บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2551

“เอิด”

วันนี้ขออนุญาตนำภาษาถิ่นของภาคใต้ คำว่า “เอิด” มาเขียนถึง เพราะผมยังมีความเป็นคนภาคใต้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้สำเนาทะเบียนบ้านจะย้ายออกมาแล้วก็ตาม เช่นเดียวกับ นายวีระ มุสิกพงศ์ ซึ่งคนที่เคารพนับถือกันจะเรียกว่า นายหัววีระ อ.จรัล ดิษฐาอภิชัย ยังมีความเป็นคนภาคใต้สมบูรณ์แบบ ยังได้ลาออกตามคำขู่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เดินทางมาจากภาคใต้ เพราะไม่รู้จะลาออกกับใคร

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เจอกับ นายหัววีระ มุสิกพงศ์ จึงถือโอกาสถามว่า ได้ลาออกจากการเป็นคนภาคใต้หรือยัง นายหัววีระตอบว่า ยัง เพราะไม่รู้จะลาออกกับใคร เช่นเดียวกับความเป็นคนไทย เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ไม่รู้จะไปลาออกกับใคร

ในการนั่งสนทนาปัญหาการบ้านการเมือง กับนักการเมืองระดับบรมครูอย่างนายหัววีระ ไม่มีวันจบสิ้น ผมจึงถือโอกาสเรียนเชิญให้นายหัววีระมาร่วมเติมความเข้มข้นให้กับ นสพ.ประชาทรรศน์ นายหัววีระตอบรับทันที โดยตั้งชื่อคอลัมน์ให้เรียบร้อยว่า

“วีระ มุสิกพงศ์ สวัสดีวันจันทร์”

ข้อเขียนของนายหัววีระ ผมไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ การปราศรัยบนเวที การอภิปรายในสภา เป็นอย่างไร ข้อเขียนก็เป็นอย่างนั้น

ยิ่ง นสพ.ประชาทรรศน์ เป็นสื่อทางเลือกของประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ ยิ่งเข้าทางนายหัววีระ ผู้มีจิตและวิญญาณความเป็นประชาธิปไตยเต็มเปี่ยม

ซึ่งนายหัววีระรับปากกับผมว่า วันจันทร์หน้าจะมาสวัสดีกับท่านผู้อ่านแน่นอน

เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา อ.จรัล ดิษฐาอภิชัย ที่ปรึกษาและคอลัมนิสต์ของ นสพ.ประชาทรรศน์ ก็มาเขียนต้นฉบับ ผมก็ถามถึงการลาออกจากความเป็นคนใต้ อ.จรัล ตอบในทำนองเดียวกับนายหัววีระ

สำหรับ อ.จรัล นั้นน่าจะหนักข้อกว่านายหัววีระ หากจะให้ลาออกจากความเป็นคนภาคใต้ เพราะหาก อ.จรัล รู้ว่าคนที่สนทนาด้วยเป็นคนภาคใต้ อ.จรัล จะไม่พูดภาษากลางเลย จะต้องแหลงใต้กับคู่สนทนาที่เป็นคนภาคใต้

เมื่อเจอหน้า อ.จรัล ผมจึงขอใช้สิทธิ์ขอคำปรึกษาในฐานะที่ อ.จรัล เป็นที่ปรึกษาของหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ ถึงคำว่า “เอิด” ซึ่งเป็นภาษาถิ่นของภาคใต้

เมื่อผมยกคำว่า “เอิด” ขึ้นมา อ.จรัล จึงเสริมทันทีว่า พฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยึดสะพานมัฆวานฯ ปิดถนนประท้วงขับไล่รัฐบาลอยู่ขณะนี้ โดยไร้เหตุผล แสดงความเหิมเกริม เพราะเคยชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สำเร็จมาแล้ว โดยการกวักมือเรียกให้ทหารเข้ามาทำการรัฐประหาร และยิ่งได้ใจที่รัฐบาลไม่สามารถจะทำอะไรได้ ทั้งๆ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

นั่นแหละที่คนภาคใต้เรียกว่า “เอิด”

จะไม่ว่า “เอิด” ได้อย่างไร ในเมื่อเหตุของการยุยงให้คนมาชุมนุมประท้วงนั้น เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับหน้าแหลมฟันดำ ที่ ส.ส. พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการรวบรวมรายชื่อยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชัย ชิดชอบ ซึ่งเป็นสิทธิของของ ส.ส. พึงกระทำได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จากนั้นบานปลายเป็นเรื่องของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีไปพูดที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา มีนายตำรวจคนหนึ่งไปแจ้งความกล่าวหาว่าหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

เมื่อญัตติการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกปลดล็อก โดยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนหนึ่ง ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงถอนชื่อจนญัตติตกไป และนายจักรภพได้ลาออกแล้ว

แทนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยอมสลายการชุมนุม กลับประกาศชุมนุมต่อไปเพื่อขับไล่รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือให้ยุบสภา เข้าทำนอง ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา

ทั้ง 2 เรื่องที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้อง ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเรียกร้องได้เลย เพราะรัฐบาลนี้เพิ่งบริหารราชการแผ่นดินได้เพียง 4 เดือน เพิ่งเริ่มทำงาน จะให้เห็นผลงานทันใจเหมือนกับเพาะถั่วงอกได้อย่างไร

แม้จะอ้างว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจวิกฤติได้ เป็นการกล่าวอ้างโดยทำเป็นไม่รู้ว่าปัญหาเศรษฐกิจวันนี้ วิกฤติทั่วโลก อันเกิดจากปัญหาราคาน้ำมันแพงไม่รู้จบ

และ...ที่สำคัญ วันนี้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาด ก็ควรจะแก้ไขปัญหาด้วยระบบรัฐสภา เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

อาจจะเป็นเพราะ ส.ส. ฝ่ายค้าน มาร่วมเล่นการเมืองนอกสภา ทั้งที่ปากบอกว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภา นี่ไง ที่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม “เอิด” โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

เอกฉัตร



ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker