมายที่สำคัญที่สุดฉบับหนึ่งในประเทศนี้ แถมยังกระเทือนใจคนเป็นอันมากด้วย


นอกจากนั้นคุณสนธิใช้สิทธินี้ในขณะที่ศาลมีคำพิพากษาในคดีคุณภูมิธรรม เวชยชัย ที่จำคุกคุณสนธิว่าห้ามคุณสนธิออกไปแสดงบทบาทใดๆที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อีกเป็นอันขาด ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม มิฉะนั้นจะยกเลิกเงื่อนไขเดิม และส่งตัวกลับเข้าตะรางไป

ชัดเสียยิ่งกว่าชัด แต่คุณสนธิก็ยังละเมิดเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้อย่างไม่ไยดี

เมื่อมีคนร้องต่อศาลที่เชียงรายในเรื่องนี้ ศาลท่านก็ว่าคุณสนธิสามารถทำได้โดยไม่มีความผิดอะไร

อึ้งกันไปทั่วประเทศว่าคุณสนธิทำบุญอะไรมาแต่ชาติปางก่อน

คนอย่างคุณสนธินั้น โดยภูมิหลังก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นคนที่ไม่นั่งเฉยๆ แต่เป็นคนชนิดตีปี๊บเพิ่มมูลค่าและความสำคัญของตัวเองมาตลอด เก่งในทางจับแพะชนแกะ เอาของจริงกับของปลอมมาเคล้ากันจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

เชื่อว่าหลอกคนโง่ๆและหูเบามาได้ตลอดชีวิตด้วยวิธีนี้

เมื่อได้รับสัญญาณต่อตัวเขาเองขนาดนี้ จะไม่ให้คนอย่างเขาโผเข้าใส่และฉกฉวยโอกาสให้มากที่สุดเป็นไม่มี

ยิ่งฝ่ายรัฐบาลค้นพบแล้วว่าเงินสนับสนุนไหลมาจากไหนและผ่านใคร ใกล้จะหวดกันได้รอมร่อ ก็ยิ่งต้องเล่นเกมบารมีเพิ่มขึ้นเป็นทบเท่าทวีคูณ เพื่อมิให้ภารกิจคาบเส้นกฎหมายที่เขาก่อขึ้นถูกทำลายลง

และยังหวังจะใช้บันไดขั้นนี้ระดมทุนเพิ่มเพื่อต่ออายุม็อบพันธมิตรฯที่กำลังหายใจรวยรินเจียนจะอยู่เจียนจะไปอีกด้วย

เรื่องแบบนี้มองกันทะลุ นักต้มตุ๋นทุกคนต้องการสร้างภาพที่ให้เหยื่อเชื่อได้ว่าเขามีอำนาจหนุนหลังอยู่จริงกันทั้งนั้น

การใช้ผ้าพันคอแสดงสีก็ดี การใช้คำพูดส่อว่าใครเป็นใคร อย่างกรณีประกาศสั่งให้พลตำรวจเอกพัชรวาทเดินตามรอยของพี่ชายของเขา คือพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ก็ดี เป็นตัวอย่างความเขี้ยวของคนที่เติบโตมาตลอดชีวิตด้วยการเล่นเกม

ความจริงคุณสนธิเป็นคนเก่งกาจอยู่มาก ในขณะที่อาณาจักรทางธุรกิจสื่อยังไม่ฉิบหายวายวอดขนาดนี้นั้น เขาเข้าใกล้โอกาสที่จะเป็นสื่อมวลชนที่มีอำนาจระดับโลกอยู่แล้ว แต่ความล้มเหลวในขณะนั้น ประกอบกับความมีอัตตาสูงเยี่ยมเทียมฟ้า ทำให้คุณสนธิต้องออกมาฮึดเพื่อเอาชนะในช่วงเวลานี้ให้ได้

ใช้คำว่าสงครามครั้งสุดท้าย อย่างที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เคยใช้มาก่อนแล้วก็เน่าไป

คุณสนธิคงจะหวังว่างานนี้จะจบลงด้วยชัยชนะเหนือพลังของประชาชน เพราะมีอำมาตย์มากมายมายอมตัวเป็นเครื่องมือ เชื่อว่าตัวเองจะไม่เน่าแน่

คำถามในวันนี้คือ เหตุใดคนที่อ้างว่ารักและเทิดทูนสถาบันอย่างยิ่งจึงได้ปล่อยให้คนที่มีภูมิหลังอย่างนี้ออกมาอ้างของสูงได้

อยากรู้ว่าเหตุที่กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ ๑ ดูจะนั่งฟังเขาอ้างอยู่เฉยๆนั้น เพราะเชื่อหรือว่าสิ่งที่เขานำมากล่าวอ้างและสื่อสารกับสังคมในขณะนี้เป็นของจริง

ถ้าไม่เชื่อจะปล่อยให้เขาใช้สิทธิพิเศษนี้ตำตาอยู่มิได้ ในเมื่อมีหน้าที่ป้องกันสถาบันในทุกทาง

อย่าให้ต้องนึกถึงกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระพันวษาในวรรณคดีขุนช้างขุนแผนตอนที่ทรงหาแม่ทัพไปรบที่เมืองเหนือเลยครับ

คราวนั้นรับสั่งอย่างเจ็บปวดว่า

"...เลี้ยงเสียเบี้ยหวัดไม่ต้องการ ศฤงคารยศศักดิ์หนักแผ่นดิน..."

กาหลิบ

///////////////////////////

คอลัมน์: เลือกคบ ไม่เลือกข้าง:จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ 16/006/2551


กาหลิบ

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker