|
พ.ต.ท. ทักษิณ ใช้เวลาฝึกงานในกระทรวงการต่างประเทศ 100 วัน ขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรี 6 เดือน นายกรัฐมนตรี แล้วกระโดดขึ้นหลังเสือ ในตึกไทยคู่ฟ้า เข้าสู่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีคนที่ 23
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาเดินสายหาเสียง ทำกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทย 49 วัน ก้าวกระโดดขึ้นบนเก้าอี้นายก รัฐมนตรีคนที่ 28
วาระ 10 ปีที่ผ่านมาของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" และวาระอีก 4 ปีของ "น.ส.ยิ่งลักษณ์" ยังคงอยู่ในพงหนามของพรรคฝ่ายค้านและพันธมิตร
ชีวิตนายกรัฐมนตรี "น.ส.ยิ่งลักษณ์" ไม่มีกลีบกุหลาบ นับตั้งแต่วันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ใน ฝ่ายบริหาร มีวาระที่เต็มไปด้วยวงประชุม-วอร์รูม-เวิร์กช็อป การประชุมคณะรัฐมนตรีคราวละไม่น้อยกว่า 50 วาระ, การประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ การนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานบอร์ดระดับชาติ
ทุกวงล้วนเต็มไปด้วยพงหนามอันแหลมคมรออยู่
หลังจาก 49 วันแห่งความสำเร็จผ่านพ้นไป เส้นทางที่เคยปูไว้ด้วย "พรมแดง" ดูเหมือนจะเริ่มสิ้นสุดจบลงเพียงแค่นั้น
เพราะ "พงหนาม" ซึ่งรอทิ่มแทงอยู่เบื้องหน้ากลับงอกเงยขึ้นมา แทรกบนทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบชนิดเร็วเกินคาด
แม้แต่ตัว "ยิ่งลักษณ์" ก็ยังนึกไม่ถึง
เพราะ "ทักษิณ ชินวัตร" ในฐานะ "นายใหญ่" แห่ง "เพื่อไทย" ได้กลายเป็นปัจจัยหลัก ทำให้ "พงหนาม" ผุดขึ้นมา บั่นทอนอายุรัฐบาลของน้องสาวตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกสตาร์ต
ผสมโรงกับ ความ "คลุมเครือ" ของนโยบาย "เพื่อไทย" หลายเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติ เช่น เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ปรับฐานเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ทั้งภาคข้าราชการ-เอกชน การแจกแท็บเลตให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถม 1 ฯลฯ
ยังมีแนวทางการบริหารเศรษฐกิจส่วนรวม ที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบ ที่ "ยิ่งลักษณ์" ต้องศึกษาให้ช่ำชอง
"พงหนาม" บนเส้นทาง "ยิ่งลักษณ์" ครบเครื่องทั้งเรื่องเศรษฐกิจ-การเมือง
ยังไม่ทันแถลงนโยบายก็มีกุศโลบาย ให้ "ทักษิณ" บินเข้าประเทศญี่ปุ่น เป็นกรณีพิเศษ
ไม่นับรวมการลัดเลาะเข้าประเทศกัมพูชา ที่ยังเป็นปัญหาให้ "ยิ่งลักษณ์" ในนามเจ้านายของ "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ ชัยกุล" รมว.ต่างประเทศ
แม้ว่า "สุรพงษ์" และ "ยิ่งลักษณ์" จะประสานเสียงตรงกันว่า ไม่เคยขอให้ญี่ปุ่นออกวีซ่าให้กับ "ทักษิณ"
แต่ ท่าทีอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น กลายเป็นช่องทาง-ลู่วิ่ง ให้พรรคประชาธิปัตย์ ออกสตาร์ตทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์แบบ
ประชาธิปัตย์ ประเดิมงานแรกด้วยการแจ้งความเอาผิดอาญากับ "สุรพงษ์" ฐานทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 และ 192 ที่ระบุว่า ผู้ใดช่วยด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ที่หลบหนีการ คุมตัวตามอำนาจศาล เพื่อไม่ให้บุคคลนั้นถูกจับ ต้องระวางโทษไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้ง ปรับ
"กรณีนี้นายสุรพงษ์รู้อยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังเดินทางเข้าญี่ปุ่น จึงมีหน้าที่ต้องประสานไปทางอัยการ เพื่อให้ตำรวจหรือทางการญี่ปุ่นดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ แต่นาย สุรพงษ์ไม่ได้ดำเนินการเลย กลับช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ถูกจับกุม" เป็น คำแถลงของ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อสื่อมวลชน
ยังมีเรื่องราวที่ "ทักษิณ" ยอมรับกับสำนักข่าวอาซาฮี ชิมบุน สื่อแดนปลาดิบว่ามีส่วนจับวางโผ "ครม.ปู 1"
ถือ เป็นการพูดที่สุ่มเสี่ยงต่อ การ ถูกร้องว่าทำผิดกฎหมายพรรค การเมือง ที่ห้ามไม่ให้ ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเข้ามากระทำการเป็นกรรมการบริหาร พรรค และหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง มีโทษคือ "ยุบพรรค"
ด้าน ปัญหาภายใน "เพื่อไทย" ก็ยังคงคุกรุ่นรอวันปะทุในวันข้างหน้า หลังจากมีบางกลุ่ม บางซุ้มในพรรคชวดเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะถูกซิวเก้าอี้ไปในนาทีสุดท้าย หมายมั่นว่าจะขอแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ความ เคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กับแรงกระเพื่อมที่เริ่มก่อตัวขึ้น กดดันให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนสถานการณ์ภายในพรรคแบ่งแยกออกเป็น 2 ทาง
ทาง 1 เร่งแก้ทันที เนื่องจากคนในพรรคเริ่มมีความระแวง "อำนาจพิเศษ" ขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่า "เพื่อไทย" จะถูกเชือดทิ้งพ้นกระดาน เฉกเช่นไทยรักไทย-พลังประชาชน เมื่อใด
อีกทาง 1 มองว่า ควรให้รัฐบาลบริหารประเทศไปได้สักระยะ โกยคะแนนนิยมใส่กระเป๋า เพื่อให้เป็นที่ยอมรับจากคนทุกฝ่าย หวังกรุยทางแก้ไขรัฐธรรมนูญชนิดไร้เสียงค้าน
แต่ปฏิกิริยาของแกนนำ คนเสื้อแดง ที่เข้ามาหลบชายคา "ปาร์ตี้ลิสต์" อย่าง "หมอเหวง โตจิราการ" ในฐานะหัวหมู่ทะลวงฟัน กลับเปิดหน้าชกช่วยผลักดันให้ "เพื่อไทย" แก้รัฐธรรมนูญทันที พร้อมกับเสนอแนว คิดให้รัฐบาลทุ่มทุน 4 พันล้านบาท ทำ "ประชามติ" ถามความเห็นประชาชน 2 ครั้ง
ก่อน "ขาย" ไอเดีย "ยุบ" องค์กรอิสระที่ถูกแต่งตั้งจากปลายกระบอกปืนทั้งหมด โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตุลาการศาล รัฐธรรมนูญ เพื่อกำจัดเสี้ยนหนามทาง การเมืองให้พ้นไปจากทาง
เพราะทั้ง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ คือ 2 โจทก์สำคัญของ "ทักษิณ" ตั้งแต่ยุค "ไทยรักไทย" จนถึง "พลังประชาชน"
แม้ "ยิ่งลักษณ์" จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ตั้งใจ "แก้ไขทันที" แต่ก็ยังมีคลื่นเสื้อแดงใต้น้ำที่ขยับไหวกระเพื่อม
คำถามสารพัดปัญหา จึงพุ่งเข้าหา "น.ส.ยิ่งลักษณ์" วันละหลายคำถาม
เมื่อ แต่ละคำถามที่พุ่งเข้าหา"ยิ่งลักษณ์" มิได้ผ่านการตระเตรียม โผและสคริปต์กับทีมงานของนายกฯไว้ล่วงหน้า ปัญหาตอบไม่ตรง และประเด็นเปลี่ยนจากบวกเป็นลบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยที่กลายเป็น "พงหนาม" ที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อน ไหวของพี่ชายที่ชื่อ "ทักษิณ"
ยิ่งทำให้ "ยิ่งลักษณ์" ไม่กล้าก้าวย่าง ลงไปเหยียบพงหนาม
วาระ การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 15 วันของ "น.ส. ยิ่งลักษณ์" ยังไม่ได้เผชิญหน้ากับเสือ สิงห์ กระทิง แรด โดยตรงในสภาผู้แทนราษฎร
ยังไม่ได้ตอบกระทู้ ยังไม่ทันเตรียมตัวรับมือศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
15 วันที่ผ่านไป "น.ส.ยิ่งลักษณ์" ยังคลุกอยู่กับปัญหาในพงหนามของ "พ.ต.ท.ทักษิณ"