คำถามในวันนี้คือ เหตุใดคนที่อ้างว่ารักและเทิดทูนสถาบันอย่างยิ่งจึงได้ปล่อยให้คนที่มีภูมิหลังอย่างนี้ออกมาอ้างของสูงได้
บอกตรงๆว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะหยาบคายรุนแรงและละเมิดกฎหมายขนาดไหนก็ตาม ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะจุดเท่าไหร่ก็ไม่ติด และไม่มีวันจะกลับไปสู่วันเวลาแห่งปี ๒๕๔๙ ได้อีกแล้ว ปล่อยให้ความอัปยศเป็นที่ประจักษ์และแพ้ภัยตนเองไปก็ดีแล้ว
แต่ผมกลับไปสนใจสิทธิพิเศษบางอย่างที่แกนนำของกลุ่ม คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับอยู่
นั่นคือความสามารถที่จะพูดจาเกี่ยวกับสถาบันระดับสูงของบ้านเมืองได้อย่างทระนงองอาจบนเวทีปราศรัยที่ตัวเองจัดขึ้น โดยไม่มีความครั่นคร้ามหรือหวั่นเกรงใดๆ ทั้งที่อาจเป็นความผิดตามกฎหมายที่สำคัญที่สุดฉบับหนึ่งในประเทศนี้ แถมยังกระเทือนใจคนเป็นอันมากด้วย
นอกจากนั้นคุณสนธิใช้สิทธินี้ในขณะที่ศาลมีคำพิพากษาในคดีคุณภูมิธรรม เวชยชัย ที่จำคุกคุณสนธิว่าห้ามคุณสนธิออกไปแสดงบทบาทใดๆที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อีกเป็นอันขาด ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม มิฉะนั้นจะยกเลิกเงื่อนไขเดิม และส่งตัวกลับเข้าตะรางไป
ชัดเสียยิ่งกว่าชัด แต่คุณสนธิก็ยังละเมิดเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้อย่างไม่ไยดี
เมื่อมีคนร้องต่อศาลที่เชียงรายในเรื่องนี้ ศาลท่านก็ว่าคุณสนธิสามารถทำได้โดยไม่มีความผิดอะไร
อึ้งกันไปทั่วประเทศว่าคุณสนธิทำบุญอะไรมาแต่ชาติปางก่อน
คนอย่างคุณสนธินั้น โดยภูมิหลังก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นคนที่ไม่นั่งเฉยๆ แต่เป็นคนชนิดตีปี๊บเพิ่มมูลค่าและความสำคัญของตัวเองมาตลอด เก่งในทางจับแพะชนแกะ เอาของจริงกับของปลอมมาเคล้ากันจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
เชื่อว่าหลอกคนโง่ๆและหูเบามาได้ตลอดชีวิตด้วยวิธีนี้
เมื่อได้รับสัญญาณต่อตัวเขาเองขนาดนี้ จะไม่ให้คนอย่างเขาโผเข้าใส่และฉกฉวยโอกาสให้มากที่สุดเป็นไม่มี
ยิ่งฝ่ายรัฐบาลค้นพบแล้วว่าเงินสนับสนุนไหลมาจากไหนและผ่านใคร ใกล้จะหวดกันได้รอมร่อ ก็ยิ่งต้องเล่นเกมบารมีเพิ่มขึ้นเป็นทบเท่าทวีคูณ เพื่อมิให้ภารกิจคาบเส้นกฎหมายที่เขาก่อขึ้นถูกทำลายลง
และยังหวังจะใช้บันไดขั้นนี้ระดมทุนเพิ่มเพื่อต่ออายุม็อบพันธมิตรฯที่กำลังหายใจรวยรินเจียนจะอยู่เจียนจะไปอีกด้วย
เรื่องแบบนี้มองกันทะลุ นักต้มตุ๋นทุกคนต้องการสร้างภาพที่ให้เหยื่อเชื่อได้ว่าเขามีอำนาจหนุนหลังอยู่จริงกันทั้งนั้น
การใช้ผ้าพันคอแสดงสีก็ดี การใช้คำพูดส่อว่าใครเป็นใคร อย่างกรณีประกาศสั่งให้พลตำรวจเอกพัชรวาทเดินตามรอยของพี่ชายของเขา คือพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ก็ดี เป็นตัวอย่างความเขี้ยวของคนที่เติบโตมาตลอดชีวิตด้วยการเล่นเกม
ความจริงคุณสนธิเป็นคนเก่งกาจอยู่มาก ในขณะที่อาณาจักรทางธุรกิจสื่อยังไม่ฉิบหายวายวอดขนาดนี้นั้น เขาเข้าใกล้โอกาสที่จะเป็นสื่อมวลชนที่มีอำนาจระดับโลกอยู่แล้ว แต่ความล้มเหลวในขณะนั้น ประกอบกับความมีอัตตาสูงเยี่ยมเทียมฟ้า ทำให้คุณสนธิต้องออกมาฮึดเพื่อเอาชนะในช่วงเวลานี้ให้ได้
ใช้คำว่าสงครามครั้งสุดท้าย อย่างที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เคยใช้มาก่อนแล้วก็เน่าไป
คุณสนธิคงจะหวังว่างานนี้จะจบลงด้วยชัยชนะเหนือพลังของประชาชน เพราะมีอำมาตย์มากมายมายอมตัวเป็นเครื่องมือ เชื่อว่าตัวเองจะไม่เน่าแน่
คำถามในวันนี้คือ เหตุใดคนที่อ้างว่ารักและเทิดทูนสถาบันอย่างยิ่งจึงได้ปล่อยให้คนที่มีภูมิหลังอย่างนี้ออกมาอ้างของสูงได้
อยากรู้ว่าเหตุที่กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ ๑ ดูจะนั่งฟังเขาอ้างอยู่เฉยๆนั้น เพราะเชื่อหรือว่าสิ่งที่เขานำมากล่าวอ้างและสื่อสารกับสังคมในขณะนี้เป็นของจริง
ถ้าไม่เชื่อจะปล่อยให้เขาใช้สิทธิพิเศษนี้ตำตาอยู่มิได้ ในเมื่อมีหน้าที่ป้องกันสถาบันในทุกทาง
อย่าให้ต้องนึกถึงกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระพันวษาในวรรณคดีขุนช้างขุนแผนตอนที่ทรงหาแม่ทัพไปรบที่เมืองเหนือเลยครับ
คราวนั้นรับสั่งอย่างเจ็บปวดว่า
"...เลี้ยงเสียเบี้ยหวัดไม่ต้องการ ศฤงคารยศศักดิ์หนักแผ่นดิน..."
บอกตรงๆว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะหยาบคายรุนแรงและละเมิดกฎหมายขนาดไหนก็ตาม ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะจุดเท่าไหร่ก็ไม่ติด และไม่มีวันจะกลับไปสู่วันเวลาแห่งปี ๒๕๔๙ ได้อีกแล้ว ปล่อยให้ความอัปยศเป็นที่ประจักษ์และแพ้ภัยตนเองไปก็ดีแล้ว
แต่ผมกลับไปสนใจสิทธิพิเศษบางอย่างที่แกนนำของกลุ่ม คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับอยู่
นั่นคือความสามารถที่จะพูดจาเกี่ยวกับสถาบันระดับสูงของบ้านเมืองได้อย่างทระนงองอาจบนเวทีปราศรัยที่ตัวเองจัดขึ้น โดยไม่มีความครั่นคร้ามหรือหวั่นเกรงใดๆ ทั้งที่อาจเป็นความผิดตามกฎหมายที่สำคัญที่สุดฉบับหนึ่งในประเทศนี้ แถมยังกระเทือนใจคนเป็นอันมากด้วย
นอกจากนั้นคุณสนธิใช้สิทธินี้ในขณะที่ศาลมีคำพิพากษาในคดีคุณภูมิธรรม เวชยชัย ที่จำคุกคุณสนธิว่าห้ามคุณสนธิออกไปแสดงบทบาทใดๆที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อีกเป็นอันขาด ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม มิฉะนั้นจะยกเลิกเงื่อนไขเดิม และส่งตัวกลับเข้าตะรางไป
ชัดเสียยิ่งกว่าชัด แต่คุณสนธิก็ยังละเมิดเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้อย่างไม่ไยดี
เมื่อมีคนร้องต่อศาลที่เชียงรายในเรื่องนี้ ศาลท่านก็ว่าคุณสนธิสามารถทำได้โดยไม่มีความผิดอะไร
อึ้งกันไปทั่วประเทศว่าคุณสนธิทำบุญอะไรมาแต่ชาติปางก่อน
คนอย่างคุณสนธินั้น โดยภูมิหลังก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นคนที่ไม่นั่งเฉยๆ แต่เป็นคนชนิดตีปี๊บเพิ่มมูลค่าและความสำคัญของตัวเองมาตลอด เก่งในทางจับแพะชนแกะ เอาของจริงกับของปลอมมาเคล้ากันจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
เชื่อว่าหลอกคนโง่ๆและหูเบามาได้ตลอดชีวิตด้วยวิธีนี้
เมื่อได้รับสัญญาณต่อตัวเขาเองขนาดนี้ จะไม่ให้คนอย่างเขาโผเข้าใส่และฉกฉวยโอกาสให้มากที่สุดเป็นไม่มี
ยิ่งฝ่ายรัฐบาลค้นพบแล้วว่าเงินสนับสนุนไหลมาจากไหนและผ่านใคร ใกล้จะหวดกันได้รอมร่อ ก็ยิ่งต้องเล่นเกมบารมีเพิ่มขึ้นเป็นทบเท่าทวีคูณ เพื่อมิให้ภารกิจคาบเส้นกฎหมายที่เขาก่อขึ้นถูกทำลายลง
และยังหวังจะใช้บันไดขั้นนี้ระดมทุนเพิ่มเพื่อต่ออายุม็อบพันธมิตรฯที่กำลังหายใจรวยรินเจียนจะอยู่เจียนจะไปอีกด้วย
เรื่องแบบนี้มองกันทะลุ นักต้มตุ๋นทุกคนต้องการสร้างภาพที่ให้เหยื่อเชื่อได้ว่าเขามีอำนาจหนุนหลังอยู่จริงกันทั้งนั้น
การใช้ผ้าพันคอแสดงสีก็ดี การใช้คำพูดส่อว่าใครเป็นใคร อย่างกรณีประกาศสั่งให้พลตำรวจเอกพัชรวาทเดินตามรอยของพี่ชายของเขา คือพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ก็ดี เป็นตัวอย่างความเขี้ยวของคนที่เติบโตมาตลอดชีวิตด้วยการเล่นเกม
ความจริงคุณสนธิเป็นคนเก่งกาจอยู่มาก ในขณะที่อาณาจักรทางธุรกิจสื่อยังไม่ฉิบหายวายวอดขนาดนี้นั้น เขาเข้าใกล้โอกาสที่จะเป็นสื่อมวลชนที่มีอำนาจระดับโลกอยู่แล้ว แต่ความล้มเหลวในขณะนั้น ประกอบกับความมีอัตตาสูงเยี่ยมเทียมฟ้า ทำให้คุณสนธิต้องออกมาฮึดเพื่อเอาชนะในช่วงเวลานี้ให้ได้
ใช้คำว่าสงครามครั้งสุดท้าย อย่างที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เคยใช้มาก่อนแล้วก็เน่าไป
คุณสนธิคงจะหวังว่างานนี้จะจบลงด้วยชัยชนะเหนือพลังของประชาชน เพราะมีอำมาตย์มากมายมายอมตัวเป็นเครื่องมือ เชื่อว่าตัวเองจะไม่เน่าแน่
คำถามในวันนี้คือ เหตุใดคนที่อ้างว่ารักและเทิดทูนสถาบันอย่างยิ่งจึงได้ปล่อยให้คนที่มีภูมิหลังอย่างนี้ออกมาอ้างของสูงได้
อยากรู้ว่าเหตุที่กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ ๑ ดูจะนั่งฟังเขาอ้างอยู่เฉยๆนั้น เพราะเชื่อหรือว่าสิ่งที่เขานำมากล่าวอ้างและสื่อสารกับสังคมในขณะนี้เป็นของจริง
ถ้าไม่เชื่อจะปล่อยให้เขาใช้สิทธิพิเศษนี้ตำตาอยู่มิได้ ในเมื่อมีหน้าที่ป้องกันสถาบันในทุกทาง
อย่าให้ต้องนึกถึงกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระพันวษาในวรรณคดีขุนช้างขุนแผนตอนที่ทรงหาแม่ทัพไปรบที่เมืองเหนือเลยครับ
คราวนั้นรับสั่งอย่างเจ็บปวดว่า
"...เลี้ยงเสียเบี้ยหวัดไม่ต้องการ ศฤงคารยศศักดิ์หนักแผ่นดิน..."
กาหลิบ
///////////////////////////
คอลัมน์: เลือกคบ ไม่เลือกข้าง:จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ 16/006/2551
กาหลิบ