ตกลงได้ไร้ปัญหา คุม"ก.ท่องเที่ยว" ภายใน2สัปดาห์ เหลิมตอกมาร์ค เคยเด้งพัชรวาท
ผู้นำตำรวจ - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ตร. ขึ้นแท่นตรวจแถวกองเกียรติยศ ก่อนเป็นประธานประชุมก.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. |
"ปู"ประชุมก.ตร.นัดแรก
ความ คืบหน้าข่าวการสับเปลี่ยนเก้าอี้ผบ.ตร. เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ตร. พร้อมด้วยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ดูแลตร.แห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ก.ตร. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคาร 1 โดยเป็นการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2554 แต่ถือเป็นการประชุมครั้งแรก นับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งพร้อมจัดตั้งเป็นรัฐบาล โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมสถานที่เพื่อต้อนรับนายกฯ มีทั้งการตัดแต่งต้นไม้โดยรอบให้สวยงาม ทำความสะอาดพรม ตั้งแต่ทางเดินเข้าอาคารและบันไดทางขึ้นชั้น 2 ทำความสะอาดประตูกระจก
วิเชียร-เพรียวพันธ์รอรับ
เมื่อ นายกฯ เดินทางมาถึงขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองเกียรติยศ (กองเกียรติยศจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล จำนวน 1 กองร้อย 150 นาย) จากนั้นถวายพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 หน้าอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถวายสักการะพระ บรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. และพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บริหาร และคณะกรรมการ ก.ตร.
นายกฯห่วงการพนัน
ก่อน การประชุมน.ส.ยิ่งลักษณ์ เชิญที่ปรึกษาสบ 10 และผู้ช่วยผบ.ตร.ทุกท่าน เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อมอบนโยบายโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นมอบให้ร.ต.อ.เฉลิมเป็นประธานการประชุมแทน ซึ่งใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ร.ต.อ.เฉลิมจึงได้ลงมาแถลงผลการประชุมก.ตร.ด้วยตัวเอง ว่า ท่านนายกฯเป็นประธานการประชุมในช่วงแรกและมอบหมายตนเป็นประธานการประชุมต่อ แต่นายกฯเน้นให้สร้างความเป็นธรรมการบังคับใช้กฎหมาย โดยรัฐบาลจะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตำรวจทุกชั้นยศ แต่ตำรวจต้องสร้างความผาสุกให้พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ท่านนายกฯยังห่วงใยถึงเรื่องอบายมุข การพนันและอาชญากรรม
เอิ๊กอ๊าก - ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ทักทายพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. อย่างเป็นกันเอง ระหว่างติดตามนายกฯมาประชุมก.ตร. ท่ามกลางกระแสข่าวรุนแรงเกี่ยวกับตำแหน่งผบ.ตร. ตามข่าว |
หนุนดันประทวนติดนายร้อย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อ มีเรื่องสำคัญที่จะแจ้งให้ทราบทั้งหมด 3 เรื่อง โดยเรื่องแรก ก.ตร.มีมติให้ขยายเวลาในการแต่งตั้งตำรวจระดับนายพลให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ย. เรื่องที่ 2 พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ เสนอให้ตำรวจชั้นประทวนที่จบป.ตรีและเนติบัณฑิต 52-54 คน ขอให้ก.ตร.อนุมัติให้เป็นอบรมเลื่อนชั้นยศเป็นสัญญาบัตร เรื่องที่ 3 ให้ก.ตร. มีมติให้ตร. ไปออกหลักเกณฑ์เพื่อปรับระดับตำแหน่งตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุตั้งแต่ 53 ปี ให้ไปอบรมเป็นสัญญาบัตรโดยไม่ต้องปรับอัตราเงินเดือน โดยอยู่โรงพักใดให้ขึ้นโรงพักนั้น ทั้งนี้พออายุ 59 ปี เป็นร.ต.อ. สามารถขอลาออกล่วงหน้าได้ยศพ.ต.ต. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ โดยมีเงื่อนไขว่าตำรวจกลุ่มนี้ต้องไม่เคยต้องโทษคดีอาญา ไม่ต้องโทษวินัยร้ายแรง ซึ่งก.ตร. ส่งเรื่องให้สำนักงานกำลังพลเสนอมา โดยจะเรียนนายกฯให้สนับสนุนเรื่องนี้
ลั่นจัดการตร.เอียงข้าง
"วันนี้ ไม่มีการคุยเรื่องแนวทางการแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องการแต่งตั้งเป็นอำนาจของตร. คงไม่ได้เข้าไปล้วงลูก และจะไม่สร้างความหนักใจ ซึ่งการโยกย้ายใครต้องอยู่บนพื้นที่ฐานความถูกต้องชอบธรรมเป็นปัจจัยสำคัญ ตนมาในฐานะรองนายกฯ ที่รับผิดชอบตร. จะไม่มาในฐานะนักการเมือง หากจะบอกว่าการแต่งตั้งจะไม่มีการแสดงความคิดเห็นจากฝ่ายการเมืองคงเป็น เรื่องโกหก อาจเสนอบ้าง นายตำรวจบางจังหวัดที่ไปรณรงค์หาเสียง ตนมีคลิป ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมต่อการเลือกตั้งปล่อยให้อยู่ในพื้นที่ต่อไปก็สร้าง ความเดือดร้อนให้กับประชาชน ข้อมูลตรงนี้ต้องเล่าให้ผบ.ตร. ฟัง" รองนายกฝ่ายความมั่นคง กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามียื่นบัญชีนายตำรวจ เหล่านี้แล้วหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตรงนี้ไม่มีบัญชีแต่ไปสัมผัสด้วยตนเองไม่ใช่มีในใจ อย่างผบก.จว.สุรินทร์ ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการ หรือผบก.นครราชสีมา ที่เสียชีวิตแล้ว และอีกหลายจังหวัดแต่ไม่อยากพูด เดี๋ยวจะหาว่าคำราม ตนอยู่อีสานมา 2 ปี 7 เดือนรู้พื้นที่ดีแต่ก็มีผู้การที่น่ารักมากๆ คือผบก.อำนาจเจริญ นอกนั้นเป๋ไปเป๋มา ถ้าตนมีอำนาจคงทำแล้วแต่ตนไม่มีหากเป็นผบ.ตร.จะเป่านกหวีดปรี๊ดให้เข้า มารับผิดชอบ หากใครรู้ตัวว่าเกินเหตุแล้วขอให้สมัครใจมา นี่พูดแค่กระเซ้าเย้าแหย่
โวตู้ม้าปิดกันเกลี้ยงแล้ว
เมื่อ ถามอีกว่าจะดำเนินการปราบปรามเรื่องบ่อน ตู้ม้าให้เป็นรูปธรรมอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ลองนักข่าวไปดูสิ ตอนนี้ไม่มีแล้ว วันนี้ปิดหมดราพณาสูร ตราบใดที่ตนมีอำนาจเรื่องอย่างนี้เกิดไม่ได้ นายเหลียง ภาค 7 เอาตู้ม้าไปเก็บแล้ว กงลี้ปิดตู้ม้าใหญ่แล้ว อาหม่าก็เลิกแล้ว เมื่อถามว่ามั่นใจว่า จะแก้ปัญหานี้ให้หมดไปได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า มั่นใจในข้าราชการตำรวจที่จะสนองรับ ตนจะไปทำอะไรได้เป็นแค่สารวัตรเอง ยืนยันว่าเรื่องบ่อนระดับ ผกก. ผบก. ทำไม่ได้หรอก ที่มันยุ่งเพราะมีคนแอบอ้าง จากนี้จะไม่มีแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับประธานก.ตร. จะทำงานเป็นหนึ่งเดียว
เปลี่ยนเพื่อใช้คนให้ถูกงาน
สำหรับ เรื่องปรับเปลี่ยนผบ.ตร. เมื่อไหร่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่บอกตอนนี้ยืนยัน ว่าการปรับเปลี่ยนอย่างไรก็ตามเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้คนให้ถูกกับงาน เมื่อถึงเวลาจะบอกให้ทราบ ฝนไม่ตกแดดไม่ออกอย่าเพิ่งกางร่ม ยังไม่หลับอย่าคิดว่าจะฝันเรื่องอะไร ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็มีการเปลี่ยนแปลงแบบ put the right man on the right job อย่าไปมองว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มาดำรงตำแหน่ง ถามว่าตอนปฏิวัติย้ายพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ทำไมเพราะคุณเพรียวพันธ์ เป็นญาติท่านทักษิณ ต้องให้ความเป็นธรรม ทำไมต้องเอาเขาไปสำนักนายกฯ เพราะคุณปฏิวัติ เพราะเผด็จการ มันต้องมีความเป็นธรรม หากจะย้ายพล.ต.อ.วิเชียร หรือไม่ ยังไม่บอกให้สื่อได้ลุ้นมันไม่มีกรอบเวลา ถึงเวลาแล้วก็สบายๆ
ตอกรบ.เก่าก็ย้ายไร้เหตุผล
"เรื่อง ผบ.ตร.นั้นไม่เป็นไรหรอก เมื่อถึงเวลาผมทำของผมเอง มันต้องรอความเหมาะสม ที่ต้องมีทั้งจังหวะ เวลา เหตุผล เรื่องสำคัญที่สุดต้องตอบสังคมได้ ผมถามนิดนึงตอนคุณอภิสิทธิ์ ย้ายคุณพัชรวาท อาศัยเหตุผลอะไร ตอนคุณสุรยุทธ์ ย้ายคุณโกวิท มีเหตุผลอะไร ไม่มีตำตอบให้สังคม ผบ.ตร.อยู่ภาคใต้ ยังไปตั้งคนรักษาราชการทำได้อย่างไร ถ้าผบ.ตร. ยังปฏิบัติหน้าที่ในราชอาณาจักรไทย ถือว่าเขายังเป็นผู้นำสูงสุด ผมเป็นตำรวจ เป็นนักกฎหมาย ผมไม่ทำเป๋ออย่างนั้นหรอก" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
แย้มอีก 7 วันรู้อนาคตผบ.ตร.
เมื่อ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ภายใน 7 วันจะเห็นผบ.ตร.ใหม่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวสั้นๆ ว่า น่าจะใกล้เคียง เมื่อถามต่อว่าตอนนี้ยังขาดอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า บอกหมดคุณก็ไม่ตามสัมภาษณ์สิ
จากนั้นร.ต.อ.เฉลิม ขอตัวก่อนเดินเข้าสำนักงานพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. โดยมีพล.ต.อ.เพรียวพันธ์เดินตามเข้าไปเพื่อพูดคุยกันด้านในโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางกลับ
มารค์จี้ให้ความเป็นธรรม
ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร.ต.อ.เฉลิม ระบุจะพิจารณาการทำหน้าที่ของตำรวจ อาจรวมถึงพล.ต.อ.วิเชียร ด้วยว่า หากมีการดำเนินการ ขอให้ตรงไปตรงมาตามดุลพินิจ อย่ามีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง คิดว่าถ้าจะโยกย้ายอะไร ต้องให้ความเป็นธรรมและตามข้อเท็จจริง ส่วนที่พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร จะมาดำรงตำแหน่งผบ.ตร.แทนนั้น คิดว่าเรื่องความเหมาะสมของตำแหน่งผบ.ตร.เป็นอีกเรื่อง และผู้ที่เหมาะสมจะมาดำรงแทนเป็นอีกเรื่อง
โยกย้ายต้องดูความสามารถ
เมื่อ ถามว่าพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จะมาดำรงตำแหน่งผบ.ตร.อาจถูกมองว่าเป็นความพยายามช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในขั้นนี้ต้องดูก่อนว่า หากมีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแล้ว ผลสอบจะเป็นอย่างไร อย่าคิดล่วงหน้าว่าจะมีคนชื่อไหนมาแทน และไม่ควรเอาเรื่องเป้าหมายที่จะย้ายมาเป็นตัวกำหนด ต้องว่าตามข้อเท็จจริงและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ อยากย้ำว่าการแต่งตั้งโยกย้ายต้องดูตามความรู้ความสามารถ เป็นธรรม มิเช่นนั้นจะเป็นปมของความขัดแย้งต่อไป และตำแหน่งผบ.ตร.ไม่ควรเป็นตำแหน่งทางการเมืองและไม่ควรไปพร้อมกับรัฐบาล เพราะกฎหมายตำรวจพยายามไม่ให้เป็นเช่นนั้น และทุกฝ่ายก็ควรจะเคารพเจต นารมณ์ของกฎหมายด้วย
สอบบ่อนพบบกพร่อง 19 นาย
ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ. สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังจากนำสำนวนการสอบสวนกว่า 1,000 หน้า ขึ้นไปรายงานผลสรุปการสืบสวนสอบ สวนต่อพล.ต.อ.วิเชียร ว่า คณะกรรมการสอบสวนได้สรุปผลการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นครบ 7 วันแล้ว พบมีการเปิดบ่อนการพนันจริง แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับกองบัญชาการ คือตัวพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ฐานไม่ควบคุมกวดขัน ระดับกองบังคับการ คือ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. และผกก.สว.ในกองบังคับการ ระดับสถานีตำรวจ คือพ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน. สุทธิสาร รองผกก.ป. รองผกก.สส. สว.สส. และสว.ป โดยได้เสนอโทษผิดวินัยไม่ร้ายแรง ภาคทัณฑ์ มีโทษกักยาม ให้ผบ.ตร.พิจารณา โดยพิจารณาข้อบกพร่องต่อหน้าที่ในการกระทำความผิด ทั้งหมด 19 นาย ซึ่งจะต้องพิจารณาโทษทางวินัยอีกโดยให้ผบ.ตร.เป็นผู้พิจารณา ต่อไป
วิเชียรเปิดทางเพรียวพันธ์
ค่ำ วันเดียวกัน มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า การพูดคุยถึงการเปลี่ยนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยพล.ต.อ.วิเชียรก็เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และแสดงเจตนารมณ์พร้อมที่จะไปรับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งคาดว่าขั้นตอนต่างๆจะเสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะมีการแต่งตั้งพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็นผบ.ตร.คนต่อไป