ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
คาดเชือก คาถาพัน
หากมองย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ยุ่งเหยิงนองเลือดเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา
การที่รัฐบาลนายกฯมาร์ค ยังนั่งเป็นรัฐบาล
และยังมีโอกาสนำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 เข้าสภาได้
ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่ธรรมดา
ก็อย่างที่วงสนทนาตามเว็บต่างๆ เขาสรรเสริญเยินยอว่า น้ามาร์คเขาเส้นใหญ่จริง
ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่มีผู้คนล้มตายมากมายเท่านั้น หากเอาผลงานการบริหาร
หรือสภาพปัญหาบ้านเมืองที่ไม่ได้รับการแก้ไขเป็นตัวตั้ง การที่นายกฯมาร์คอยู่ได้ถึงวันนี้
ยิ่งต้องบอกว่า นอกจากเส้นใหญ่แล้ว ยังมีหลายเส้นอีกต่างหาก
งบประมาณเที่ยวนี้ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท นับว่ามากมหาศาล
ถ้ามีนโยบายดีๆ มีวิธีการใช้จ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ
จะทำให้ผู้คนที่ยากจนลืมตาอ้าปากได้เป็นหลายล้านคน
ก็คงจะเป็นอย่างที่มีส.ส.อภิปรายในสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า
รัฐบาลนี้มีเงินให้ถลุงมากมาย งบประมาณปี 2553 นั่นก็ไม่น้อย
แต่กลับไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน คนจนยังจนอยู่ ตัวเลขการก่อหนี้สูงลิ่ว
นี่ยังไม่พูดถึงการเบิกจ่ายใช้งบฯ กันอย่างอีลุ่ยฉุยแฉก
เพราะความเป็นรัฐบาลผสม งบหลวงมาจากภาษีอากรประชาชนแท้ๆ
แต่เวลาใช้จ่ายกลายเป็นเรื่องทางใครทางมัน กระทรวงใครกระทรวงมัน
ที่สำคัญปัญหาหลายๆ อย่าง ไม่ได้รับการแก้ไข อย่างปัญหาไฟใต้
ปัญหาความแตกแยกในสังคมที่นับวันยิ่งเลวร้าย
ที่น่าสังเกตก็คือ
การพิจารณางบประมาณในครั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านนำเอาเหตุการณ์สลายม็อบมาพูดในสภา
ทำให้เกิดการประท้วงกันวุ่นวาย นายกฯ เองก็ต้องลุกขึ้นมาชี้แจง
มองเผินๆ ก็เหมือนกับน่าเบื่อหน่าย เอาเรื่องเก่ามาพูดใหม่
แต่ความจริงการสลายม็อบยังไม่ใช่เรื่องเก่า
เหยื่อของเหตุการณ์ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลอย่างจริงจัง
กรรมการ 3-4 ชุดที่ตั้งขึ้นจากเลือดเนื้อชีวิตของเหยื่อเหล่านี้
มีงบให้ใช้สบายมือหลายร้อยล้าน แต่เหยื่อตัวจริง กลับกลายเป็น "เรื่องเก่า"
ที่พูดเมื่อไหร่ ก็ต้องมีส.ส.รัฐบาลลุกขึ้นมาประท้วงเมื่อนั้น
ในอดีต วิธีการทำให้เหยื่อกลายเป็นคนที่ถูกลืมอาจจะได้ผล แต่ไม่ใช่ในยุคนี้แน่นอน
นายกฯมาร์ค อายุยังไม่เท่าไหร่
ช่วงชีวิตที่เหลือจะต้องโดนหลอนจาก "ลูกหนี้" ไปตลอด ถ้าไม่ยอมชดใช้
เส้นใหญ่ขนาดไหนก็ช่วยไม่ได้ตลอดแน่นอน
คาดเชือก คาถาพัน
หากมองย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ยุ่งเหยิงนองเลือดเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา
การที่รัฐบาลนายกฯมาร์ค ยังนั่งเป็นรัฐบาล
และยังมีโอกาสนำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 เข้าสภาได้
ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่ธรรมดา
ก็อย่างที่วงสนทนาตามเว็บต่างๆ เขาสรรเสริญเยินยอว่า น้ามาร์คเขาเส้นใหญ่จริง
ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่มีผู้คนล้มตายมากมายเท่านั้น หากเอาผลงานการบริหาร
หรือสภาพปัญหาบ้านเมืองที่ไม่ได้รับการแก้ไขเป็นตัวตั้ง การที่นายกฯมาร์คอยู่ได้ถึงวันนี้
ยิ่งต้องบอกว่า นอกจากเส้นใหญ่แล้ว ยังมีหลายเส้นอีกต่างหาก
งบประมาณเที่ยวนี้ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท นับว่ามากมหาศาล
ถ้ามีนโยบายดีๆ มีวิธีการใช้จ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ
จะทำให้ผู้คนที่ยากจนลืมตาอ้าปากได้เป็นหลายล้านคน
ก็คงจะเป็นอย่างที่มีส.ส.อภิปรายในสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า
รัฐบาลนี้มีเงินให้ถลุงมากมาย งบประมาณปี 2553 นั่นก็ไม่น้อย
แต่กลับไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน คนจนยังจนอยู่ ตัวเลขการก่อหนี้สูงลิ่ว
นี่ยังไม่พูดถึงการเบิกจ่ายใช้งบฯ กันอย่างอีลุ่ยฉุยแฉก
เพราะความเป็นรัฐบาลผสม งบหลวงมาจากภาษีอากรประชาชนแท้ๆ
แต่เวลาใช้จ่ายกลายเป็นเรื่องทางใครทางมัน กระทรวงใครกระทรวงมัน
ที่สำคัญปัญหาหลายๆ อย่าง ไม่ได้รับการแก้ไข อย่างปัญหาไฟใต้
ปัญหาความแตกแยกในสังคมที่นับวันยิ่งเลวร้าย
ที่น่าสังเกตก็คือ
การพิจารณางบประมาณในครั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านนำเอาเหตุการณ์สลายม็อบมาพูดในสภา
ทำให้เกิดการประท้วงกันวุ่นวาย นายกฯ เองก็ต้องลุกขึ้นมาชี้แจง
มองเผินๆ ก็เหมือนกับน่าเบื่อหน่าย เอาเรื่องเก่ามาพูดใหม่
แต่ความจริงการสลายม็อบยังไม่ใช่เรื่องเก่า
เหยื่อของเหตุการณ์ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลอย่างจริงจัง
กรรมการ 3-4 ชุดที่ตั้งขึ้นจากเลือดเนื้อชีวิตของเหยื่อเหล่านี้
มีงบให้ใช้สบายมือหลายร้อยล้าน แต่เหยื่อตัวจริง กลับกลายเป็น "เรื่องเก่า"
ที่พูดเมื่อไหร่ ก็ต้องมีส.ส.รัฐบาลลุกขึ้นมาประท้วงเมื่อนั้น
ในอดีต วิธีการทำให้เหยื่อกลายเป็นคนที่ถูกลืมอาจจะได้ผล แต่ไม่ใช่ในยุคนี้แน่นอน
นายกฯมาร์ค อายุยังไม่เท่าไหร่
ช่วงชีวิตที่เหลือจะต้องโดนหลอนจาก "ลูกหนี้" ไปตลอด ถ้าไม่ยอมชดใช้
เส้นใหญ่ขนาดไหนก็ช่วยไม่ได้ตลอดแน่นอน