บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เปิดผล 6 ศพ ฉบับ "ฮิวแมนไรต์"

ที่มา ข่าวสด

ชี้โลกยังจับตา "พฤษภาเลือด" "สมยศ"เข้าคุก วืดประกันตัว!



เข้าคุก - เจ้าหน้าที่ดีเอสไอคุมตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำเสื้อแดงไปฝากขังที่ศาลอาญา ก่อนศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกัน ต้องส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.

เปิดรายงาน "พฤษภาเลือด"องค์กรสิทธิมนุษยชน "ฮิวแมนไรต์วอตช์" ชี้ไม่มีความเท่าเทียมกันในกระบวนการยุติธรรม ชี้คดี 6 ศพวัดปทุมฯ ชัดเจนสุด เจ้าหน้าที่รัฐต้องมีส่วนรับผิดชอบ แต่คดีช้ามาก พยาบาลอาสา "น้องเกด" ติดเครื่องหมายชัดเจน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเต็นท์ก็ยังถูกยิงตาย ขณะที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" หลังดีเอสไอส่งฝากขัง ก่อนคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 2 พ.ค. ที่ศาลอาญา พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม คุมตัว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/428 ซอยประชาอุทิศ 12 แขวงและเขตดอนเมือง กทม. แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในคดีกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศ และเป็นตัวการผู้ใช้ ผู้สนับสนุน เข้าข่าย กระทำขององค์กรอาชญากรรม หมิ่นสถาบัน มายื่นฝากขังต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน

คำร้องฝากขังระบุว่า นายสมยศ เป็นเจ้าของและบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ มีการลงบทความเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112 มีพฤติกรรมลงบทความในทำนองดังกล่าวหลายครั้งหลายหน กระทั่งวันที่ 3 ก.ย. 2553 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสมยศ ต่อดีเอสไอ ในความผิด กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อมาวันที่ 30 เม.ย. 2554 นายสมยศ ยื่นหนังสือเดินทางแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อพบว่าเป็นนายสมยศ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 131/2554 ลงวันที่ 15 ก.พ. 2554 จึงจับกุมนำตัวส่งดีเอสไอ ดำเนินคดี

ท้ายคำร้องระบุด้วยว่า พนักงานสอบสวนยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 9 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา จึงขอฝากขังไว้มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่ 2-13 พ.ค. 2554 ทั้งนี้ หากผู้ต้องหายื่นประกันตัว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจำนวน 3 ครั้ง ประกอบกับผู้ต้องหาถูกจับกุมขณะกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากได้รับการประกันตัว อาจไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานสอบ สวนยื่นคำร้องต่อศาลแล้ว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้อง ขณะเดียวกัน นายคารม พลทะกลาง ทนายความของนายสมยศ ก็ยื่นคำร้องพร้อมทั้งหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 1,600,000 บาท ขอประกันตัวนายสมยศ

ต่อมาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ตามข้อหาเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พฤติการณ์แห่งคดี และลักษณะการกระทำ นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เทิดทูน และเคารพสักการะ ซึ่งกระทบกระเทือนต่อจิตใจของประชาชนโดยรวม ประกอบกับผู้ต้องหา ถูกจับกุมขณะกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้อง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวนำตัวนายสมยศ ขึ้นรถไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป

วันเดียวกัน นายสุนัย ผาสุข ที่ปรึกษา ฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย องค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลก เปิดเผยว่า วันที่ 3 พ.ค. เวลา 10.30 น. ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ผอ.ฮิวแมนไรต์วอตช์ ฝ่ายเอเชีย จะเผยแพร่รายงานเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา เป็นข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบ และรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย รวมถึงกรณี น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม โดย ผอ.ฮิวแมนไรต์วอตช์ ได้ไปพูดคุยกับ นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ของน้องเกด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และสอบถามว่าทางญาติจะมีกระบวนการเรียกร้องความยุติธรรมอย่างไรต่อไป รวมถึงสอบถามเรื่องศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ที่นางพะเยาว์ตั้งขึ้นด้วย

นายสุนัย กล่าวต่อว่า ฮิวแมนไรต์วอตช์ติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย มาตลอดตั้งแต่สมัยเสื้อเหลือง จนกระทั่งเสื้อแดง การติดตามครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจาก เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว เมื่อรัฐบาลรับปากว่าจะให้มีการตรวจสอบที่ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และผลออกมาอย่างไร ก็จะดำเนินการเต็มที่เพื่อให้เกิดความยุติธรรม แต่ยังมีข้อสังเกตว่า คนเสื้อแดงหลายระดับ มีทั้งถูกจับกุม และคุมขัง ขณะที่ทางฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ความคืบหน้าในการสืบสวน และการดำเนินคดีช้ามาก

"กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกรณีของวัดปทุมฯ เป็นกรณีที่ค่อนข้างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐน่าจะมีส่วนรับผิดชอบ แต่ความคืบหน้าในกรณีของวัดปทุมฯ กลับช้ามาก และกรณีของน้องเกดก็เป็นกรณีที่ชัดเจนว่า เป็นอาสาสมัครพยาบาล มีเครื่องหมายอยู่กับตัวชัดเจน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเต็นท์พยาบาลก็ยังถูกยิงเสียชีวิต ก็ควรมีคำอธิบายออกมาจากรัฐ แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่น่าพอใจ" ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าว

ที่รัฐสภา นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากชมรมสื่อ มวลชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ดีเอสไอ ปิดสถานีวิทยุชุมชน 13 สถานี ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และภาพลักษณ์ของประเทศที่รัฐละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 และสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน และทราบว่ามีความพยายามของรัฐที่จะแทรกแซงปิดสื่อสิ่งพิมพ์ และอินเตอร์เน็ตตามมาด้วย

นายต่อพงษ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นคณะกรรมา ธิการฯ จะนำข้อมูลนี้ร้องเรียนไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย เนื่องจากสหรัฐได้ออกกฎหมายปกป้องสิทธิเสรีภาพสื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในวันที่ 5 พ.ค.นี้ เพื่อให้นานาชาติได้รับรู้ว่า รัฐละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน เพราะในขณะนี้ประเทศไทยอยู่อันดับสุดท้ายในกลุ่มประเทศที่สื่อถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการสื่อสาร

ส่วนนายจุติพงษ์ พุ่มมูล เลขาฯ ชมรมสื่อมวลชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เป็นกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะรัฐมองว่าสถานีวิทยุเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย มีการตั้งข้อกล่าวหาภายหลังเข้าไปยึดเครื่องมือและอุปกรณ์ โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า 13 สถานี นำเทปการปราศรัยของแกนนำคนเสื้อแดง มาเผยแพร่ต่อสาธารณะว่ายุยงปลุกปั่น ขณะที่สถานีโทรทัศน์บางแห่ง รวมทั้งเอเอสทีวี ก็นำมาเผยแพร่ แต่ทำไมไม่ถูกปิด ถือเป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ

ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.รมน.เป็นประธานประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือน ของกอ.รมน. โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสธ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการกอ.รมน. แถลงผลการประชุมกอ.รมน. และตอบคำถามถึงกรณีที่กอ.รมน. ตรวจค้นและปิดสถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดง 13 แห่งว่า ที่ถูกจับส่วนใหญ่มีความผิดตาม มาตรา 116 คือ ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก ความสามัคคี ไม่ใช่ความผิดมาตรา 112 ที่เกี่ยวกับสถาบัน การจับกุม 13 สถานีวิทยุชุมชน เราใช้พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงเป็นตัวนำจับกุม และขยายผลเอาผิดโทษทางอาญาตามหลัง ทำให้ดูเหมือนเป็นสองมาตรฐาน เพราะมีอีกหลายคลื่นที่ทำผิดพ.ร.บ.กระจายเสียง ขณะนี้มีอยู่อีก 800 กว่าสถานี ที่กระทำผิด พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียง ทางคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ไม่ใช่ว่าจะมาไล่จับเสื้อแดง เสื้อเขียว อย่างเดียว

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker