สังเกตหน้าตาของนายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงที่เจอรายการนอกสคริปของ “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระหว่างเป็นประธานเปิดงานรวมพลคนสายด่วนเพื่อสังคม ของสำนักนายกฯ
ไม่ได้แค่กล่าวเปิดงาน ตัดริบบิ้นแล้วจบ
แต่ “ลุงหมัก” สวมบทแทนสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไล่เช็กงบประมาณโครงการที่สูงเกินความจำเป็น ตั้งแง่สงสัยค่าจัดจ้างประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างพิธีกร ไปยันค่าขนมแจกแขกร่วมงาน
กางโผไล่เบี้ยกันละเอียดยิบ
เจอมุกนี้เข้าไป เจ้าภาพสะดุ้งตามๆกัน
แต่ในมุมของ “ลุงหมัก” งานนี้ถือว่าเป็นช็อตเริ่มต้นของการเล่นบทตั้งใจ มีสมาธิกับการใส่ใจในรายละเอียดผลประโยชน์ของบ้านเมือง
หลังจากจั่วหัวนำร่องในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” สั่งการบ้านให้รัฐมนตรีตีปี๊บ ผลงานแต่ละกระทรวงผ่านรายการข่าวของกรมประชาสัมพันธ์
โชว์ภาพรัฐบาลตั้งหน้าตั้งตาทำงาน
เบี่ยงกระแส ยื้อกับเกมกดดันของม็อบพันธมิตรฯ
ขนาดที่ว่า แม่ค้าขายขนมตลาดบางลำพูแสดงตัวแสดงตนเป็นแนวร่วมรัฐบาล ด่าม็อบพันธมิตรฯให้ฟังดังๆกลางตลาด “ลุงหมัก” ยังโบกมือบอกให้หยุดด่า
เดินหนีเอาซะดื้อๆ
“สมัคร” เดินยุทธศาสตร์ตามทฤษฎี “ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยิน” ปล่อยให้ม็อบเหนื่อย แนวร่วมหดหาย หมดแรงไปเอง
และก็เป็นอะไรที่ได้ผลทันตา
พอ “ลุงหมัก” หยุดแกว่งปากแขวะฝ่ายตรงข้าม สะกดอารมณ์นิ่งได้ ก็เป็นฝ่ายของ “มหาจำลอง” พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำม็อบพันธมิตรฯ ถึงกับบ่นเสียดายที่ “ลุงหมัก” พูดถึงเวทีม็อบน้อยไป
หาเหตุยั่วไม่ขึ้น
ม็อบเลยต้องปรับเกมกันขนานใหญ่ จากมุกดาวกระจายที่ฝืดไป ไม่ค่อยมีคนสนใจ รัฐบาลไม่บ้าจี้เต้นตาม
หันมางัดมุก “อารยะขัดขืน”
ยกระดับความเข้มของเกมกดดัน ยุให้ประชาชนดื้อแพ่งทางกฎหมาย ใช้สิทธิที่จะไม่เชื่อฟังรัฐบาล ไม่เสียภาษี ส่งซิกรัฐวิสาหกิจปิดน้ำ ปิดไฟ
ทิ้งไพ่ตายป่วนกันเลย
แต่ก็รีบออกมาดักคอทันที นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ชิงแถลงกรณีการประกาศยกระดับการชุมนุมไปสู่ความเป็นอารยะขัดขืนของม็อบพันธมิตรฯ
ถือเป็นการกระทำที่จะซ้ำเติมให้บ้านเมืองไปสู่ทางตัน
และไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขปัญหา จึงขอให้ไตร่ตรองถึงผลกระทบจากแนวคิดดังกล่าว
ออกแนวขอร้อง พูดจากันด้วยเหตุด้วยผล
เน้นปมซ้ำเติมบ้านเมือง ฝ่ายรัฐบาลพยายามเล่นบทนิ่ง ชิงเป็นฝ่ายคุมเชิง
พลิกมากดดันม็อบที่กำลังจะหมดมุกเล่น
แต่คนที่พูดได้เนียนกว่าใคร และโดยสถานะที่ไม่ได้มีอคติด้านลบกับม็อบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาสะกิดกันนิ่มๆ เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของม็อบพันมิตรฯจะต้องมีรูปแบบที่หลากหลายออกไป
“แต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะต้องถูกลงโทษ ไม่เช่นนั้นจะไปเรียกร้องว่าอีกฝ่ายอย่าอยู่เหนือกฎหมายคงไม่ได้ เพราะต้องให้กระบวนการยุติธรรมบังคับใช้แบบเสมอภาค”
โดยฐานะของ “อภิสิทธิ์” โดยความถูกต้องตามหลักการ
งานนี้ไม่รู้ใครหลงเหลี่ยมใคร.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน