บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ณัฐวุฒิVSมาร์ค91ศพภาค2:ชายชุดดำๆๆไม่มีคำว่าเสียใจไร้คำขอโทษ คุณไม่ต้องรับผิดชอบเลยหรือ?

ที่มา Thai E-News

อภิสิทธิ์:ใน บันทึกฉบับล่าสุดนี้นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงชายชุดดำ 4 ครั้ง กลุ่มติดอาวุธ 3 ครั้ง ว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเสียชีวิต 91 ศพ ไม่มีตอนใดที่กล่าวว่า เป็นฝีมือของทหารใต้คำสั่งการของเขา และเขาก็ไม่ได้สั่งฆ่า

ณัฐวุฒิ:คนเป็นนายกฯไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ คำว่าเสียใจคำว่าขอโทษก็ไม่ต้องมีให้ประชาชน และร่างไร้วิญญาณเหล่านี้เลยใช่ไหม

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 มิถุนายน 2554

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยได้เขียนลงในเฟซบุ๊คของเขา ตอบ โต้ข้อเขียนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เขียนในเฟซบุ๊คเรื่อง จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ 4:91 ศพสังเวยความต้องการใคร (ภาค 2) ดังต่อไปนี้


1.การอ้างเหตุว่ามีการยิงเอ็ม79ตามที่ต่างๆทำให้ถูกกดดันให้ใช้กำลังสลายการชุมนุมเลื่อนลอยน่าใจหาย ในเมื่อรัฐบาลหาตัวคนทำความผิดไม่ได้ จะมีความชอบธรรมอะไรจัดการประชาชนผู้บริสุทธิ์

คุณอภิสิทธิ์พยายามบอกว่าตัวเองถูกกดดันจากประชาชนให้ใช้ความเด็ดขาดตลอด เวลา ผมไม่เข​้าใจว่าระหว่างกดดันให้ยุบสภา เพราะคุณมาด้วยอำนาจพิเศษ กับกดดันให้สลายการชุมนุม ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคนบาดเจ็บล้มตาย ทำไมเลือกใช้ความรุนแรงครับ

‎2.เรื่องรพ.จุฬาฯเป็นการตัดสินใจเฉพาะหน้าของเพื่อนเราบางคนเพราะเชื่อ ว่ามีกำลังทหารอยู่ในนั้น​ หลังเกิดเหตุเราแถลงยอมรับความผิดพลาดพร้อมทั้งขออภัยทางรพ.รวมทั้งเปิด พื้นที่ชุมนุมบางส่วน ทั้งที่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะความชัดเจนเร​ื่องกำลังทหารยังไม่มี มีการย้ายผู้ป่วยบางส่วนออกจากรพ.ก่อนหน้านี้ เหลือบางรายที่ย้ายหลังการเข้าไปตรวจสอบโดยผู้ชุมนุม แม้เป็นเรื่องไม่ควรเกิด แต่ก็ไม่ควรเป็นข้ออ้างของการสังหารหมู่ประชาชนครับ

‎3.ข้อเสนอวันเลือกตั้งได้รับการตอบรับตั้งแต่ต้น แต่ประเด็นที่เรายังยอมรับไม่ได้คือไม​่มีการพูดถึงความรับผิดชอบต่อความตาย ของประชาชน ไม่มีเรื่องนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณมาเกียวข้องในการตัดสินใจเลย เพราะแกนนำได้ประกาศมติหลังเหตุการณ์ 10 เม.ย.แล้วว่า ไม่ยอมรับการนิรโทษกรรม ตัวเองถูกแจ้งข้อหาก่อการร้ายเรายังปฏิเสธนิรโทษกรรมแล้วเรายังจะไปคิดเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณได้อย่างไร

‎4.ข้อเรียกร้องคือให้นายสุเทพเข้ามอบตัวในคดีสั่งสลายการชุมนุมจนมีคน ตายเกือบ30ชีวิตหลัง10เมษาฯ ไปปรากฏตัวที่dsiไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดีอาญา จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครในรัฐบาลถูกดำเนินคดีหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ สิ่งที่รัฐบาลทำคือสรุปว่า คนเสื้อแดงไม่ยอมรับการเจรจาแล้วก็สั่งกำลังทหารเข้ามา จนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น91ศพ

5.คุณอภิสิทธิ์บอกว่าพยายามเจรจาแล้วทำไมจึงปฏิเสธกลุ่มสว.ที่มาพบพวกผม หลังเวทีในวันที่18พ.ค.ทั้งที่พล.อ.เลิศรัตน์และคณะยืนยันว่าคุณรับรู้ทุก ขั้นตอน เราแถลงข่าวร่วมกันว่า วันที่ 19 เป็นวันเจรจา ผมบอกคณะสว.ด้วยว่า เราพร้อมยุติการชุมนุมทันที คุณอภิสิทธิ์ก็ทราบเรื่องนี้ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเปลี่ยนวันเจรจาเป็นวันสังหารเพราะเตรียมการมาตลอดใช่ไหม บอกสว.ให้มาคุยกับเราจนทุกฝ่ายสบายใจ แล้วค่อยลงมือวิธีการนี้ไม่อำมหิตกับประชาชนไปหน่อยหร​ือ

6.การบอกว่าความตาย14-18พ.ค.เพราะการปะทะระหว่างกองกำลังชุดดำกับเจ้าหน้าที่ ก็ต้องอธิบายว่าทำไมคนที่ตายไม่มีอาวุธในมือแม้แต่คนเดียว พลุไฟตะไลของเล่นที่บางคนถือเรียกว่าอาวุธไหม ศพไหนที่เป็นผู้ก่อการร้าย เจ้าหน้าที่ยิงโดนใครบ้างหรือไม่มีเลย และถามจริงๆว่า คนเป็นนายกฯไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ คำว่าเสียใจคำว่าขอโทษก็ไม่ต้องมีให้ประชาชน และร่างไร้วิญญาณเหล่านี้เลยใช่ไหม

ยังมีต่อแต่ขอเวลาไปปราศรัยก่อนครับ

ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เขียนบันทึก จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ 4ลงในเฟซบุ๊คของเขาเผยแพร่เมื่อเวลา 19.07 น.วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


91 ศพสังเวยความต้องการใคร (ภาค 2)

หลังจากสังคมได้รับรู้เรื่องเหตุการณ์ 10 เมษา และปรากฏการณ์ชายชุดดำ ปัญหาการชุมนุมก็ยังไม่ยุติ

ตรงกันข้ามมีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการยิง M79 ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ที่ศาลาแดง การสูญเสียของเจ้าหน้าที่ที่ถนนพระราม 4 เป็นปรากฏการณ์ที่ตรงกันข้ามกับปี 2551

วันนั้นมีแต่ M79 ยิงใส่ผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตร

แต่ปี ’53 M79 ออกมาจากพื้นที่ชุมนุมยิงใส่ชาวสีลม ข่มขู่ประชาชนทั่วไป

โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่หลายคนไม่อยากจำ แต่ลืมไม่ลง คือ การบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ จนต้องมีการย้ายคนไข้ ไม่เว้นแม้แต่สมเด็จพระสังฆราช

ทุกท่านคงนึกออกว่า แรงกดดันที่มาที่ ศอฉ. ให้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมจะรุนแรงแค่ไหน ผมแบกรับอย่างต่อเนื่อง แต่อดทนเพื่อหาแนวทางสันติ

จนต้นเดือนพฤษภาคม ผมจึงเสนอแผนปรองดองที่พูดถึงการแก้ปัญหาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องของผู้ชุมนุมในทุกเรื่อง

โดยเฉพาะหากยกเลิกการชุมนุมก็จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน ผมถูกก่นด่าว่าอย่างรุนแรงจากคนที่สนับสนุนผม

แต่ผมต้องการเห็นบ้านเมืองสงบทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ข้อเสนอทั้งหมดไม่ได้คะแนนจากชาวเสื้อแดง แต่เสียคะแนนจากฝ่ายสนับสนุนผม

ข้อเสนอผมเป็นเหตุเป็นผลขนาดที่แกนนำบนเวทีต้องตอบรับแต่ขอเวลาที่จะตัดสินใจในการสลายการชุมนุม

ระหว่างนั้นผมก็ให้คุณกอร์ปศักดิ์ประสานงานตลอด แต่เจรจาอย่างไรก็ไม่เป็นผล ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มขอคืนพื้นที่บริเวณโรงพยาบาลจุฬาฯ ฯลฯ

สิ่งที่ผมสังหรณ์ใจไม่ผิดก็คือ แผนปรองดองทั้งหมดมีจุดอ่อนจุดเดียว คือ ไม่มีการนิรโทษกรรมให้คุณทักษิณ

แม้แกนนำหลายคนก็เริ่มอยากจะให้แผนนี้เป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย การเจรจาคืบหน้าไปจนถึงจุดที่ว่าจะช่วยกันดูแลให้พี่น้องคนเสื้อแดงที่มา ชุมนุมกลับบ้านได้อย่างไร เช่น ประสานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

แต่สุดท้าย การเจรจาก็ล้มเหลว เพราะไม่ได้รับไฟเขียวจากนายใหญ่ ฝ่ายเจรจาของผู้ชุมนุม ที่แปลกใจหรือผิดหวังตั้งแต่ 10 เม.ย.ว่ามีคนตายแล้วแต่รัฐบาลยังอยู่ได้ มองว่า หากไม่มีการนิรโทษกรรม คุณทักษิณก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร จึงไม่ต้องการให้คลี่คลาย เพราะไม่ได้รับชัยชนะ แม้แต่ก่อนสลาย เราพยายามจะเจรจาให้ส่งผู้ชุมนุมกลับบ้านก่อนมอบตัว แต่ถูกปฏิเสธ

ในที่สุด เวลาผ่านไป 10 วันก็ชัดเจนว่า จะไม่มีการเลิกการชุมนุม

ศอฉ. จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรักษากฎหมายโดยการ “กระชับพื้นที่”

ไม่ได้เข้าไปสลายการชุมนุม แต่ตั้งด่านปิดล้อมเพื่อให้คนออกจากพื้นที่ชุมนุม ไม่ให้คนเข้า เพียงแต่ต้องใช้อาวุธจริงเพื่อป้องกันตนเองและป้องกัน M79

ความสูญเสียระหว่างวันที่ 14-18 พ.ค. ไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่มีใครสั่งฆ่าประชาชน แต่มีกลุ่มคนติดอาวุธโจมตีด่าน ทำให้เกิดการปะทะกัน โดย ศอฉ.ได้เตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มอาสาสมัคร และสื่อมวลชนให้ระวังตัวว่าจะเป็นเป้าของการยั่วยุให้ปะทะ และชายชุดดำซึ่งอยู่ที่ตึกชีวาทัย (ถ.ราชปรารภ) และบริเวณใต้ทางด่วน ถ.พระราม 4

หลายคนเคยเห็นภาพที่ทำได้กระทั่งเอาเด็กมาเป็นโล่มนุษย์

จนในที่สุด ศอฉ. จำเป็นต้องตัดสินใจเข้ายึดพื้นที่บริเวณสวนลุมฯ ซึ่งเป็นที่ซ่องสุมของอาวุธและชายชุดดำในเช้าวันที่ 19 พ.ค. แต่ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ชุมนุม จนแกนนำยอมสลายเอง ซึ่งหากไม่ทำเช่นนั้น ความสูญเสียก็จะมีต่อไปไม่รู้จบ

แต่แล้วปัญหาก็ไม่ได้จบไปกับการสลายการชุมนุมและการมอบตัวของแกนนำ ซึ่งก็เป็นไปตามคำประกาศครั้งสุดท้ายของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่พูดบนเวทีก่อนสลายการชุมนุมว่า

“การชุมนุมยุติลงแล้ว แต่การต่อสู้ของเรายังไม่จบ”

จากนั้นไม่ถึงชั่วโมง กรุงเทพฯ ก็กลายเป็นทะเลเพลิงเหมือนกับที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เคยปลุกระดมเอาไว้

เป็นสถานการณ์ที่พี่น้องจำนวนมากที่ติดตามจากการถ่ายทอดสดของทีวีแทบทุกช่อง อาจถึงขั้นหลั่งน้ำตาที่ต้องมาเห็นภาพคนไทยฆ่ากันเอง และยังต้องสลดหดหู่กับภาพคนไทยเผาเมืองหลวงของเรา เพราะถูกปลุกปั่นยุยงด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จอีกด้วย

เหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนไทยอย่างมากก็คือ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นที่วัดปทุมฯ

ที่จริงเมื่อมีข้อเสนอให้ประกาศเป็นเขตอภัยทาน ผมให้คุณกอร์ปศักดิ์ประสานไปว่า ไม่อยากให้ทำ เพราะควรอำนวยความสะดวกให้คนกลับบ้านมากกว่า

ที่สำคัญ ผมบอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะให้มีแต่ผู้หญิง เด็ก คนแก่เข้าไปในพื้นที่ ผมรู้ว่าต้องมีคนติดอาวุธเข้าไปด้วย ซึ่งต่อมาก็มีการพบอาวุธที่ถูกนำไปซ่อนในที่นั้น ผมเคยถามด้วยซ้ำว่า หากมีการยิงกัน ปะทะกันจนเกิดความสูญเสีย ใครจะรับผิดชอบ

แม้ในวันที่ 19 เอง ก็ยังมีคนจากอีสานที่รับจ้างทำบ้องไฟกับเพื่อน ๆ แต่สุดท้ายไม่ได้รับค่าจ้าง หลบหนีเข้าไปอยู่ในวัดปทุมฯ ซึ่งต่อมาได้พยายามหนีกับเพื่อน ๆ ออกจากประตูวัดด้านใกล้แยกอังรีดูนังต์ แต่เพื่อนที่วิ่งนำหน้าถูกกลุ่มชายชุดดำใส่หมวกไหมพรม 5-6 คน ยิงจนเสียชีวิตและลากศพไปเผาบริเวณที่บังเกอร์หน้าวัด เขาจึงวิ่งย้อนกลับไปหลบหนีออกด้านหลังวัด ในที่สุดชายคนนี้ได้ให้ปากคำที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ในฐานะพยานผู้เห็นเหตุการณ์การกระทำอันโหดร้ายของกลุ่มชายชุดดำ

หลังกระชับพื้นที่วันที่ 19 พ.ค. ศอฉ. จึงไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปบริเวณนั้น แต่ก็เจอกับปัญหาเผาเซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์ ไม่นับการเผาช่อง 3 และศาลากลางในหลายจังหวัด

ซึ่งทุกแห่งมีการใช้กลุ่มติดอาวุธยิงสกัดกั้นรถดับเพลิง จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปคุ้มครอง ผมเองยังได้รับการติดต่อจากนักข่าวต่างประเทศที่ถูกยิงบริเวณวัดให้เข้าไป ช่วย ซึ่งรถพยาบาลกว่าจะเข้าไปได้ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่คุ้มครองด้วยความยากลำบาก

ผมไม่สามารถฟันธงได้หรอกครับว่า 6 ศพที่วัดปทุมฯ เป็นฝีมือใคร แต่ผมถามว่า มีเหตุผลอะไรที่เจ้าหน้าที่จะจงใจไล่ยิงประชาชนเมื่อการชุมนุมสิ้นสุดแล้ว ผมเชื่อว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลของการปะทะหรือการฉวยโอกาสของ กลุ่มติดอาวุธที่แฝงตัวอยู่ ซึ่งผมหวังว่าคณะกรรมการฯ และหน่วยงานจะให้ความจริงกับเราต่อไป

เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายลง คนใกล้ชิดผมจำนวนไม่น้อยแนะนำให้ผมยุบสภา ลาออก หรือเว้นวรรคทางการเมือง เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่ต้องมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย พวกเขาบอกผมว่า นับจากนี้ไปชีวิตผมไม่มีทางปลอดภัย แต่ถ้ายอมแพ้ให้คุณทักษิณได้ในสิ่งที่ต้องการทุกอย่างก็จะจบ

แต่ผมไม่คิดว่าจบหรอกครับ ผมว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นหายนะครั้งใหม่ของชาติมากกว่า และที่ผมตัดสินใจมุ่งมั่นแก้ปัญหาต่อไป ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าชีวิตถูกคุกคามได้ทุกเมื่อ ไม่ใช่เพราะยึดติดกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เพราะผมตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเองว่าต้องใช้อำนาจที่มีต่อสู้เพื่อรักษา บ้านเมืองของเรา

ในช่วงเวลานั้น ผมได้รับกำลังใจจากประชาชนจำนวนมากที่ส่งข้อความมายังโทรศัพท์มือถือของผม เป็นแรงใจให้ผมมีความเข้มแข็งยืนหยัดต่อสู้เพื่อนำบ้านเมืองของเรากลับสู่ ความสงบให้ได้

แม้จะอยู่ในอารมณ์เศร้าสะเทือนใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขี้น แต่ผมก็รู้ดีว่ามีหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองที่อาสาตัวมารับใช้พี่น้องประชาชน ผมท้อไม่ได้ และผมไม่มีสิทธิ์ถอยเพราะถ้าทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่า ผมทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนที่ให้โอกาสผมได้เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยมา ยาวนานเกือบ 20 ปี

“อย่าใจเสีย อย่ายุบสภา อย่าลาออก ท่านนายกฯทำดีที่สุดแล้ว”

“หลังควันไฟจบบ้านเมืองก็สงบด้วย สิ่งปลูกสร้างเราซ่อมแซมใหม่ได้ หน้าที่ต่อไปคือนำประเทศผ่านวิกฤติครั้งนี้ให้ได้ ท่านนายกฯ ยังมีหน้าที่สู้ต่อเพื่อบ้านเมืองของเรา เชื่อมั่นว่าท่านทำได้”

และข้อความอีกมากมายที่ส่งมาให้กำลังใจ เป็นเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจที่อ่อนล้าของผมให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง มันสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผมซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศกับ ประชาชนภายใต้การดูแลของผม

ช่วงที่เปลวเพลิงยังลุกโชติช่วงที่เซ็นทรัลเวิลด์ ผู้บริหารของเซ็นทรัลเวิลด์ท่านหนึ่งโทรศัพท์มาหาผม แต่ในขณะนั้นผมกำลังอยู่ในที่ประชุมเพื่อร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคลี่ คลายสถานการณ์ดับไฟกลางเมืองให้ได้ เพราะมีปฏิบัติการของคนชุดดำลอบยิงเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดับเพลิง จน ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก อีกทั้งเมื่อสามารถดับไฟได้แล้วก็ยังมีความพยายามเผาใหม่หลายรอบ ทำให้เซ็นทรัลเวิลด์เกือบมอดเป็นเถ้าถ่าน แต่ในที่สุดเราคนไทยก็ผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกันจนได้

เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ผมโทรศัพท์กลับไปยังผู้บริหารเซ็นทรัลเวิลด์ ยอมรับเลยครับว่า ระหว่างกดหมายเลขโทรศัพท์ผมนึกประหวั่นในใจเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าจะพบกับปฏิกิริยาเช่นไรจากบุคคลที่ถือเป็นผู้สูญเสีย แต่ผมหนีความรับผิดชอบไม่ได้ ไม่ว่าจะถูกต่อว่าแค่ไหน ผมรู้ดีว่าเป็นสิ่งที่ต้องน้อมรับ เพราะแม้จะพยายามอย่างเต็มที่ให้ความสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สินเกิด ขึ้นน้อยที่สุด แต่ก็รู้ดีว่า การจลาจลครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อทั้งภาพลักษณ์ของประเทศและ เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอย่างรุนแรง

ผมต้องขอขอบคุณผู้บริหารเซ็นทรัลเวิลด์ท่านนั้น ปลายสายที่พูดกับผมคำแรกแตกต่างไปจากที่ผมคิดไว้มากนั

“ก่อนอื่นต้องบอกว่า นายกรัฐมนตรีตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ที่โทรมาเพียงแค่ต้องการแจ้งถึงสภาพโครงสร้างอาคาร...”

เราพูดคุยกันถึงการดูแลอาคารไม่ให้ทรุดตัวลงจากเปลวเพลิงครั้งนี้ ขณะเดียวกันผมก็คิดล่วงหน้าไปถึงการเยียวยาทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ เผาบ้านเผาเมืองดังกล่าว ควบคู่ไปกับการจัดการตามกฎหมายกับคนที่ทำชาติย่อยยับ มิใช่เพราะโกรธแค้นแต่ผมยืนยันเสมอว่า บ้านเมืองต้องปกครองโดยหลักนิติรัฐ ใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมตัดสินความถูกผิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับสถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมืองที่ขยายวงกว้าง มากขึ้นทุกที

หน้าที่สมานบาดแผลแผ่นดินยังเป็นสิ่งที่ผมมุ่งมั่นเดินหน้าต่อ แม้จะรู้ว่าการอยู่ตรงกลางระหว่างคนสองสี คือ ทั้งสีเหลืองและสีแดง จะทำให้ผมไม่ได้รับคะแนนนิยมจากสองฝ่ายนี้เลย แต่ผมเห็นว่าการสลายสีให้ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคนไม่ใช่ตกเป็นเบี้ยล่าง มวลชนสีใดสีหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำให้ลุล่วง

เมื่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมทั้งคณะกรรมการของ อ.คณิต นำเสนอข้อมูลกับผมว่า มีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่ไม่ได้รับการดูแลตามสิทธิทางกฎหมาย ผมก็ให้กระทรวงยุติธรรมเข้าไปช่วยเหลือดูแลในเรื่องการประกันตัวตามสิทธิที่ เขาพึงมี เพราะเป็นหน้าที่รัฐบาลในการดูแลประชาชนทุกคนไม่ว่าเขาจะเรียกตัวเองว่าสี อะไรก็ตาม ส่วนการจะให้ประกันตัวหรือไม่นับเป็นดุลพินิจของศาล

นอกจากนั้น ครม.ยังมีมติเพื่อตอกย้ำว่า รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรมในการดูแลสิทธิของพี่น้องเสื้อแดงที่ไม่มีทนาย ความคอยดูแลเหมือนบรรดาแกนนำ

ผู้รู้ครับว่า ทำอย่างนี้คนเสื้อแดงก็ไม่ได้เกลียดผมน้อยลง บางคนออกจากคุกได้เพราะกระทรวงยุติธรรมเข้าไปช่วยดำเนินการให้ก็ยังด่าผม อยู่ดี

ขณะที่คนบางกลุ่มก็ประณามการกระทำของผมว่า เป็นการเกี๊ยะเซี๊ยะกับคนเสื้อแดง ปล่อยคนเผาเมืองออกจากคุก ทั้ง ๆ ที่อำนาจในการประกันตัวนั้นเป็นดุลพินิจของศาลโดยแท้ และดีเอสไอซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีก็ยังมีการคัดค้านการประกันตัวแกนนำบางคนที่ เห็นว่า หากออกจากกรงขังไปอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของบ้านเมือง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไม่ได้มีวาระซ่อนเร้นใด ๆ ทั้งสิ้น

ผมถามง่าย ๆ ครับว่า ถ้าผมต้องการเอาใจฐานเสียงของตัวเองที่ต้องการเห็นความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา กับคนเสื้อแดง ผมก็เพียงอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องเข้าไปดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ปล่อยผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ถูกแกนนำทอดทิ้งให้ติดคุกโดยไม่มีใครเหลียวแล ต้องรับชะตากรรมกินข้าวแดงต่อไปก็ได้ และผมก็ไม่ต้องโดนประณามว่ากลัวคนเสื้อแดง แต่จะได้ใจคนกลุ่มอื่นแทน

แต่ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะผมได้ยืนยันมาตั้งแต่ต้นหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ผมจะเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะสนับสนุนผมหรือไม่สนับสนุนผมก็ตาม

การอยู่ท่ามกลางระหว่างสี ทำให้ผมเปรอะเปื้อนไปด้วยการสาดสีใส่โคลน แต่ผมก็รับสภาพด้วยความอดทนอดกลั้น เพราะรู้ดีว่าการสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างการเมืองสุดโต่งนั้นไม่ ใช่เรื่องง่าย แต่ผมยังไม่ละความพยายามที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศให้จงได้ ไม่ใช่ความปรองดองในหมู่นักการเมืองด้วยกัน แต่ต้องปรองดองบนความถูกต้อง ไม่ให้หลักการของประเทศเสียหาย

วันนี้หลังเหตุการณ์ผ่านไปหนึ่งปี ยังคงมีกระบวนการที่ตั้งธงว่า ผมเป็นฆาตกร

ลองเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่ตากใบ กรือเซะ และการฆ่าตัดตอน 2,000 กว่าศพ ดูสิครับ

แล้วท่านจะเข้าใจความแตกต่างระหว่างการสั่งฆ่าประชาชนกับการรักษากฎหมาย

*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง


-สูตรสำเร็จชายชุดดำแป้กมาร์คเหวอเจอชาวบ้านดวลเดือด เหยื่อคุกแฉโดนกับตัวที่แท้ทะเหี้ย..มคือMIB

-ปริศนาไขกระจ่างชายชุดดำคือใคร? ฮิวแมนไรต์ว็อท์ชแฉทหารฆ่าเสื้อแดงลอยนวลเหนือกฎหมาย

แบรด อดัมส์ แห่งฮิวแมนไรท์วอทช์ล่าวว่า "แกนนำ นปช. ถูกตั้งข้อหาว่าก่ออาชญากรรมร้ายแรงไปแล้ว แต่ถึงแม้รัฐบาลจะให้สัญญาว่าจะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงด้วย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีทหาร หรือตำรวจซักนายที่ถูกดำเนินคดี"..เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลอยู่ เหนือกฎหมาย "สภาพเช่นนี้เน้นให้เกิดความเข้าใจในหมู่ประชาชนไทยว่า ตาชั่งของกระบวนการยุติธรรมนั้นไม่เป็นกลาง"

"เห็นชัดๆ ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลยิงผู้ชุมนุมประท้วง ส่วนกองกำลังติดอาวุธก็ยิงทหาร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครที่ต้องรับผิด" "คนที่ถูกสังหาร และได้รับบาดเจ็บสมควรจะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ รัฐบาลควรจะรับรองว่าผู้ที่ใช้ความรุนแรง และละเมิดสิทธิมนุษยชนจากทั้งสองฝ่ายต้องถูกสอบสวน และดำเนินคดีลงโทษ"
(จากรายงานฮิวแมนไรท์วอทช์เรื่อง:ความล้มเหลวในการเอาผิดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลตอกย้ำปัญหาการปล่อยให้คนผิดลอยนวล )

-นักข่าวสนามเนชั่น:คำขอโทษ จากนายกฯอภิสิทธิ์

92 ศพ

2,000 ผู้บาดเจ็บ

162 คดีภายใต้การควบคุมของดีเอสไอ

31 ผู้เสียชีวิตที่ถูกยิงศีรษะ

0 คำขอโทษจากนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

-365วันคนเจ็บยังถูกใส่ร้าย คนตายยังถูกกล่าวหา ...คน "สั่ง" ยังลอยหน้า คน "ฆ่า" ยังลอยนวล !!

-เช็กบัญชีมือฆ่าหมู่10เมษา-19พฤษภา ใครเป็นมือสไนเปอร์ ใครเหี้ย..มสังหารหมู่วัดปทุม ใครเผาCTW?

-เฟซบุ๊คร้อนฉ่าณัฐวุฒิดวลเดือดมาร์ค91ศพ

กิจกรรม รำลึก 13 เดือนวีรชนราชประสงค์ 9 โมงเช้า นปช.ทำบุญพระ999รูปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนกลุ่มราษฎรใหม่ จัดรำลึกที่ป้ายราชปะสงค์ 17.00-22.00 น.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker