ที่มา ประชาไท
Fri, 2012-08-17 13:00
กรมน้ำจัดประชุม แจงข้อมูลโครงการการสร้างระบบเครือข่ายน้ำทั้งอีสาน อ้างสร้างเขื่อนห้วยสามหมอ-ผันน้ำโขง พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรแก้จน ชาวบ้านในพื้นที่เน้นต้องให้ชาวบ้านรู้ข้อมูลอย่างชัดเจน หวั่นผลกระทบซ้ำรอยโขง ชี มูล
Fri, 2012-08-17 13:00
กรมน้ำจัดประชุม แจงข้อมูลโครงการการสร้างระบบเครือข่ายน้ำทั้งอีสาน อ้างสร้างเขื่อนห้วยสามหมอ-ผันน้ำโขง พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรแก้จน ชาวบ้านในพื้นที่เน้นต้องให้ชาวบ้านรู้ข้อมูลอย่างชัดเจน หวั่นผลกระทบซ้ำรอยโขง ชี มูล
วันนี้ (16 ส.ค. 55) เวลา 13.30 น. กรมทรัพยากรน้ำ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 1
พื้นที่ 10 ลำปาวตอนบน ประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ขอนแก่น
ของโครงการระบบเครือข่ายน้ำในพื้นที่วิกฤต 19 พื้นที่ ณ
หอประชุมที่ว่าการอำเภอกู่แก้ว จ.อุดรธานี
เพื่อทำการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ (FS)
ศึกษาการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
และการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA)
โดยมีผู้นำชุมชนและชาวบ้านเข้าร่วมรับฟังประมาณ 100 คน
การจัดประชุมในครั้งนี้มีตัวแทนทั้งจากกรมทรัพยากรน้ำ
และบริษัทที่ศึกษาข้อมูลโครงการได้ให้ข้อมูลและชี้แจงโครงการแก่ผู้เข้าร่วม
รับฟัง
โดยให้ข้อมูลทั้งในส่วนการศึกษาความเหมาะสมของโครงการต่อการพัฒนาแหล่งน้ำ
และการศึกษาผลกระทบทั้งทางสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพ
นายสุพจน์ เจียระนัยปรีเปรม
วิศวกรแหล่งน้ำและเป็นผู้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ให้ข้อมูลว่า
พื้นที่ศักยภาพด้านการเกษตรของอีสานมีกว่า 71 ล้านไร่
แต่มีขีดจำกัดในการกระจายแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อพื้นที่การเกษตร
ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาศักยภาพแหล่งน้ำในอีสานขึ้น
ทั้งการปรับปรุงพื้นที่แหล่งน้ำเดิมให้เต็มศักยภาพ
การผันน้ำหรือเติมน้ำจากแหล่งน้ำหรือพื้นที่อื่นสู่พื้นที่ที่ขาดแคลน
การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่เพื่อนำสู่การสร้างระบบเครือข่ายน้ำทั้งอีสาน
โดยการพัฒนา แบ่งเป็น 2 ระยะ
ระยะแรกเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำระดับรายตำบลโดยผ่านการทำท่อส่งน้ำลงใต้ดินและ
ขุดลอกคูคลองชักน้ำขนาดเล็ก และระดับใหญ่
ระยะที่สองคือการผันแม่น้ำโขงจากปากแม่น้ำเลย จ.เลย
เพื่อนำน้ำเข้าสู่เขื่อนห้วยสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ
ที่มีแผนจะสร้างขึ้นเช่นกัน เพื่อกระจายสู่แหล่งน้ำทั่วทั้งภาคอีสาน
“เราจะพัฒนาในรูปของธนาคารน้ำ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น แม่น้ำโขง
หรือเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีแผนจะสร้าง เช่น เขื่อนห้วยสามหมอ ที่ จ.ชัยภูมิ
ที่จะมีความจุมากกว่าเขื่อนภูมิพลหลายเท่า
จะเป็นตัวพักน้ำและกระจายน้ำสู่แหล่งน้ำสายย่อยหรือธนาคารน้ำระดับลุ่มน้ำ
เข้าสู่ธนาคารน้ำระดับไร่นากระจายน้ำทั่วทั้งพื้นที่การเกษตรของอีสาน”
นายสุพจน์กล่าว
ด้านนายทองหล่อ ทิพย์สุวรรณ ชาวบ้านตำบลนาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม
จ.อุดรธานี แสดงความคิดเห็นว่า
ที่มาเข้าร่วมเวทีในครั้งนี้แทบไม่รู้ว่าจะมีการจัดเวทีนี้เกิดขึ้น
แต่เห็นใบประชาสัมพันธ์เวทีติดอยู่ที่
อบต.และที่นาของตนเองก็อยู่ในแผนโครงการ
จึงชวนเพื่อนบ้านที่จะมีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการมาเข้าร่วมรับฟัง
เพราะกังวลเรื่องผลกระทบ
หากโครงการนี้ผ่านเขตพื้นที่นาของตนเกรงว่าจะสูญเสียที่ดินที่นาจากการขุด
ลอกขยาย
นายทองหล่อกล่าวด้วยว่า
ส่วนตัวเห็นด้วยถ้าเป็นการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรจริง
แต่จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรู้ก่อน ว่าจะขุดเท่าใด
หากเกิดผลกระทบจะมีการชดเชยการสูญเสียอย่างไร
แต่ที่ผ่านมาแทบไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย
“ต้องบอกรายละเอียดให้ชัด ว่าจะทำอย่างไรขุดลอกลำน้ำกว้างลึกเท่าไหร่
ผลกระทบต่อที่นาจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่จะทำแต่ฝ่ายรัฐอย่างเดียว
ชาวบ้านต้องมีส่วนร่วมคิดและตัดสินใจด้วย
ชาวบ้านกลัวเสียที่นาที่ทำกินจากการขุดลอก
เพราะเคยเห็นผลกระทบจากโครงการโขง ชี มูล และที่ลำน้ำพะเนียง
จ.หนองบัวลำภูมาแล้ว” นายทองหล่อกล่าว