บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คลิป8-1นักเขียนชื่อดังร่วมกันอ่านจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนนักเขียนทั่วประเทศ ว่าด้วยมาตรา 112

ทึ่มา Thai E-News

แถลงข่าวเรื่อง จดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนนักเข� from duhlagalaladum on Vimeo.


โดยทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา ประชาไท

หมายเหตุไทยอีนิวส์:คณะนักเขียนที่มีชื่อเสียงจำนวน 8 ลบ 1 คน ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนนักเขียนทั่วประเทศ ว่าด้วย มาตรา 112' เมื่อคืนวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา (มีรายงานว่า มีนักเขียนสตรีรายหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก จำต้องถอนตัวออกจากรายชื่อผู้ริเริ่มก่อการ จึงกลายเป็น 8 ลบ 1)ต่อมาคณะนักเขียนผู้ก่อการชุดนี้ได้เปิดแถลงข่าวขึ้น ดังในคลิปข้างต้นนี้

คณะนักเขียนผู้ริเริ่มก่อการแจ้งว่า จะปิดลงชื่อในคืนวันที่ 24 มิถุนายน 2554 นี้ โดยจะมีการออกแถลงการณ์ปิดการลงชื่อ ณ เวลา 23.00 น. และเจ้าภาพทุกคนจะออนไลน์พร้อมกันที่กระทู้แถลงปิดการลงชื่อดังกล่าว พร้อมกับแสดงความเห็นกันคนละเล็กละน้อย จึงขอเรียนเชิญผู้ลงชื่อทุกท่านที่ต้องการแสดงความเห็นในวาระดังกล่าวนี้ โดยท่านต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ไทยโพเอ็ทโซไซตีนี้ก่อน จึงจะสามารถโพสต์ความเห็นได้ (http://www.thaipoetsociety.com/index.php?action=register) จึงเรียนมาล่วงหน้าเพื่อให้ท่านที่ต้องการแสดงความเห็นเตรียมสมัครสมาชิกไว้ก่อน

สำหรับรายละเอียดการแถลงข่าวตามคลิปนี้มีนักเขียนที่ร่วมแถลง คือ

บินหลา สันกาลาคีรี
ปราบดา หยุ่น
ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง
ซะการีย์ยา อมตยา
กิตติพล สรัคคานนท์
วรพจน์ พันธุ์พงศ์
วาด รวี

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ในคืนวันที่ 19 พฤษภาคม พ. ศ. 2554 ที่ผ่านมา พวกเราทั้งแปดลบหนึ่งนักเขียนในที่นี้ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนนักเขียนด้วยกัน เรื่องขอเชิญร่วมลงชื่อในการเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 และยุติการใช้ข้อกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในการปิดกั้นการแสดงออกและแสดง ความคิดเห็นทางการเมือง (อ่านจดหมายได้ที่ http://www.thaipoetsociety.com/index.php?topic=3668.0)

นับจากวันที่จดหมายได้กระจายออกไปถึงเพื่อนนักเขียนทั่วประเทศ จนถึงวันนี้ วันที่ 7 มิถุยายน พ. ศ. 2554 มีผู้ลงชื่อเห็นด้วยกับเนื้อความในจดหมายเป็นจำนวน 320 คน เป็นรายชื่อนักเขียนที่หลากหลายทั้งอายุ สถานะ และแขนงงาน มีทั้งนักเขียนอาวุโส นักเขียนรุ่นใหม่ มีทั้งนักเขียนผู้เป็นศิลปินแห่งชาติ นักเขียนและกวีผู้มีชื่อเสียงในระดับกว้าง นักเขียนรางวัล เช่น รางวัลศรีบูรพา รางวัลศิลปาธร รางวัลซีไรต์ รางวัลรพีพร มีทั้งคอลัมนิสต์ยอดนิยม บรรณาธิการผู้มีอิทธิพลต่อวงการวรรณกรรม นักเขียนสารคดีคุณภาพ นักวิจารณ์ นักแปล รวมถึงนักเขียนบล็อก เขียนโฆษณา เขียนเนื้อเพลง เขียนการ์ตูน เขียนข่าว และอื่นๆ โดยท่านสามารถเข้าไปอ่านรายชื่อทั้งหมดได้ด้วยตนเองตามลิงก์ของเว็บไซต์ที่ ปรากฏบนจอขณะนี้

ในรายชื่อนักเขียน 320 คน ประกอบไปด้วยผู้มีความเชื่อและศรัทธาที่หลากหลายแตกต่าง บ้างถึงขั้นยืนอยู่คนละขั้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทัศนะทางการเมือง มีทั้งนักเขียนที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนหลากสี เป็นสลิ่ม เป็นคนสีส้ม สีรุ้ง สีดำ สีขาว สีแดงระเรื่อ สีแดง ไปจนถึงสีชมพู

นอกจากนักเขียนที่ร่วมลงชื่อ ยังมีเพื่อนนักเขียนอีกจำนวนมากที่ให้การสนับสนุนในรูปแบบอื่นๆ หรือแสดงทัศนะเห็นด้วยกับพวกเราเป็นการส่วนตัว แต่ไม่สามารถร่วมลงชื่อ ด้วยเหตุผลต่างๆกัน พวกเราเคารพเหตุผลของเพื่อนนักเขียนทุกท่านที่ไม่อาจแสดงตัว ทว่าเหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เพื่อนนักเขียนไม่อาจลงชื่อ เป็นเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นในจดหมายและยิ่งตอกย้ำให้เราเชื่อมั่นว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาสั่นคลอนเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นอย่าง ปฏิเสธไม่ได้

เหตุผลนั้นคือความกลัว

แม้ว่าพวกเราในที่นี้จะเป็นผู้ร่างจดหมายเปิดผนึกขึ้น แต่เนื้อความและข้อเรียกร้องในจดหมายมิได้สะท้อนตัวตนเชิงปัจเจกของพวกเรา แต่ละคนในด้านอื่นแต่อย่างไร อีกทั้งมิอาจแสดงทัศนะและอัตลักษณ์ส่วนบุคคลในมิติที่ข้ามเลยขอบเขตของเนื้อ ความในจดหมาย พวกเรามิใช่กลุ่มก้อนที่ต้องการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือระดมแนวร่วมเชิง อุดมการณ์ พวกเราปราศจากผลประโยชน์ส่วนตัวและไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ นอกเหนือไปจากการเรียกร้องเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น และความเป็นธรรม อันเป็นปัจจัยสำคัญขั้นพื้นฐานที่ประชาชนในสังคมประชาธิปไตยพึงได้รับ และเป็นหัวใจของการทำงานเขียน ซึ่งผูกพันเกี่ยวข้องกับพวกเราและนักเขียนผู้ร่วมลงชื่อทั้งหมดโดยตรง

คงไม่เกินเลยความจริง หากจะสรุปในเบื้องต้นจากเสียงตอบรับของเพื่อนนักเขียนท่ัวประเทศว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นประเด็นที่นักเขียนไทยจำนวนไม่น้อยเห็นว่ามีปัญหาและถึงเวลาแล้วที่ต้อง ทบทวนแก้ไข เพื่อนำสังคมไทยไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่ให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและ แสดงความคิดเห็นกับประชาชนอย่างเป็นธรรม ทั่วถึง และแท้จริง

นับตั้งแต่วันที่จดหมายเปิดผนึกได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีสื่อมวลชนและกลุ่มคนจำนวนหนึ่งตั้งคำถามกับเจตนารมณ์ของพวกเราและเพื่อน นักเขียนที่ร่วมลงชื่ออย่างค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ ท่าทีในการตั้งคำถามมีทั้งการโต้แย้งแสดงทัศนะอย่างมีเหตุผล ไปจนถึงด่าทออย่างหยาบคายและใส่ร้ายบิดเบือนข้อเรียกร้องของเราโดยสิ้นเชิง หากบุคคลประเภทหลังนี้มีความเข้าใจภาษาไทยและได้อ่านจดหมายเปิดผนึกอย่าง ละเอียด ย่อมจะพบว่ามิได้มีข้อความใดถูกเขียนขึ้นด้วยถ้อยคำหรือความคิดเชิงลบหลู่ดู หมิ่น หวังร้ายต่อบุคคลหรือสถาบันใดทั้งสิ้น อีกทั้งยังระบุไว้ชัดเจนหนักแน่นว่า ข้อเรียกร้องของพวกเราเป็นข้อเรียกร้องต้องการเสรีภาพในการแสดงออกและแสดง ความคิดเห็น และความเป็นธรรม ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย

สำหรับสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่ออกมาโต้แย้งข้อความในจดหมายของพวกเราด้วยความ เห็นที่ว่ากฎหมายมาตรา 112 ไม่เคยสร้างปัญหา ไม่เคยสร้างความไม่เป็นธรรม และไม่เคยตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร ดูเหมือนพวกท่านจะพยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือเพิกเฉยต่อสิ่งที่มีข้อมูลหลักฐาน เป็นที่ถกเถียงในสังคมอย่างกว้างขวาง และเป็นหัวข้อในการเสวนาทางวิชาการ ทั้งในสถาบันการศึกษาและในสื่อกระแสหลักสืบเนื่องมาเป็นเวลานาน กระทั่งนักการเมืองและบุคคลชั้นปกครองของประเทศหลายกลุ่มหลายฝ่าย รวมทั้งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ก็ได้เคยแสดงความเห็นในที่สาธารณะไว้อย่างชัดเจน ว่ากฎหมายมาตรานี้มีปัญหาและสมควรได้รับการทบทวนแก้ไข

สำหรับเพื่อนนักเขียนบางกลุ่มบางท่าน ที่มีความเคลือบแคลงใจในเจตนาของพวกเราผู้ร่างจดหมาย ขอให้สบายใจได้ว่าไม่มีพวกเราคนใดคิดนำการตอบรับของเพื่อนนักเขียนไปใช้ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม เราขอยืนยันอีกครั้งว่าจดหมายเปิดผนึกของเรามิได้เป็นตัวแทนทางความคิด ความเชื่อ และทัศนะทางการเมืองด้านอื่นๆของพวกเราแต่ละคนไปเสียทั้งหมด เราเชื่อว่าเพื่อนนักเขียนมีวุฒิภาวะเพียงพอในการแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกจาก ข้อเรียกร้องเพื่อส่วนรวม และมีความหนักแน่นในตัวเองเพียงพอจะไม่หวั่นไหวไปกับข้อกล่าวหาเหมารวมที่ ไม่สร้างสรรค์ และมีแต่จะนำมาซึ่งความแตกแยกร้าวฉานระหว่างผู้มีความต้องการเดียวกัน นั่นคือเสรีภาพ ความเป็นธรรม และประชาธิปไตย

เรามิใช่คนกลุ่มแรกที่นำเสนอปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 กระทั่งในแวดวงนักเขียนก็มีผู้รณรงค์เรื่องนี้มาก่อนและยังเคลื่อนไหวอยู่ใน ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับจากเพื่อนนักเขียนในครั้งนี้ถือเป็นอีกสัญญาณสำคัญที่ บ่งบอกอย่างเป็นรูปธรรมแล้วว่า มีความเป็นห่วงกังวลกับบรรยากาศในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นในสังคมไทย และการคุกคาม ข่มขู่ การก่อให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นในสังคมด้วยกฎหมายมาตรา 112 โดยคนบางกลุ่มนั้น มีอยู่จริงอย่างไม่ต้องสงสัย

ในฐานะนักเขียนต่างสายต่างแขนง ไม่ใช่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยตรง สิ่งที่เราทำได้คือแสดงพลังเสียง และเราเชื่อว่าเสียงตอบรับอย่างกว้างขวางจากเพื่อนนักเขียนในครั้งนี้มีพลัง เพียงพอในการเรียกร้องให้สังคมนำกฎหมายมาตรา 112 มาทบทวนอย่างเปิดเผยและจริงจัง

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสัญญาณเสียงของเราและเพื่อนนักเขียนจะดังไปถึง นักการเมืองและบุคคลในระดับชั้นปกครองทุกฝ่าย และส่งผลให้พวกท่านตระหนักว่า ไม่อาจรีรออีกต่อไปที่จะนำกฎหมายมาตรา 112 มาไตร่ตรอง ทบทวน และแก้ไขเพื่อส่วนรวม และเพื่อส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เข้มแข็ง มีสำนึกประชาธิปไตย และมีความสามัคคี ด้วยเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น

มิใช่ด้วยอำนาจมืดและความหวาดกลัว

ด้วยความเคารพและขอบคุณ



บินหลา สันกาลาคีรี
ปราบดา หยุ่น
ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง
ซะการีย์ยา อมตยา
กิตติพล สรัคคานนท์
วรพจน์ พันธุ์พงศ์
วาด รวี

7 มิถุนายน 2554

*********

เรื่องเกี่ยวเนื่อง:วิวาทะกรณีม.112 ระหว่าง "รมว.นิพิฏฐ์" กับนักเขียน "วาด รวี - ปราบดา หยุ่น"

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker