เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ไม่ว่าจะเกี่ยวกับพรรคการเมือง ตัวบุคคล หรือนโยบายของแต่ละพรรคว่าใครจะสามารถสร้างแรงดึง ดูดใจประชาชนได้มากกว่ากัน
และเนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกกำหนดให้เป็นสนามต่อสู้สำคัญของสองพรรคใหญ่ คือ
ประ ชาธิปัตย์ที่ชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นนายกฯ สมัยที่สอง กับพรรคเพื่อไทยที่ชูน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ 1 เป็นนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย
ทำให้โพลส่วนใหญ่ให้ความสนใจความคิดเห็นประ ชาชนที่มีต่อสองพรรคใหญ่ในทุกด้านและทุกจังหวะย่างก้าวมากเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะคู่ชิงเก้าอี้นายกฯ 'อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์'
จนบางครั้งทำให้พรรคขนาดกลางและเล็ก น้อยอกน้อยใจที่ไม่มีชื่อในโพล เหมือนไม่ได้รับความสนใจ ถูกมองเป็นแค่พรรคไม้ประดับ
อย่าง ไรก็ตามภาพรวมผลสำรวจโพลที่ออกมาตั้งแต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ประกาศล่วงหน้าว่าจะยุบสภาในต้นสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม เกี่ยวกับคะแนนนิยมประชาธิปัตย์-เพื่อไทย
เป็นไปในลักษณะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ
หลายสำนักสำรวจพบเพื่อไทยมีแนวโน้มชนะเลือกตั้งสูงกว่าประชาธิปัตย์
ขณะเดียวกันก็มีบางสำนักระบุสองพรรคมีสัดส่วนคะแนนนิยมสูสี คือพรรคละ 20 เปอร์เซ็นต์เศษๆ
โดยมีอีกกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ยังไม่ตัดสินใจที่เรียกว่า 'กลุ่มพลังเงียบ' คนกลุ่มนี้ต้องการรอดูความชัดเจนเรื่องตัวบุคคลและนโยบายของแต่ละพรรคก่อน
ที่น่าสนใจคือผลสำรวจเอแบคโพลเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาในหัวข้อ 'ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำ' 18 ด้าน
พบว่า 'อภิสิทธิ์' เหนือกว่า 'ยิ่งลักษณ์' ทุกด้านด้วยคะแนนทิ้งห่างพอสมควร
แต่ข้อสังเกตคือตอนนั้น 'ยิ่งลักษณ์' ยังไม่ได้เปิดตัวในฐานะคู่ชิงนายกฯ อย่างเป็นทางการ
กระทั่ง 'ยิ่งลักษณ์' เปิดตัวประกาศจุดยืนอย่างเป็นทางการ
ผล โพลหัวข้อเดิมแต่เป็นการสำรวจครั้งที่สอง จึงพบว่าคะแนนภาพลักษณ์ผู้นำของ 'ยิ่งลักษณ์' เพิ่มขึ้นทุกด้าน ขณะที่ของ 'อภิสิทธิ์' ลดลงเกือบทุกด้าน
ถึงแม้โพลจะเป็นแค่สีสันในการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นสีสันที่ชวนให้ระทึกใจอย่างยิ่ง