บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ณัฐวุฒิขอแรงร่วมใจกาเพื่อไทยเบอร์1ชนะถล่มไปเลย ตัดปัญหามาร์คผสมพันธุ์เนวินไม่อายดินฟ้า

ที่มา Thai E-News

เสื้อแดงคนนี้เทใจให้เบอร์1-คน เสื้อแดงรายนี้ถ่ายรูปคู่กับสาวน้อยรายหนึ่งคือน้องอุ๋งอิ๋ง (ชื่อสมมุติ) ลงในทวิตเตอร์ปรากฎวันที่ 12 มิถุนายน 2554 ไม่ปรากฎชัดเจนว่าสถานที่ใด โดยเสื้อของเขามีหมายเลข 1 เด่นเป็นสง่า เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นกองเชียร์พรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ดีคำบรรยายภาพบอกว่า"เดินเล่นกัน2คนพ่อลูกค่ะ ฮิฮิฮิ" จึงเชื่อได้ว่าเสื้อแดงรายนี้ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายภาพนี้เพื่อเป็นการ"ทำ กิจกรรมการเมือง"แต่ประการใด กกต.โปรดทราบ

ที่มา เวบไซต์นปช.แดงทั้งแผ่นดิน


ณัฐวุฒิ อัด มาร์ค ตั้งเงื่อนไขหมาหมู่ วอนชาวบ้านเลือก เพื่อไทย ให้ถล่มทลายเพื่อสั่งสอนเกมไร้สำนึก



นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นข่าวที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์รวมกับพรรคภูมิใจไทยแล้วได้มากกว่าพรรคเพื่อไทย แล้วพรรคเพื่อไทยจะว่าอย่างไรแล้วก็อนาถใจยิ่งนัก เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล คุณไม่ต้องสนใจมารยาทและความสง่างามทางการเมืองเลยหรือ ไม่รู้หรือว่าเขาแข่งกัน 1 ต่อ 1 ไม่มีใครรับเงื่อนไขหมาหมู่แบบนี้หรอก ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์จะประกาศรวมพรรคกับพรรคภูมิใจไทยให้ชัดเจนก็ว่ามา ทั้งนี้ ตกลงแล้วอุดมการณ์ของทั้ง 2 พรรคเป็นหนึ่งเดียวกันใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กับนายเนวิน ชิดชอบ มีจุดยืนเดียวกันใช่หรือไม่ แต่พรรคเพื่อไทยไม่เอา นายเนวิน

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า อยากถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงเป็นที่ 1 แต่น้อยกว่าทั้ง 2 พรรครวมกันคุณก็จะเป็นรัฐบาลอย่างนั้นหรือ ถ้านายอภิสิทธิ์ ไม่อายตนก็ขออายแทน อย่างไรก็ตาม เพื่อตัดปัญหาทั้งหมดนั้น ขอให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลายหรือให้เกินครึ่งจะได้ไม่มีเกมไร้ สำนึกแบบนี้เกิดขึ้น

"พรรคเล็ก-พรรคกลาง" คึก จัดคิว-แต่งตัว จองเก้าอี้ รมต. ส่งแกนนำพรรค 2 พรรคใหญ่

สื่อ มวลชนกระแสหลักนำเสนอข่าวจากแกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ได้มีการเตรียมจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ของพรรคตัวเองไว้หมดแล้ว โดยได้มีการพูดคุยทาบทามกันแบบหลวม ๆ กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทยว่า หากเข้าร่วมรัฐบาล ต้องการที่จะรับผิดชอบและดูแลกระทรวงใด

"หากพรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส. มาเป็นอันดับหนึ่ง พรรคที่จะเชิญเข้าร่วมรัฐบาล คือ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน โดยพรรคชาติไทยพัฒนา ในสัดส่วนของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ขอโควต้าเก้าอี้ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงกีฬา และการท่องเที่ยว พร้อมทั้งขอโค้วต้ากระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาสินค้าทางการเกษตร ทั้งระบบ" แหล่งข่าวรายนี้ ระบุ

สำหรับ โควต้าในส่วนของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา หากไม่ได้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ก็จะขอสละสิทธิ์ตำแหน่งรัฐมนตรี ให้กับลูกชาย คือนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ และขอเก้าอี้รมว.คมนาคม ให้กับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์

ขณะที่ โควต้าของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้มีการขอโควต้า รมว.พลังงาน ให้กับ น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค และขอกระทรวงไอซีที ให้กับกลุ่มของว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี รวมทั้งขอเก้าอี้เพิ่มเติม ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ให้กับนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษกิจของพรรค รวมถึงขอเก้าอี้รมช. คลัง หรือ รมช.คมนาคม ด้วย

แหล่งข่าวรายเดิม ยังเปิดเผยด้วยว่า ในกรณีที่พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะดำเนินการตั้งรัฐบาลแข่งทันที โดยจะเชิญพรรคภูมิใทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคมาตภูมิ และพรรคกิจสังคม ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเข้าร่วม โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีเงื่อนไขว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องเว้นไว้ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น และขอดูแลในกระทรวงหลัก ได้แก่ รองนายกฯด้านความมั่นคง กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ยังคงยื่นโควต้าเดิม ที่เสนอให้แกนนำพรรคเพื่อไทยพิจารณา ส่วนพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอขอโควต้ากระทรวงเกรดเอเกือบทั้งหมด ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ

ขณะที่ พรรคกิจสังคม ของนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม ยังคงเป็นโควต้าเดิม คือ รมว.ทรัพยากรฯ และพรรคมาตุภูมิ ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่จะต้องเข้ามาเบียดแทรกในส่วนของกระทรวงด้านความมั่นคง อย่าง กระทรวงกลาโหม เป็นต้น

ขาเชียร์เพื่อไทยโวยบัตรเลือกตั้งชื่อพท.ตัวเล็กเท่ามด
กองเชียร์เพื่อไทยเบอร์1ได้พากันแสดงความเห็นกว้างขวางตามเว็บบอร์ด และสื่อโซเชียล เน็ตเวิร์คว่า นี่เป็นตัวอย่างบัตรเลือกตั้งที่จะมาให้เรากาเลือกเบอร์หรือพรรคที่ชอบลงไป ขอให้ทำความคุ้นเคยกับมันให้ดีๆละ แต่ที่น่าสังเกตก็คือทำไมกกต.ถึงไม่พิมพ์Logoของพรรคเพื่อไทยแบบเต็มๆช่อง น่าจะพิมพ์โดยที่ไม่เอาตัวอักษรชื่อพรรคมาต่อท้ายอัดลงไปให้มันดูเล็กจนแทบ มองไม่เห็นแบบนี้

จะท้วงก็ไม่ได้ เพราะมันต้องเปลี่ยนPlateการพิมพ์ใหม่สิ้นเปลืองงบอีก แถมกกต.ก็คงจะบอกปัดความรับผิดชอบไปว่า ก็พรรคเพื่อไทยเสนอLogoแบบนี้ออกมาเอง ทั้งๆที่พรรคนี้เขามีLogoให้ใช้กันหลายแบบ แต่กกต.กลับเลือกเอาLogoแบบนี้มาใช้พิมพ์ลงในช่องLogoในบัตรเลือกตั้งเพราะ อะไรกัน

อยู่มหาสารคามดีๆ...แต่กลับไปมีชื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าอยู่ที่สุราษฏร์ "เกือบยกหมู่บ้าน"

นาย ชาญชัย เรืองสุวรรณ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 1 ต.กุดรัง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่านายชาญชัย ได้มาร้องเรียนกับศูนย์ต่อต้านการทุจริตของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากอยู่ดีๆ ก็มีชื่อไปปรากฏว่าจะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งที่ไม่เคยลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตแต่อย่างใด จึงได้มาร้องเรียนและขอให้พรรคช่วยตรวจสอบ ซึ่งพรรคได้มอบหมายให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไปดำเนินการตรวจสอบ และรายงานให้พรรคทราบต่อไป เพราะน่าตกใจมาก

เนื่อง จากไม่ใช่เฉพาะนายชาญชัยคนเดียวเท่านั้น แต่มีรายชื่อคนในหมู่บ้านถึง 30 คนที่ถูกหมายเหตุว่าต้องไปเลือกตั้งล่วงหน้าที่ จ.สุราษฎร์ธานี เหตุการณ์อย่างนี้ทำให้พรรครู้สึกกังวลว่าหมู่บ้านทั่วประเทศจะมีกรณีอย่าง นี้เกิดขึ้น โดยที่ชาวบ้านไม่รู้มาก่อน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับหลายหมู่บ้านก็แสดงว่าอาจจะมีแนวโน้มไปในทางทุจริตได้ ซึ่งพรรคจะติดตามต่อไป

เพื่อไทยบุรีรัมย์ โวยคู่แข่งแจกเงิน-ย้ายชื่อ

วัน ที่ 13 มิ.ย.2554 ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) เวลา 14.00 น. ศูนย์ต่อต้านการทุจริตการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ฯ และพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ประธานศูนย์ฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าว

โดยพล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยใน จ.บุรีรัมย์ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยกรณีพบการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็น ความผิดฐานซื้อเสียงเลือกตั้ง ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 มาตรา 53 (1) และมาตรา 137 ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4-5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนแจ้งเบาะแส พร้อมนำภาพและเสียงบันทึกเหตุการณ์ที่มีการเรียกประชุมแกนนำหมู่บ้านของผู้ สมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งหนึ่งของ จ.บุรีรัมย์

โดยในภาพและเสียง ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.มีการเรียกประชุมแกนนำหมู่บ้านที่วัดแห่งหนึ่ง และหลังประชุมเสร็จมีการให้เงินแกนนำบางคน ส่วนวันที่ 5 มิ.ย. มีการเรียกประชุมที่โกดังแห่งหนึ่ง เสร็จแล้วก็มีทีมงานซึ่งเป็น ส.จ.ในพื้นที่คอยแจกเงินคนละ 200-300 บาท โดยผู้ที่นำรถยนต์มาจะได้เพิ่มคนละ 500 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ได้เพิ่มคนละ 100 บาท

พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ข้อมูลทั้งหมด ทางพรรคได้ส่งให้ กกต.กลาง และนำพยานบุคคลเข้าให้ถ้อยคำไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งจากข้อมูลที่ส่งให้กับ กกต.นั้น พรรคเห็นว่าน่าจะเพียงพอที่ กกต.จะพิจารณาได้เสร็จก่อนวันเลือกตั้ง เพราะมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน แต่ผลคำวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกกต.เราคงไป ชี้นำไม่ได้ อย่างไรก็ตามคงบอกไม่ได้ว่าข้อมูลที่ได้รับเป็นของผู้สมัครพรรคใด และเขตใด

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker